นายกรัฐมนตรีเวียดนามและนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย |
ในสภาวการณ์ที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศปี2018ได้รับผลกระทบอย่างเข้มแข็งจากการปรับนโยบายของหลายประเทศใหญ่ซึ่งส่งผลกระทบในหลายด้านทั้งในกรอบของภูมิภาคและของแต่ละประเทศรวมทั้งเวียดนามนั้น แต่งานด้านการต่างประเทศของเวียดนามในปี2018ยังคงประสบผลงานที่เป็นนิมิตหมายสำคัญ ช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศต่างๆรวมทั้งประเทศหุ้นส่วนได้รับการขยายทั้งด้านกว้างและในเชิงลึก โดยเฉพาะการยืนยันบทบาทของเวียดนามในเหตุการณ์ระหว่างประเทศที่สำคัญต่างๆ
นิมิตหมายแห่งการทูตทวิภาคี
ในปี2018 กิจกรรมการไปมาเยี่ยมเยือนกันระดับทวิภาคีได้มีขึ้นอย่างคึกคักตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้ช่วยเวียดนามสร้างกรอบความร่วมมือและกำหนดประเด็นที่สำคัญในด้านต่างๆเพื่อมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจ ยกตัวอย่างเช่นเวียดนามได้ยกระดับความสัมพันธ์กับออสเตรเลียจากหุ้นส่วนในทุกด้านขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ซึ่งทำให้เวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับ16หุ้นส่วน ในขณะเดียวกันก็มีการสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านกับ11ประเทศ ส่วนความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์พิเศษกับลาวและกัมพูชาก็ได้รับการธำรงเสริมสร้าง เอกอัครราชทูตเหงวียนเหงวียดงา รองประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยความร่วมมือแปซิฟิก รองประธานกลุ่มสร้างสรรค์วิสัยทัศน์เอเปกหลังปี2020ยืนยันว่า“เวียดนามกำลังเข้าสู่ระยะการพัฒนาที่สำคัญ พวกเรามีการผสานด้านผลประโยชน์ในขอบเขตกว้างอย่างไม่เคยมีมาก่อนกับ27หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และรอบด้านพร้อมกับ59หุ้นส่วนเอฟทีเอ พวกเราผสมผสานในเชิงรุกและกำลังเชื่อมโยงในฐานะใหม่เพื่อสามารถตามทันแนวโน้มของยุคสมัย”
ไม่เพียงแต่มีการเยือนระดับสูงเท่านั้น หากการพบปะเยี่ยมเยือนในระดับกระทรวง หน่วยงานและกลไกความร่วมมือต่างๆได้ช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศทั่วโลกมีประสิทธิภาพและขยายตัวตามส่วนลึกมากขึ้น รวมทั้งการผลักดันความเข้าใจร่วมเกี่ยวกับระเบียบโลกหลายขั้วในยุคใหม่
ผู้นำหลายชาติเข้าร่วมฟอรั่ม WEF-ASEAN 2018 |
พัฒนารูปแบบการเชื่อมโยงใหม่
ถึงแม้แนวโน้มการคุ้มครอบกำลังเริ่มปรากฎขึ้นในหลายที่แต่มูลค่าการค้าและการดึงดูดเงินลงทุน การท่องเที่ยวจากหุ้นส่วนสำคัญของเวียดนามยังคงมีการขยายตัว โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวเวียดนามได้บรรลุสถิติใหม่คือ15ล้านคน จนถึงปัจจุบันมี71ประเทศที่รับรองเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนาม ในปีนี้เวียดนามได้เสร็จสิ้นการลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกหรือซีพีทีพีพี และข้อตกลงการค้าเสรีกับสหภาพยุโรปหรืออีวีเอฟทีเอ ซึ่งเพิ่มจำนวนข้อตกลงการค้าที่เวียดนามเป็นภาคีคือ16ฉบับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเป็นฝ่ายรุกและการมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ระบบการค้าระหว่างประเทศของเวียดนามและก็มิใช่เรื่องบังเอิญที่เวียดนามได้รับความไว้วางใจได้รับเลือกเป็นสมาชิกคณะกรรมการกฎหมายการค้าระหว่างประเทศของสหประชาชาติวาระปี2018-2025ด้วยเสียงสนับสนุนระดับสูง
ยกระดับสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก
สำหรับด้านการทูตพหุภาคีของเวียดนามในปี2018ก็สามารถสร้างผลงานที่น่าภูมิใจ โดยเป็นครั้งแรกที่โรงพยาบาลภาคสนามของเวียดนามได้เข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ควบคู่กันนั้นเวียดนามยังเข้าร่วมฟอรั่มระหว่างประเทศสำคัญต่างๆโดยเฉพาะในการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกเกี่ยวกับอาเซียนปี2018หรือ WEF-ASEAN ในหัวข้อ อาเซียน4.0 จิตใจแห่งผู้ประกอบการและการปฏิวัติอุตสาหกรรม4.0”ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพได้สร้างนิมิตหมายแห่งเวียดนามที่ผสมผสานอย่างคล่องตัว นาย บอร์เกอ เบรนเดอ ประธาน WEFกล่าวว่า
“ในตลอด27ปีที่มีการจัดการประชุมฟอรั่มWEFภูมิภาคอาเซียนและเอเชียตะวันออก นี่เป็นการประชุมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ซึ่งเวียดนามได้มีก้าวพัฒนาที่น่าประทับใจจากการประชุมเอเชียตะวันออก ณ เวียดนามเมื่อปี2010มาจนถึงการประชุมครั้งนี้ที่สามารถดึงดูดผู้นำหลายชาติเข้าร่วมรวมทั้งผู้ประกอบการชั้นนำของภูมิภาค พวกเราพอใจที่ได้ร่วมมือกับหุ้นส่วนต่างๆของเวียดนามและชื่นชมบทบาทของเวียดนามในการจัดฟอรั่มปีนี้”
ปี2019 โลกและภูมิภาคยังคงปรากฎความผันผวนใหม่ในหลายด้าน ซึ่งท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนั้น เวียดนามยังคงพยายามธำรงนโยบายการต่างประเทศที่อิสระ พึ่งตนเอง ธำรงความสัมพันธ์ที่เปิดกว้างกับทุกประเทศและผลักดันการมีส่วนร่วมในปัญหาร่วมของประชาคมโลกอย่างเข้มแข็งต่อไป.