นาย เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ (Getty) |
นักวิเคราะห์หลายคนได้แสดงความคิดเห็นว่า จากแถลงการณ์ร่วมที่มองจีนเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและความท้าทายอย่างรอบด้าน นาโต้ได้แสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวอย่างไม่เคยมีมาก่อนต่อจีนและมุ่งสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับปักกิ่งตามแนวทางที่แข็งกร้าวมากขึ้น
นาโต้มองจีนเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและความท้าทายเชิงระบบ
ในแถลงการณ์ร่วม บรรดาผู้นำนาโต้มองว่าจีนเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงและความท้าทายเชิงระบบ โดยให้คำมั่นว่า จะตอบโต้การผงาดขึ้นของปักกิ่ง แถลงการณ์ร่วมระบุว่า "พฤติกรรมที่ก้าวร้าวและมากด้วยความทะเยอทะยานของจีนกำลังสร้างความท้าทายในทุกด้านต่อระเบียบสากลที่อ้างอิงตามกฎบัตรและความมั่นคงของนาโต้”
เมื่อย้ำถึงจุดยืนดังกล่าว นาย เจนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ได้ยืนยันว่า การปรากฏตัวของกองทัพจีนที่นับวันเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ทะเลบอลติกไปจนถึงทวีปแอฟริกาทำให้นาโต้ต้องเตรียมความพร้อม เพราะ "จีนกำลังเข้าใกล้เรามากขึ้น เราเห็นจีนในไซเบอร์สเปซ ในแอฟริกา และเราก็เห็นจีนลงทุนเป็นอย่างมากในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญๆของเรา ดังนั้นเราต้องร่วมกันรับมือจีนในฐานะพันธมิตร"
แถลงการณ์ร่วมของนาโต้ได้มีขึ้นหลัง 1 วันที่กลุ่มจี7 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกนาโต้ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องถึงจีนเช่นกัน เช่น ปัญหาสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ การเพิ่มการตัดสินใจด้วยตนเองให้แก่ฮ่องกง การธำรงสันติภาพ และความมั่นคงในช่องแคบไต้หวัน เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่า เป็นปัญหาที่อ่อนไหวและมักจะถูกตอบโต้อย่างเข้มแข็งจากจีน
ก่อนหน้านี้ ในการประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศนาโต้เมื่อวันที่ 23 มีนาคม นาย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้เรียกร้องให้ "นาโต้ให้ความสนใจถึงความท้าทายต่างๆที่จีนสร้างต่อระเบียบสากลที่อ้างอิงด้วยกฎบัตร" ส่วนในการอภิปรายต่อวุฒิสภาสหรัฐเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นายพล สตีเฟน ทาวน์เซนด์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการกองทัพสหรัฐในแอฟริกาหรือ AFRICOM ได้ย้ำว่า ความตั้งใจของจีนในการจัดตั้งฐานทัพเรือในแอฟริกาตะวันตกคือ "ความกังวลสูงที่สุดของบรรดาประเทศมหาอำนาจในการแข่งขันระดับโลก"
นักวิเคราะห์ได้กล่าวว่า จากแถลงการณ์ดังกล่าว นาโต้ ซึ่งนำโดยสหรัฐ นับวันแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวต่อจีนมากขึ้น ถึงแม้เลขาธิการนาโต้ได้ยืนยันว่า จีน " ไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามหรือศัตรู" และเจ้าหน้าที่นาโต้หลายคนได้ย้ำว่า นี่เป็นการปกป้องนาโต้เท่านั้น แต่จีนก็ยังแสดงปฏิกิริยาตอบโต้
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน บรรดาผู้นำนาโต้ได้ออกแถลงการณ์ร่วมที่มองว่า จีนเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงและความท้าทายเชิงระบบ (Reuters) |
จีนแสดงปฏิกิริยาอย่างเข้มแข็ง
หลังจากที่นาโต้ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน คณะผู้แทนจีนประจำสหภาพยุโรปหรืออียูได้เรียกร้องให้นาโต้ยอมรับการพัฒนาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของจีนและยุติ "ความคิดเกี่ยวกับภัยคุกคามจากจีน"ในทุกรูปแบบ โฆษกของคณะผู้แทนจีนได้ยืนยันว่า การที่นาโต้มองว่า จีนสร้าง "ความท้าทายเชิงระบบ" เป็นการป้ายสีต่อการพัฒนาอย่างสันติของจีนและเป็น "การคาดการณ์ที่ไม่ถูกต้อง" เกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศและบทบาทของตนเอง พร้อมทั้งเป็นการปฏิบัติตามแนว “สงครามเย็น” และการทำลายจิตวิทยาการเมืองแบบกลุ่ม จีนปฏิบัตินโยบายกลาโหมในเชิงป้องกันตนเอง ดังนั้นการที่จีนปฏิรูปด้านกลาโหมและกองทัพคือเรื่องที่เหมาะสม ชอบธรรม เปิดเผยและโปร่งใส จีนได้ให้คำมั่นพัฒนาอย่างสันติแต่ไม่เคยละทิ้งสิทธิในการปกป้องสันติภาพและจะยืนหยัดปกป้องอธิปไตย ความมั่นคงและผลประโยชน์ในการพัฒนาของตนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย โดยเฉพาะจะเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ของนาโต้อย่างใกล้ชิดและเตือนว่า ถ้าหากกลุ่มใดอยาก “ท้าทายจีนในเชิงระบบ” จีนก็จะไม่เพิกเฉย
ก่อนหน้านั้น ปักกิ่งได้แสดงปฏิกิริยาต่อแถลงการณ์ร่วมของกลุ่มจี 7 ต่อปัญหาต่างๆของจีน โดยถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในและเรียกร้องให้นาโต้ "ยุติการใส่ร้ายป้ายสี"ต่อจีน
นักวิเคราะห์ได้ระบุว่า ไม่ว่าการถกเถียงและการตำหนิระหว่างนาโต้กับจีนจะเป็นเช่นไร แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายก็ยังคงยากจะคาดเดาได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายจะยังคงไม่ราบรื่นต่อไป./.