(VOVworld) – นาย ถิ่น จอ ประธานาธิบดีเมียนมาร์พร้อมภริยากำลังอยู่ระหว่างการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคมตามคำเชิญของท่านเจิ่นด่ายกวาง ประธานประเทศเวียดนาม ซึ่งถือเป็นกิจกรรมทางการเมืองที่สำคัญระหว่างสองประเทศ

นี่เป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีเมียนมาร์ถิ่นจอเดินทางมาเยือนเวียดนามนับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 มีนาคมปี 2016 (Photo VNplus)

นี่เป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีเมียนมาร์ถิ่นจอเดินทางมาเยือนเวียดนามนับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 มีนาคมปี 2016 และได้มีขึ้นในโอกาสเข้าร่วมการประชุมระดับสูงCLMV8 ACMECS 7 และการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกแม่น้ำโขง ณ ประเทศเวียดนาม อันเป็นการยืนยันว่า ผู้นำทั้งสองประเทศต่างให้ความสำคัญและให้ความสนใจถึงการผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านระหว่างเวียดนามกับเมียนมาร์
ความผูกพันด้วยความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน
เวียดนามและเมียนมาร์มีความสัมพันธ์ที่มาช้านานและมีความคล้ายคลึงกันในด้านวัฒนธรรมและศาสนา ทั้งสองประเทศต่างเป็นสมาชิกของอาเซียน โดยเมื่อปี 1947 เวียดนามได้ตั้งสำนักงานการสื่อสารประจำเมืองย่างกุ้งแล้วได้ยกระดับเป็นสำนักงานตัวแทนของรัฐบาลในปี 1948 และเมื่อปี 1975 ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ ถึงขณะนี้ ความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านระหว่างเวียดนามกับเมียนมาร์ได้มีการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพและประสบผลสำเร็จที่น่ายินดีต่างๆ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ปฏิบัติกลไกความร่วมมือต่างๆ ผู้นำทั้งสองประเทศก็มีการพบปะหารืออยู่เสมอ เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2013 ได้มีการจัดตั้งกลุ่มส.ส.มิตรภาพเวียดนาม – เมียนมาร์และกลุ่มส.ส.มิตรภาพเมียนมาร์ – เวียดนาม เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2014 เวียดนามได้จัดตั้งสมาคมมิตรภาพเวียดนาม – เมียนมาร์เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและการพบปะสังสรรค์ในระดับประชาชน และในปี 2015 ทั้งสองประเทศได้จัดกิจกรรมต่างๆเพื่อฉลองครบรอบ 40 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและจัดการประชุมครั้งที่ 8 คณะกรรมการผสมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีเวียดนาม – เมียนมาร์
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนเป็นจุดเด่นในความสัมพันธ์
ในด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน เวียดนามและเมียนมาร์ได้กำหนดและธำรงความร่วมมือใน 12 ด้านที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ประกอบด้วย การเกษตร การปลูกต้นไม้อุตสาหกรรม สัตว์น้ำ การเงินกับธนาคาร การบิน การสื่อสารโทรคมนาคม ปิโตรเลี่ยม แร่ธาตุ การผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า การผลิตและประกอบรถยนต์ การก่อสร้าง การลงทุนกับการค้า ในหลายปีมานี้ ความสัมพันธ์ร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างน่ายินดี โดยมีการจัดงานแสดงสินค้าในทั้งสองประเทศทุกๆปีเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และดึงดูดการลงทุนของผู้ประกอบการ ทั้งสองฝ่ายยังธำรงกลไกการประชุมอนุกรรมการผสมด้านการค้าเป็นประจำ เวียดนามเป็นหุ้นส่วนการค้าอันดับที่ 10 ของเมียนมาร์ โดยจนถึงเดือนกรกฎาคมปี 2016 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่ 299 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนสินค้าส่งออกนับวันมีความหลากหลายมากขึ้น เช่น เหล็กกล้า ผลิตภัณฑ์จากโลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์พลาสติก เสื้อผ้าสำเร็จรูปและเครื่องเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ถึงเดือนพฤษภาคมปี 2016 เวียดนามมีโครงการลงทุนในเมียนมาร์ 47 แห่ง รวมยอดเงินทุน 557 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้มีการจัดตั้งสมาคมนักธุรกิจเวียดนามที่ลงทุนในเมียนมาร์และได้ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ หลายโครงการที่สร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ให้แก่เวียดนามในเมียนมาร์ เช่น โครงการก่อสร้างเขตคอมเพล็คซ์โรงแรม สำนักงานและศูนย์การค้าของกลุ่มบริษัทหว่างแองยาลาย ณ เมืองย่างกุ้ง โครงการร่วมมือขุดเจาะปิโตเลียมระหว่างกลุ่มบริษัทสำรวจและขุดเจาปิโตรเลี่ยมหรือพีวีอีพี บริษัทปิโตรเลี่ยมเมียนมาร์หรือเอ็มโอจีอี กลุ่มบริษัทเวียดเทลเพิ่งชนะการประมูนและเตรียมร่วมทุนกับบริษัท Yantanarporn Teleport ของเมียนมาร์ ตลอดจนการเปิดเส้นทางบินตรงไปยังย่างกุ้ง เป็นต้น เมื่อวันที่ 4 มีนาคมปี 2016 เมียนมาร์ได้มอบใบอนุญาตให้ธนาคารลงทุนและพัฒนาเวียดนามเปิดสาขาในเมียนมาร์

การประชุมครั้งที่ 8 คณะกรรมการผสมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีเวียดนาม – เมียนมาร์ (Photo VNplus)

พลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
เวียดนามและเมียนมาร์ได้ธำรงการจัดกิจกรรมทางการทูตอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีส่วนร่วมเสริมสร้างและขยายความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพ ในเวทีระดับภูมิภาคและโลก ทั้งสองประเทศได้ประสานงานและสนับสนุนกันอยู่เสมอ เวียดนามสนับสนุนเมียนมาร์เข้าเป็นสมาชิกของอาเซียน ฟอรั่มความร่วมมือเอเชีย – ยุโรปหรืออาเซม ส่วนเมียนมาร์สนับสนุนเวียดนามเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลกและพร้อมกับบรรดาประเทศต่างๆในเอเชียสนับสนุนเวียดนามสมัครเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังประสานงานอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มพหุภาคีต่างๆของภูมิภาคและโลก
ในกรอบการเยือนเวียดนามครั้งนี้ ประธานาธิบดีเมียนมาร์และผู้นำเวียดนามได้ตรวจสอบความร่วมมือในด้านต่างๆและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการผลักดันความร่วมมือใหม่ที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสนใจ รวมถึงการผลักดันความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงและปัญหาระดับภูมิภาคและโลก ผลการเยือนเวียดนามครั้งนี้จะมีส่วนร่วมเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการเมืองที่น่าไว้วางใจและใกล้ชิดระหว่างผู้นำระดับสูงและเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านระหว่างเวียดนามกับเมียนมาร์.