รัฐสภาสมัยที่ 13 ได้สร้างนิมิตหมายต่างๆจากการอนุมัติรัฐธรรมนูญปี 2013 และกฎหมายที่สำคัญหลายฉบับ และเป็นสมัยรัฐสภาที่มีจำนวนกฎหมายได้รับการอนุมัติมากที่สุด คือกว่า 107 ฉบับพร้อมกับมติต่างๆ
ร่างเอกสารกฎหมาย สร้างพื้นฐานทางนิตินัยเพื่อมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาประเทศ
ผลงานที่ถือว่าโดดเด่นที่สุดของรัฐสภาสมัยที่ 13 คือการอนุมัติรัฐธรรมนูญปี 2013 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญแห่งยุคเปลี่ยนแปลงใหม่แบบสมบูรณ์ ทั้งเศรษฐกิจ การเมืองเพื่อเอื้อให้แก่ภารกิจการพัฒนา ปกป้องประเทศและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก
ควบคู่กับการอนุมัติรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในวาระนี้ รัฐสภาได้พิจารณา แก้ไข เสริมเพิ่มเติมและออกประมวลกฎหมายใหม่ๆที่มีความสำคัญ ซึ่งได้สร้างพื้นฐานทางนิตินัยอย่างพร้อมเพรียงและมีส่วนร่วมต่อการรักษาเสถียรภาพและการพัฒนาของประเทศ นายโงดึ๊กแหมง ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดบิ่งถวนได้เผยว่า“ในตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศได้ประสบความยากลำบากอย่างไม่เคยมีมาก่อนเนื่องจากผลพวงของวิกฤตเศรษฐกิจ การเมืองและการเงินจากปี 2008 โดยเฉพาะบางครั้ง อธิปไตยของประเทศได้ถูกละเมิดอย่างรุนแรง ในสภาวการณ์ดังกล่าว รัฐสภาได้มีบทบาทที่โดดเด่น นอกจากเสร็จสิ้นภารกิจในการจัดทำกฎหมายและรัฐธรรมนูญแล้ว รัฐสภายังมีส่วนร่วมสำคัญต่อการสร้างบรรยากาศที่สันติและอำนวยความสะดวกให้ประเทศผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและพัฒนามากขึ้น นี่คือจุดเด่นและผลสำเร็จของรัฐสภา”
ส่วนนายหาฮวีโทง ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดเถื่อเทียนเว้ได้ย้ำถึงความคิดเห็นของประชามติโลกว่า “ผู้นำธนาคารโลกได้ชื่นชมกฎหมายทางเศรษฐกิจที่มีจุดใหม่หลายข้อที่รัฐสภาเวียดนามได้อนุมัติในสมัยที่ 13 เช่น กฎหมายงบประมาณแผ่นดิน กฎหมายผู้ประกอบการและกฎหมายการลงทุน เป็นต้น ซึ่งล้วนได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาด้วยเสียงสนับสนุนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ และพวกเขายังได้ชื่นชมว่า รัฐธรรมนูญปี 2013 เป็นรัฐธรรมนูญของยุคเปลี่ยนแปลงใหม่ในทุกด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง และเป็น1ในพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในระยะต่อไป”

ถือประโยชน์ของประชาชนเป็นเป้าหมายของกฎหมายทุกฉบับ
ในวาระ 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากรัฐสภาได้อนุมัติเอกสารต่างๆมากที่สุดแล้ว ในการปฏิบัติงานด้านนิติบัญญัติก็ยังเน้นการปกป้องและให้ความเคารพสิทธิมนุษยชน นายโงดึ๊กแหมง ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดบิ่งถวนกล่าวว่า “รัฐธรรมนูญปี 2013 มีข้อกำหนดใหม่ๆที่มีความก้าวหน้าและสอดคล้องกับธรรมเนียมปฏิบัติสากล นั่นคือการเชิดชูและปกป้องสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งมีข้อกำหนดใหม่ๆที่ถูกระบุในกฎหมายฉบับต่างๆ เช่น สิทธิการยื่นฟ้องของประชาชน ซึ่งศาลไม่สามารถปฏิเสธการดำเนินคดีได้ สำหรับกฎหมายเกี่ยวกับการจัดตั้งสมาคม สิทธิการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและกฎหมายอื่นๆ ผมคิดว่าเราได้สร้างบรรยากาศแห่งนิตินัยเพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนในการเชิดชูสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยของประชาชน เป็นอันว่า กฎหมายฉบับต่างๆของเราได้ตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงรวมทั้งภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก”
การอนุมัติประมวลกฎหมายสำคัญเพื่อค้ำประกันสิทธิของพลเมืองและสิทธิมนุษยชนได้รับคำชื่นชมจากประชาชนและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง นายหวิ่งวันติ๊ง ผู้แทนรัฐสภาจังหวัดเตี่ยนยางได้ให้ข้อสังเกตว่า “ประมวลกฎหมายอาญาและวิธีพิจารณาความอาญา ประมวลกฎหมายแพ่งและวิธีพิจารณาความแพ่ง กฎหมายวิธีพิจารณาคดีปกครอง การบังคับใช้กฎหมายการคุมขังชั่วคราวและกฎหมายจัดตั้งสำนักงานสืบสวนทางอาญา เป็นต้น ได้รับคำชื่นชมจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง อาจกล่าวได้ว่า รัฐสภาสมัยนี้ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างเข้มแข็ง โดยผู้แทนรัฐสภาหลายท่านต่างยืนหยัดแนวทางการปฏิรูปตุลาการ ตามแนวทางปกป้องสิทธิของพลเมืองและสิทธิมนุษยชน จึงมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่เข้มแข็ง เพื่อเป็นการปฏิรูปครั้งใหม่ในด้านตุลาการของรัฐสภาสมัยนี้”
การที่จำนวนร่างกฎหมายที่ได้รับการทำประชาพิจารณ์เพื่อระดมความคิดเห็นจากประชาชนเพิ่มขึ้นได้ช่วยระดมสติปัญญาและความเป็นเอกฉันท์ในสังคม นางเหงียนถิเกวี๊ยดเติม ผู้แทนรัฐสภานครโฮจิมินห์เผยว่า “เพื่อบรรลุผลสำเร็จดังกล่าว ต้องอาศัยหลายปัจจัย รวมทั้งทัศนะของพรรคที่ปฏิบัติเพื่อประชาชน เรียนรู้จากประชาชนและให้ความเคารพประชาชนก็ได้รับความสนใจปฏิบัติในรัฐสภาอย่างจริงจัง ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งก็รับทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เข้มแข็งนี้”
รัฐสภาเวียดนามสมัยที่ 13เกือบสิ้นสุดสมัยแล้ว โดยผลสำเร็จในด้านนิติบัญญัติใน 5 ปีที่ผ่านมาจะเป็นพลังขับเคลื่อนให้รัฐสภาสมัยใหม่ยกระดับคุณภาพ ความพร้อมเพรียงและรอบด้านของกฎหมายฉบับต่างๆ พัฒนาบทบาทของผู้แทนรัฐสภาอาชีพ ส่งเสริมการเข้าร่วมของผู้เชี่ยวชาญและประชาชนในงานด้านนิติบัญญัติ ซึ่งจะมีส่วนร่วมสำคัญต่อภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ในทุกด้านและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกตามเจตนารมณ์ของมติการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยที่ 12.