นิมิตรหมายทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น

กระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม - Anh Huyen VOV5
Chia sẻ
(VOVworld) – ตามคำเชิญของประธานประเทศเวียดนามเจิ่นด่ายกวาง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 5 มีนาคม สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินี มิชิโกะเริมเสด็จเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นนิมิตรทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพระหว่างสองประเทศ

(VOVworld) – ตามคำเชิญของประธานประเทศเวียดนามเจิ่นด่ายกวาง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ถึงวันที่ 5 มีนาคม สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินี มิชิโกะเริมเสด็จเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นนิมิตรทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพระหว่างสองประเทศ

นิมิตรหมายทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น - ảnh 1

สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินี มิชิโกะ ถือเป็นบุคคลอันเป็นที่รักและได้รับความเคารพสูงสุดของชาวญี่ปุ่น ทั้งสองพระองค์มักเสด็จเยือนประเทศที่เป็นหุ้นส่วนใกล้ชิดของญี่ปุ่นในโอกาสสำคัญเท่านั้น โดยเฉพาะสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงรักประเทศเวียดนาม ดังนั้นพระองค์จึงสนับสนุนให้พระบรมวงศานุวงศ์ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีกับเวียดนาม

ดังนั้นการเสด็จพระราชดำเนินเยือนเวียดนามครั้งนี้ของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินี มิชิโกะเป็นเหตุการที่สำคัญ เป็นสัญลักษณ์และเป็นนิมิตรหมายทางประวัติศาสตร์ต่อความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพระหว่างสองประเทศ ซึ่งสะท้อนไมตรีจิตและความสนใจของญี่ปุ่นต่อประเทศและประชาชนเวียดนาม เพื่อมีส่วนร่วมขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นให้นับวันพัฒนาอย่างรอบด้านและส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ที่มีมาช้านาน

ตามประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 โดยพระมหาเถระเฝิดเจี๊ยดของเวียดนามได้เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อเผยแผ่พุทธศาสนาและสอนดนตรีเลิมเอิ๊บให้แก่ชาวญี่ปุ่นและได้มีการหล่อรูปจำลองของท่านประดิษฐานไว้ที่วัดด๋ายอานที่เมืองนารา ถึงศตวรรษที่ 16 และ 17 พ่อค้าชาวญี่ปุ่นได้เดินทางมาเมืองฮอยอานเพื่อทำการค้าขาย ซึ่งที่เมืองเก่าฮอยอานยังคงหลงเหลือหลักฐานต่างๆมาจนถึงปัจจุบัน เช่น สะพานญี่ปุ่นและสุสานญี่ปุ่น เป็นต้น

นับตั้งแต่ปี 1992 มาจนถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การเมืองและการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศได้รับการขยายอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งเสริมสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจระหว่างสองประเทศ ในหลายปีมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศจี 7 ประเทศแรกที่ได้ให้การต้อนรับเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามที่เดินทางไปเยือนเมื่อปี 1995 สถานปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับเวียดนามเมื่อปี 2009 รับรองระเบียบเศรษฐกิจเชิงตลาดของเวียดนามเมื่อปี 2011 และเชิญเวียดนามเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจี 7 ขยายวงเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2016 ส่วนกรอบความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้รับการขยายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับความสัมพันธ์ “หุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจและเสถียรภาพอย่างยั่งยืน” เมื่อปี 2002 ขึ้นเป็นความสัมพันธ์ “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในเอเชีย” เมื่อปี 2014 ถึงปี 2015 ในการเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเหงียนฟู้จ่องและนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชินโซ อาเบะได้ออก “แถลงการณ์เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ร่วมความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น”

ควบคู่กับความร่วมมือทวิภาคี เวียดนามและญี่ปุ่นยังร่วมมืออย่างใกล้ชิดและสนับสนุนกันบนเวทีพหุภาคีต่างๆ เช่น สหประชาชาติ อาเซียน เอเปก อาเซมและสภาสิทธิมนุษยชน เป็นต้น เวียดนามสนับสนุนญี่ปุ่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2016-2017 และให้คำมั่นว่า จะสนับสนุนญี่ปุ่นสมัครเข้าเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถ้าหากมีการเพิ่มจำนวนสมาชิกถาวร สำหรับปัญหาทะเลตะวันออก ญี่ปุ่นยืนยันว่า ต้องรักษาความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก พร้อมทั้งสนับสนุนจุดยืนที่ว่า การพิพาทต่างๆในทะเลตะวันออกต้องได้รับการแก้ไขด้วยสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง ปฏิบัติตามกฎหมายสากลและคัดค้านพฤติกรรมเพียงฝ่ายเดียวเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพเดิมในทะเลตะวันออก

ขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น

การเสด็จพระราชดำเนินเยือนเวียดนามของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินี มิชิโกะได้มีขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในเอเชียระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นนับวันพัฒนาอย่างดีงามและรอบด้านและมีขึ้นหลังการเยือนเวียดนามที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ถึงขณะนี้ ญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจสำคัญชั้นนำของเวียดนาม เป็นนักอุปถัมภ์โอดีเอรายใหญ่ที่สุด เป็นหุ้นส่วนอันดับสองในการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอ เป็นหุ้นส่วนอันดับที่ 3 ในด้านการท่องเที่ยวและเป็นหุ้นส่วนอันดับที่ 4 ในด้านการค้า

บนพื้นฐานดังกล่าว การเสด็จพระราชดำเนินเยือนเวียดนามครั้งนี้จึงถือเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญ มีความหมายและเป็นนิมิตรหมายทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ร่วมมือมิตรภาพระหว่างสองประเทศ สะท้อนความรักและความสนใจของญี่ปุ่นต่อประเทศและประชาชนเวียดนาม ซึ่งจะมีส่วนร่วมขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่นให้นับวันพัฒนาอย่างรอบด้านและส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ.

Feedback