ในตลอด 43 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีการผันผวนอย่างซับซ้อน แต่สัมพันธไมตรีที่ยิ่งใหญ่ ความสามัคคีพิเศษ ความร่วมมือในทุกด้านลาว-เวียดนามที่ผู้นำหลายรุ่นและประชาชนทั้งสองประเทศทำนุบำรุงได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นสมบัติอันล้ำค่าของทั้งสองประชาชาติ เป็นกฎแห่งการคงอยู่และการพัฒนา และเป็นปัจจัยชี้ขาดต่อชัยชนะของการปฏิวัติของแต่ละประเทศในปัจจุบัน
สัมพันธไมตรีพิเศษและหายากในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในยุคสมัย
อาจยืนยันได้ว่า ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในยุคสมัย ยากที่จะมีความสัมพันธ์ใดที่ใกล้ชิดและมีความผูกพันเหมือนความสัมพันธ์เวียดนาม-ลาว ด้วยเจตนาที่ดีและความเข้าใจกันอย่างลึกซึ้งบนพื้นฐานจิตใจแห่งพี่น้อง ช่วยเพื่อนก็คือการช่วยเหลือตนเอง พรรค รัฐบาลและประชาชนทั้งสองประเทศได้อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราช
ลาวเคยอำนวยความสะดวกให้เวียดนามใช้เป็นทางผ่านในการก่อสร้าง “ถนนโฮจิมินห์” ซึ่งตัดผ่านเทือกเขา เจื่องเซินเพื่อกู้ชาติ ปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพเมื่อปี 1975 และสนับสนุนให้การปฏิวัติของลาวได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์ ก่อตั้งประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมปี 1975 ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายทางประวัติศาสตร์นั้นได้เป็นการพิสูนจ์ให้เห็นถึงสัมพันธไมตรี ความสามัคคีพิเศษ ความซื่อสัตย์และบริสุทธิ์ระหว่างสองประชาชาติ เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศ เหงียนฟู้จ่อง เคยย้ำว่า “พวกเรามีความภาคภูมิใจเกี่ยวกับกระบวนการก่อตั้งและพัฒนาของความสัมพันธ์พิเศษและหายากระหว่างสองประชาชาติ เพราะนี่คือความสัมพันธ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของประชาชนทั้งสองประเทศคือสามัคคี ช่วยเหลือกันเพื่อต่อต้านศัตรู สร้างสรรค์ความสัมพันธ์ที่เสมอภาค พึ่งพาตนเอง มิตรภาพ ร่วมมือและเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ นั่นคือความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านและยั่งยืนในตลอดระยะประวัติศาสตร์ต่างๆ”
จากการสานต่อสมบัติอันล้ำค่านั้น ปัจจุบัน ความสัมพันธ์เวียดนาม-ลาวได้เข้าสู่ระยะใหม่ที่ใกล้ชิดและรอบด้านมากขึ้น ให้การช่วยเหลือกันสร้างสรรค์ประเทศที่สันติภาพ เอกราช มีประชาธิปไตยด้วยเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาศาตร์ที่พัฒนา รักษางานด้านกลาโหมและความมั่นคง เพื่อช่วยให้ประเทศเพื่อนบ้านลาวพัฒนาเศรษฐกิจอย่างสะดวก เวียดนามอำนวยความสะดวกเพื่อให้ลาวลงทุนและใช้ท่าเรือหวุงอ๊าง ในจังหวัดห่าติ๋ง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ดั่งดิ่งกวี๊ เผยว่า “ประเทศที่ไม่มีทะเลมีข้อจำกัดที่สำคัญ นั่นคือไม่มีเส้นทางออกสู่ทะเล ดังนั้นเส้นทางออกสู่ทะเลที่เวียดนามคือเส้นทางที่ใกล้ที่สุด พร้อมกับความสนใจของผู้นำทั้งสองประเทศเกี่ยวกับการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมระหว่างลาวกับชายฝั่งทะเลของเวียดนาม การสนับสนุนให้ใช้ท่าเรือของเวียดนามได้ช่วยให้ลาวมีเส้นทางขนส่งสำคัญ นั่นคือเส้นทางออกสู่ทะเลที่ใกล้ที่สุด ส่งเสริมการพัฒนา ไม่เพียงแต่ตลอดเส้นทางจากชายฝั่งทะเลเวียดนามที่เชื่อมลาวเท่านั้น หากยังรวมถึงการพัฒนาภายในประเทศลาวอีกด้วย”
ท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเวียดนามกับนายกรัฐมนตรีลาว ทองลุน สีสุลิด (vietnamplus) |
รักษาและทำนุบำรุงความสัมพันธ์เวียดนาม-ลาว
ในตลอดกว่า 40 ปีแห่งการปฏิบัติสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือเวียดนาม—ลาวที่ลงนามเมื่อปี 1977 โดยเฉพาะนับตั้งแต่ทั้งสองประเทศปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ ในสภาวการณ์แห่งการผสมผสานที่มีความผันผวน ความลำบากและความท้าทายเนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์ในภูมิภาคและโลก แต่ด้วยเกียรติประวัติที่ดีงามของความสัมพันธ์พิเศษ ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้รับการผลักดัน ขยายและได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่มากขึ้น มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปัจจุบัน พร้อมกับการธำรงการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง ทั้งสองประเทศได้ผลักดันการประชาสัมพันธ์ ให้การศึกษาแก่ประชาชนทุกชั้นชน รวมทั้งเยาวชนให้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า สัมพันธไมตรีพิเศษลาว-เวียดนามคือสมบัติอันล้ำค่า เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของสองประชาชาติบนเส้นทางสร้างสรรค์ ปกป้องและพัฒนาประเทศ
ในโอกาสฉลองครบรอบ 43 ปีวันชาติลาว เวียดนามได้แสดงความยินดีต่อก้าวพัฒนาที่เข้มแข็งของประเทศลาว และนี่คือโอกาสเพื่อให้ทั้งสองประเทศทบทวนเส้นทางแห่งความร่วมมือที่ผ่านมา ร่วมกันกำหนดเป้าหมายใหม่ให้แก่เส้นทางในระยะต่อไป เพื่อความผาสุกและความเจริญรุ่งเรืองของแต่ละประเทศและภูมิภาค.