(VOVworld) - ชาวเวียดนามโพ้นทะเลกว่า 500 คนจากทั่วโลกได้เข้าร่วมการประชุม “ชาวเวียดนามโพ้นทะเลร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์นครโฮจิมินห์ให้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ยั่งยืนและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก”ในระหว่างวันที่ 12 – 13 พฤศจิกายน ณ นครโฮจิมินห์ วัตถุประสงค์ของการประชุมดังกล่าวคือเพื่อระดมความคิดเห็นของปัญญาชนและผู้ประกอบการชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศในการแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาทั้งเฉพาะหน้าและระยะยาวของนครโฮจิมินห์อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อทำให้นครโฮจิมินห์กลายเป็นตัวอย่างในการรณรงค์และวางนโยบายเพื่อดึงดูดการลงทุนจากชาวเวียดนามโพ้นทะเลเพื่อพัฒนาประเทศ
|
ชมรมชาวเวียดนามที่พำนักอาศัย ศึกษาและทำงานในต่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากประชาชาติได้และเป็นสะพานเชื่อมเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างเวียดนามกับโลก ในเวลาที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้จัดกิจกรรมต่างๆอย่างหลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวเวียดนามโพ้นทะเลกลับประเทศเข้าร่วมการพบปะสังสรรค์เพื่อส่งเสริมการลงทุนประกอบธุรกิจ อีกทั้งเสริมสร้างความสามัคคีและมุ่งใจสู่ปิตุภูมิ โดยการประชุม“ชาวเวียดนามโพ้นทะเลร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์นครโฮจิมินห์”ได้จัดขึ้นครั้งแรกที่นครโฮจิมินห์เนื่องจากนครโฮจิมินห์เป็นจังหวัดที่อยู่แถวหน้าในกระบวนการผสมผสาน
ร่วมแรงร่วมใจพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและเศรษฐกิจแห่งองค์ความรู้
นครโฮจิมินห์ตั้งเป้าหมายว่า จะกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้า การคลัง รวมทั้งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้น การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมถือเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งองค์ความรู้ โดยทางการนครฯได้เน้นทำการวิจัยเพื่อผลักดันการสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมและธุรกิจสตาร์ทอัพ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและพัฒนางานด้านตลาด ศาสตราจารย์ ดร. หวูเลหายจากมหาวิทยาลัยโมนาช ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียได้เผยว่า“ถ้าเราสามารถคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ได้ด้วยตนเอง เราจะกลายเป็นนักประดิษฐ์ที่สามารถแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศได้ นอกจากนี้ เราสามารถขายผลงานการประดิษฐ์เหล่านั้นให้แก่ต่างประเทศได้ด้วย”
ในการประชุม“ชาวเวียดนามโพ้นทะเลร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์นครโฮจิมินห์” บรรดาผู้แทนได้เผยว่า นครโฮจิมินห์ต้องสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งองค์ความรู้ การผลิตและการบริการที่มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะการจดสิทธิบัตร สิ่งประดิษฐ์ต่างๆและวิศวกรฝีมือเยี่ยม ดร.ฟานบิ๊กเถี่ยน ที่กำลังอาศัยในประเทศฮังการีได้เสนอมาตรการเชื่อมโยงระหว่างผลการวิจัยด้านวิชาการกับตลาดและผู้ประกอบการว่า“คนเวียดนามมีความฉลาด โดยผลงานวิจัยด้านวิชาการของคนเวียดนามได้รับรางวัลระดับโลก ต่างๆ แต่งานวิจัยด้านวิชาการยังไม่เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ ดังนั้น ดิฉันขอเสนอให้จัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี โดยสถานประกอบการจะสมทบเงินเข้ากองทุนนี้และสามารถเลือกผลงานวิจัยที่สามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัทมาประยุกต์ใช้ได้”
ความกระตือรือร้นต่อภารกิจการพัฒนาประเทศ
ชมรมชาวเวียดนามโพ้นทะเลได้แสดงความคิดเห็นที่หลากหลายต่อแผนการพัฒนานครโฮจิมินห์ เช่น การก่อสร้างเมืองแห่งธุรกิจสตาร์ทอัพ เมืองอัจฉริยะ รวมถึงปัญหาทางยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาและฝึกอบรม เศรษฐกิจและสังคม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการส่งเสริมการลงทุนทั่วประเทศ ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศกับผู้นำพรรคและรัฐ โดยเฉพาะผู้บริหารและประชาชนนครโฮจิมินห์ นาย หวูห่งนาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและหัวหน้าคณะกรรมการจัดการประชุมได้เผยว่า“ความสำเร็จของการประชุมคือการเชื่อมโยงระหว่างความปรารถนาของชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศที่มุ่งใจสู่ปิตุภูมิกับความมุ่งมั่นของผู้บริหารและประชาชนนครโฮจิมินห์ ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสรรค์นครโฮจิมินห์ให้กลายเป็นนครแห่งความภาคภูมิใจของคนเวียดนาม”
ส่วนนาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมผู้ประกอบการเวียดนามในต่างประเทศที่ได้ร่วมมืออย่างเข้มแข็งกับนักธุรกิจภายในประเทศเพื่อนำสินค้าเวียดนามเจาะตลาดต่างๆ อีกทั้งลงทุนและก่อตั้งบริษัทเพื่อทำการผลิตและประกอบธุรกิจภายในประเทศ ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมวิจัยและประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและมีกิจกรรมการกุศลต่างๆ โดยเฉพาะจำนวนเงินที่ชาวเวียดนามโพ้นทะเลส่งกลับประเทศในปี 2015 อยู่ที่ 12.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่เน้นลงทุนในการผลิตและประกอบธุรกิจ ซึ่งสามารถสร้างงานทำให้แก่ประชาชนเวียดนามจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีเหงวียนซวนฟุกกล่าวว่า“ผมเชื่อมมั่นว่า ชาวเวียดนามโพ้นทะเลทุกคนต่างมุ่งใจสู่ปิตุภูมิเวียดนามที่รัก ซึ่งเราต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างสรรค์ประเทศชาติให้นับวันเข้มแข็งยิ่งขึ้นและทัดเทียมกับนานาประเทศ”
การรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอต่างๆของชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศก็เพื่อส่งเสริมพลังอันเข้มแข็งนี้ในการปฏิบัติภารกิจเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน รวมถึงพัฒนานครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นท้องถิ่นอยู่แถวหน้าในการผสมผสานของเวียดนาม.