รถถังรหัส 390 ได้บุกพังประตูทำเนียบเอกราชเมื่อวันที่ 30 เมษายนปี 1975 (Photo: TTXVN) |
ชัยชนะ 30 เมษายนปี 1975 นำไปสู่การยุติสงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกาเพื่อกู้ชาติที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลา 21 ปี เป็นการยืนยันกับโลกว่า ประชาชาติเวียดนามมีความปรารถนาเกี่ยวกับการรวมประเทศเป็นเอกภาพ การปกป้องเอกราช อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน
ก้าวพัฒนาที่ข้ามขั้น
หลังสงคราม ประชาชนเวียดนามเริ่มสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ โดยบรรลุผลสำเร็จต่างๆที่น่าประทับใจ จากที่เคยเป็นประเทศที่มีฐานะยากจนและล้าสมัย ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงครามและถูกคว่ำบาตร ปัจจุบัน เวียดนามได้พัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและกลายเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา เป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ในช่วงปี 2020 -2021 ในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นอย่างมากต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รวมไปถึงเศรษฐกิจโลกที่การขยายตัวติดลบ แต่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามยังอยู่ที่ร้อยละ 2.91 ในปี 2020 และ 2.58 ในปี 2021 โดยเฉพาะ เมื่อปี 2022 อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามอยู่ที่ร้อยละ 8.02 กลายเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในโลก
สิ่งที่น่าสนใจคือชีวิตความเป็นอยู่ทั้งทางวัตถุและจิตใจของประชาชนเวียดนามนับวันได้รับการปรับปรุง โดยเมื่อปี 1995 ซึ่งเป็นช่วงที่เวียดนามเริ่มปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากร อยู่ที่159 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่ในปี 2023 ได้เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 4,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี งานด้านการดูแลสุขภาพของประชาชนได้บรรลุผลงานที่ชัดเจน อายุขัยเฉลี่ยของคนเวียดนามเพิ่มขึ้น งานด้านการสวัสดิการสังคมได้รับความสนใจและขยายการปฏิบัติ นาย โด๋หุ่งเวียด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า
"นับตั้งแต่ปี 2019 อัตราจีดีพีต่อหัวประชากรของเวียดนามได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 อัตราครอบครัวที่ยากจนลดลงร้อยละ 1.5 ต่อปี เครือข่ายการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันได้รับการปฏิบัติในทั่วประเทศผสานกับระบบสาธารณสุขท้องถิ่น อัตราผู้ที่ใช้บัตรประกันสุขภาพได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 81.7 เมื่อปี 2016 ขึ้นเป็นร้อยละ 92 ในปี 2022 คนพิการที่มีฐานะยากจนร้อยละ 85 ได้รับความช่วยเหลือดูแลและฟื้นฟูสมรรถภาพ”
ควบคู่กันนั้น งานด้านการดูแลทหารทุพพลภาพ ครอบครัวทหารพลีชีพเพื่อชาติ ผู้ที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองได้รับความสนใจจากพรรค รัฐและสังคม คุณค่าวัฒนธรรมของประชาชาติได้รับการสานต่อและพัฒนา นโยบายการพัฒนาแหล่งบุคลากรได้รับความสนใจ สิ่งที่น่าสนใจคือเวียดนามเลื่อนขึ้นอันดับในตารางการจัดอันดับดัชนีความสุขของประชาชนโลกตามรายงานแห่งความสุขโลกปี 2024 ที่ได้รับการประกาศเมื่อเร็วๆนี้ เวียดนามได้เลื่อนขึ้น 11 อันดับและเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่ดัชนีความสุขของเวียดนามขยับขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเวียดนามที่ได้รับการยกระดับให้ดีขึ้น
ส่วนในตารางการจัดอันดับดัชนีการพัฒนามนุษย์ฉบับล่าสุดที่โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติหรือ UNDP ประกาศเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เวียดนามได้เลื่อนขึ้น 8 อันดับ จากอันดับที่ 115มาอยู่อันดับที่ 107 ติดกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีดัชนีการพัฒนามนุษย์ในระดับสูง นี่เป็นผลการปฏิบัตินโยบายที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพและความพยายามของพรรคและรัฐในการอำนวยความสะดวกให้แก่การปรับปรุงชีวิตวามเป็นอยู่ของประชาชนในหลายปีที่ผ่านมา ผลสำเร็จของเวียดนามได้รับการชื่นชมจากหุ้นส่วนต่างชาติและเชื่อมั่นว่า เวียดนามจะประสบผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นในกระบวนการสร้างสรรค์ประเทศที่เจริญรุ่งเรืองและมีความสุข นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้เผยว่า
“เวียดนามได้เดินผ่านเส้นทางอันแสนยาวไกลและกระบวนการพัฒนาของเวียดนามยังคงดำเนินต่อไป เวียดนามกำลังมีโอกาสกลายเป็นประเทศที่เดินหน้าให้แก่คุณค่าใหม่ เพื่อมีอนาคตที่ปลอดภัยจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เวียดนามอาจปฏิรูปเศรษฐกิจของตนและมีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงโลก สหประชาชาติรู้สึกภูมิใจที่เป็นหุ้นส่วนของเวียดนามในกระบวนการนี้”
ปัจจุบัน เวียดนามได้พัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและกลายเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา |
กระบวนการแห่งความสุขของประชาชาติ
ภายหลัง 49 ปีนับตั้งแต่ชัยชนะ 30 เมษายน เวียดนามกำลังปฏิบัติเป้าหมายการสร้างสรรค์ประเทศที่เจริญรุ่งเรือง มีความสุข มุ่งสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาและมีรายได้สูงในปี 2045
ในสภาวการณ์ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายนานัปการจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในโลก กับดักรายได้ปานกลาง ผลกระทบของเศรษฐกิจเชิงตลาด การผสมผสานเข้ากับกระแสโลก วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวียดนามต้องมีความตั้งใจสูงและพยายามมากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว นำประเทศพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ปฏิบัติความปรารถนาเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ประเทศที่เจริญเข้มแข็ง ซึ่งการกำหนดอนาคตไม่เพียงแต่สร้างพลังขับเคลื่อนที่เข้มแข็ง เปลี่ยนแปลงแนวคิดและปฏิบัติการของประชาชนทุกชั้นชนเท่านั้น หากยังเป็นกำลังใจให้ประชาชนมีส่วนร่วมต่อความเจริญรุ่งเรืองและความสุขของประเทศ
ชัยชนะ 30 เมษายนเป็นความภาคภูมิใจ เป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อให้เวียดนามฟันฝ่าทุกอุปสรรค ยืนหยัดเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ นำความสำเร็จมาให้แก่ประชาชาติ ในโอกาสรำลึกครบรอบ 49 ปีแห่งการรวมประเทศเป็นเอกภาพ ประชาชนเวียดนามทุกคนตระหนักได้ดีถึงคุณค่าของสันติภาพ จิตใจแห่งความสามัคคีและความเป็นเอกภาพ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อให้เวียดนามพัฒนาต่อไป.