การประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับชมรมสถานประกอบการ |
ในการกล่าวปราศรัยสรุปผลการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับชมรมสถานประกอบการเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงวียนซวนฟุกได้ย้ำถึงข้อเสนอ 3 ข้อสำหรับสถานประกอบการ ซึ่งรวมถึงการต้องรอคอยหรือพึ่งพาเพื่อพัฒนา ปัจจุบัน สถานประกอบการต้องรักษาการจ้างงาน การครองส่วนแบ่งในตลาดและการพัฒนาตลาด ความมุ่งมั่นของสถานประกอบการเวียดนามคือเปลี่ยนแปลงใหม่ มีความซื่อสัตย์และมีความตั้งใจเพื่อการพัฒนา
หวนมองวิกฤตและการฟันฝ่าอุปสรรค
ในหลายเดือนที่ผ่านมา วิกฤตด้านสาธารณสุขได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การผลิต การอุปโภค อุตสาหกรรมและการบริการ เป็นต้น สถานประกอบการเวียดนามหลายแห่งต้องเลือกระหว่างการลดขอบเขตเพื่อรอโอกาส ให้พนักงานหมุนเวียนกันหยุดงานและการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นต้นหรือจะต้องแสวงหามาตรการเพื่อให้แรงงานมีงานทำและมีรายได้ในช่วงที่ประสบอุปสรรคนี้ นาง เหงวียนถิทูจาง ผู้อำนวยการศูนย์ WTO และการผสมผสานสังกัดหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามได้เผยว่า “ในสภาวการณ์นี้ สถานประกอบการต้องมีความคล่องตัวและความคิดสร้างสรรค์ในการปรับเปลี่ยนแหล่งจัดสรรของตลาด วิธีการผลิต ในกรณีที่สามารถทำงานออนไลน์หรือประยุกต์ใช้เทคโนโลยีได้ สถานประกอบการก็ต้องลงทุนปฏิบัติ รวมทั้ง การเปลี่ยนแปลงวิธีการเข้าถึงตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด”
นาง เจิ่นถิทูหั่ง ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทส่งออกและนำเข้าสินค้าการเกษตรและอาหารเวียดนามได้เผยว่า ปริมาณการจำหน่ายสินค้าของทางบริษัทฯลดลง การขายปลีกผลิตภัณฑ์การเกษตรที่ปลอดสารพิษตามร้านค้าต่างๆประสบอุปสรรค เพื่อฟันฝ่าช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความยากลำบากนี้ นอกจากต้องแสวงหาแหล่งจำหน่ายสินค้าภายในประเทศแล้ว ในเวลาที่จะถึง สถานประกอบการจะผลักดันการแสวงหาตลาดใหม่ที่ต้องการผลิตภัณฑ์การเกษตรอินทรีย์และผลิตภัณฑ์การเกษตรปลอดสารพิษ “พวกเราเน้นถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์ ส่วนสำหรับอาหารสด ทุกวัน พวกเราแนะนำแพ็คเกจคอมโบให้แก่สำนักงานและอาคารที่เป็นอพาร์ตเมนต์เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ปัจจุบัน พวกเรากำลังแสวงหาตลาดใหม่และเห็นว่า ตลาดอินเดียมีศักยภาพมากและในปลายเดือนนี้ พวกเราจะไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่อินเดีย”
จากการเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 หน่วยงานการท่องเที่ยวเวียดนามได้เปิดตัวโปรโมชั่นต่างๆเพื่อฟื้นฟูตลาดภายในประเทศและผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวใหม่ นาย เหงวียนก๊วกกี่ ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท Vietravel ได้เผยว่า
“พวกเราใช้โอกาสและส่งสาส์น “เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย”เพื่อประชาสัมพันธ์และดึงดูดนักท่องเที่ยว พวกเรายังเสนอเขตสามเหลี่ยเพื่อเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว เช่น ในภาคเหนือ มี ฮานอย-นิงบิ่ง-กว๋างนิง ภาคกลางคือเว้-ดานัง-กว๋างนามและญาจาง-ดั๊กลั๊ก-ฟู้เอียน ส่วนภาคใต้คือ นครโฮจิมินห์-บ่าเหรียหวุงเต่า-เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง” นอกจากนี้ พวกเราเสนอขอให้ทางการท้องถิ่นลดค่าบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวร้อยละ 50”
ความช่วยเหลือจากสำนักงานภาครัฐ
นอกจากการเป็นฝ่ายรุกในการลงทุนของสถานประกอบการ ความช่วยเหลือของรัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องมีความสำคัญและจำเป็นในช่วงเวลานี้ ปัจจุบัน รัฐบาลได้มีคำมั่นต่างๆ โดยจะผลักดันการปรับปรุงระเบียบราชการ ให้ความช่วยเหลือสถานประกอบการด้านกลไกและนโยบาย ในการประชุมระหว่างรัฐบาลกับสถานประกอบการ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกได้ชี้ชัดว่า “ กระทรวง สำนักงาน โดยเฉพาะ ท้องถิ่นต่างๆต้องมีโครงการปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรมเพื่อแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการเพื่อการพัฒนา รวมทั้ง ลดขั้นตอนการปฏิบัติระเบียบราชการ ให้ความสนใจต่อการแก้ไขข้อเสนอของสถานประกอบการอย่างรวดเร็วเพื่อไม่พลาดโอกาสการประกอบธุรกิจของสถานประกอบการ สถานประกอบการต่างมีความประสงค์ว่า ต้องรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคโดยเฉพาะ การควบคุมภาวะเงินเฟ้อและค่าเงินด่งเวียดนาม”
นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกยังอ้างคำกล่าวของนาย ชาลส์ โรเบิร์ต ดาวินส์ เจ้าของทฤษฎีวิวัฒนาการสมัยใหม่คือ “ สิ่งมีชีวิตที่มีทักษะความสามารถในการปรับตัวที่มากสุดถึงจะสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้บนโลกใบนี้ ไม่ใช่สัตว์ที่แข็งแกร่งที่สุดหรือฉลาดที่สุด ” ซึ่ง ในสภาวการณ์ปัจจุบัน การเป็นฝ่ายรุก มีความคิดสร้างสรรค์และคล่องตัวจะช่วยชมรมสถานประกอบการเวียดนามฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อฟื้นตัวและใช้โอกาสจากการปรับเปลี่ยนแหล่งเงินลงทุนจากต่างประเทศ.