นาง อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี (Photo CDU) |
วันที่ 20 พฤศจิกายน พรรคเอฟดีพีได้ประกาศถอนตัวจากการเจรจาเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลผสมกับนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล และพรรคกรีนอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ปี 1949ที่เยอรมนียังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้งรัฐสภาเป็นเวลา 2 เดือน
ไม่สามรถแสวงหาเสียงพูดเดียวกันได้
แม้พรรคพันธมิตรประชาธิปไตย/คริสเตียน โซเชียลยูเนียนหรือ CDU/CSU ของนาง อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาและกลายเป็นพรรคที่เข้มแข็งที่สุดในรัฐสภาแต่ก็ต้องร่วมกับพรรคอื่นๆเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมเพื่อการบริหารประเทศ
แต่อย่างไรก็ตาม หลังการเจรจาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ พรรคการเมืองต่างๆของเยอรมนียังมีความขัดแย้งเกี่ยวกับจุดยืนในปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นโยบายจัดเก็บภาษีและการควบคุมผู้อพยพ
ในขณะที่พรรคกรีนที่มีแนวทางเอียงซ้ายพยายามรณรงค์ให้ยุติการใช้ถ่านหินและเครื่องยนต์สันดาปภายในในปี 2030 ส่วนพรรคการเมืองอื่นๆต่างก็ให้คำมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แต่พรรคพันธมิตร CDU/CSU ของนาง อังเกลา แมร์เคิล ยังไม่กำหนดเวลาชัดเจนเกี่ยวกับการยุติการใช้ถ่านหิน ส่วนปัญหาผู้อพยพ นางอังเกลา แมร์เคิล ก็อยากกำหนดยอดรับผู้อพยพในแต่ละปีในขณะที่พรรคกรีนต้องการให้ทางการเยอรมนีรับผู้อพยพเพิ่มมากขึ้นเพื่อเรียกการสนับสนุนและมีสมาชิกใหม่ๆที่มีความคิดเห็นคล้ายคลึงกัน
จากความซับซ้อนดังกล่าว พรรคเอฟดีพีได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากการเจรจาโดยหัวหน้าพรรคเอฟดีพี Chirstian Lindner ได้บอกว่า สาเหตุที่พรรคการเมืองทุกพรรคไม่สามารถเห็นพ้องกันก็เพราะไม่สามารถแสวงหาพื้นฐานแห่งความไว้วางใจและความคิดร่วมในการเปลี่ยนแปลงใหม่พัฒนาประเทศที่ทันสมัย ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขชี้ขาดในการจัดตั้งรัฐบาลผสมอย่างมีเสถียรภาพ
มีความเป็นไปได้ที่จะต้องจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่
จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ผู้สังเกตุการณ์เห็นว่า อาจมีทางออก 3 ทางต่ออนาคตของการเมืองเยอรมนี หนึ่งคือ พรรค CDU/CSU ของนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล จะร่วมมือกับพรรคกรีนเพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสียงข้างน้อย สองคือ นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล อาจเรียกร้องให้จัดการเจรจากับพรรคประชาธิปไตยสังคมเยอรมนีหรือเอสพีดีที่เป็นหุ้นส่วนของพรรค CDU/CSU ในตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แต่ กรณีนี้อาจไม่มีความเป็นไปได้เพราะหลังจากที่การเจรจาเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลผสมของเยอรมนีได้ประสบความล้มเหลว พรรคเอสพีดีได้ยืนยันอีกครั้งถึงแนวทางที่ไม่เข้าร่วมการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมโดยไม่สนใจถึงสถานการณ์เวทีการเมืองในปัจจุบัน
ส่วนทางออกที่ 3 ซึ่งมีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ เยอรมนีจะจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งตามนั้นประธานาธิบดีเยอรมนี้ แฟรงค์ วอลเตอร์ สไตน์ไมเออ ต้องยุบรัฐสภาและสั่งให้จัดการเลือกตั้งใหม่สอดคล้องกับคำประกาศของนาง อังเกลา แมร์เคิล หลังการเจรจาประสบความล้มเหลวว่า จะพบปะกับประธานาธิบดีเยอรมนีเพื่อแจ้งผลการเจรจาและหารือกับแกนนำของพรรค CDU/CSU เกี่ยวกับก้าวเดินต่อไป
ผู้สังเกตุการณ์ให้ข้อสังเกตุว่า หากเกิดกรณีที่ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ รัฐสภาชุดใหม่ก็จะไม่มีความแตกต่างกับรัฐสภาชุดปัจจุบันมากนัก นี่ยังไม่รวมถึงกรณีที่พรรคฝ่ายขวา เอเอฟดีจะมีโอกาสได้รับที่นั่งเพิ่มอีกในรัฐสภา ซึ่งสิ่งนี้ก็ยิ่งทำให้การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่จะมีความลำบากมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ ประชามติยังตั้งความหวังต่อนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล เนื่องจากเธอมีประสบการณ์มากมายในการฝ่าฟันอุปสรรคที่ทำให้เธอกลายเป็นผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในยุโรป โดยเชื่อมั่นว่า เธอจะนำเยอรมนีฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้.