การประชุมรัฐสภาคิวบาสมัยที่9 |
ในระหว่างวันที่18-19เมษายน รัฐสภาคิวบาสมัยที่9ได้ประชุมนัดแรกเพื่อลงคะแนนเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธานและรองประธานสภาแห่งรัฐคิวบาวาระ5ปี ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจจากประชามติและมีนักข่าวต่างชาติกว่า100คนมารายงานข่าว
ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเพียงคนเดียวเพื่อที่จะดำรงตำแหน่งประธานสภาแห่งรัฐและประธานคณะรัฐมนตรีคือนาย มิเกล ดิแอซ คาเนล เบร์มูเดซ รองประธานคนที่หนึ่งของสภาแห่งรัฐคิวบา
แม้ท่านราอูล คาสโตร จะเสร็จสิ้นการดำรงตำแหน่งประธานประเทศคิวบาแต่ท่านยังคงดำรงตำแหน่งเลขาธิการคนที่หนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์คิวบาไปจนถึงปี2021
นิมิตหมายแห่งการปฏิรูป
นาย ราอูล คาสโตรได้อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้นำ ฟิเดล คาสโตร ผู้ล่วงลับนับตั้งแต่ช่วงแรกของการปฏิวัติและได้มีบทบาทสำคัญในกระบวนการปฏิวัติโค่นล้มระบอบเผด็จการ รักษาเอราชและพัฒนาประเทศคิวบา นับตั้งแต่ปี2006 ท่านได้ขึ้นบริหารประเทศเป็นการชั่วคราวหลังจากที่ผู้นำ ฟิเดล คาสโตรป่วย จนถึงปี2008 ท่านได้ดำรงตำแหน่งประธานประเทศคิวบา ประธานสภาแห่งรัฐและคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ
ใน2วาระที่ดำรงตำแหน่ง คิวบาได้มีการเปลี่ยนแปลงแบบหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ เช่น การปฏิรูปเศรษฐกิจตามแนวทางเปิดตลาด ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและเน้นพัฒนาภาคเอกชน เมื่อปลายปี2011 คิวบาได้อนุญาตให้ซื้อขายที่อยู่อาศัยในนามส่วนบุคคล หลังจากนั้น จนถึงปี2014 คิวบาได้เปิดเสรีตลาดรถยนต์ ปรับปรุงกฎหมายเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและเปิดใช้ท่าเรือMariel ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงฮาวานาไปทางทิศตะวันออกประมาณ45กิโลเมตร จากการปฏิบัติมาตรการผลักดันเศรษฐกิจ ในปี2017 อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของคิวบาอยู่ที่ร้อยละ1.6แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการเงินและถูกสหรัฐจำกัดการเดินทางแต่คิวบามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเยือน4.7ล้านคน
ในด้านสวัสดิการสังคม ก็สามารถมองเห็นนิมิตหมายของตระกูลคาสโตรผ่านการที่เด็กๆได้เรียนฟรีและผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุข ความเสมอภาคทางเพศถือเป็น1ในผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของคิวบา ด้วยจำนวนนักนิติบัญญัติคิวบาที่เป็นสตรีคิดเป็นครึ่งหนึ่งในรัฐสภา ซึ่งมากเป็นอันดับที่2ของโลก รัฐบาลคิวบายังอนุญาตให้ประชาชนใช้อินเตอร์เน็ตและมีการติดตั้งระบบWiFi ในทั่วประเทศ
สำหรับด้านการต่างประเทศและความมั่นคง สิ่งที่น่าสนใจคือในปี2014 นาย ราอูลคาสโตรได้ประกาศกระบวนการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐ โดยเมื่อวันที่20มิถุนายนปี2015 สหรัฐและคิวบาได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตและเมื่อเดือนมีนาคมปี2016 ประธานประเทศคิวบา ราอูลคาสโตรได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบามา ณ กรุงฮาวานา
ชาวคิวบาไปลงคะแนน |
การเปลี่ยนแปลงและการสานต่อ
เมื่อปี2013 หลังจากที่เสนอชื่อนาย มิเกล ดิแอซ คาเนล เบร์มูเดซ ซึ่งเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่โดดเด่นให้ดำรงตำแหน่งรองประธานคนที่หนึ่งของสภาแห่งรัฐคิวบา ประธานประเทศคิวบา ราอูล คาสโตรก็ได้ย้ำว่า เขามิใช่นักการเมืองหน้าใหม่ที่ขาดประสบการณ์หากได้พยายามฝึกฝนหล่อหลอมตนเองและผ่านการทดสอบต่างๆอย่างเคร่งครัด ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า นี่ก็เป็นจุดร่วมของคณะผู้บริหารชุดใหม่ของคิวบา
ในทางเป็นจริง กระบวนการเตรียมความพร้อมให้แก่การแต่งตั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่ได้มีขึ้นเป็นเวลาหลายปี ซึ่งได้แสดงให้เห็นผ่านการที่อายุเฉลี่ยของสมาชิกรัฐสภาคิวบา605คนที่ได้รับเลือกเมื่อวันที่11มีนาคมคือ49ปี มีสมาชิก9คนในจำนวนทั้งหมด17คนของกรมการเมืองส่วนกลางพรรคคอมมิวนิสต์คิวบาที่เกิดและเติบโตในช่วงการปฏิวัติและส่วนใหญ่ได้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญต่างๆ ซึ่งพวกเราถือเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคนรุ่นก่อนกับคนรุ่นใหม่
ในอีกมุมมอง คิวบามีการบริหารแบบรวมศูนย์ ดังนั้น นโยบายและแนวทางต่างๆต้องได้รับการอนุมัติจากการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคและผ่านการรวบรวมความคิดเห็นของประชาชน นอกจากนั้น ในคิวบา พรรคซึ่งนาย ราอูล คาสโตรยังเป็นผู้นำได้มีบทบาทกำหนดแนวทางการบริหารของรัฐ ดังนั้น หน้าที่ของสภาแห่งรัฐคิวบาในวาระใหม่คือยืนหยัดเส้นทางที่ได้เลือกแฟ้นและเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ เพื่อรับมือกับอุปสรรค ความท้าทายที่ยังคั่งค้างอยู่และที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ในตลอด6ทศวรรษที่ผ่านมา ประชาชนคิวบาได้มีความเชื่อมั่นต่อเส้นทางการปฏิวัติที่พวกเขาได้เลือก แม้เส้นทางการพัฒนาของคิวบาในเวลาข้างหน้ายังคงประสบอุปสรรคแต่ประชาชนคิวบายังมีความเชื่อมั่นต่อคณะผู้บริหารชุดใหม่ในการนำประเทศฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆอย่างสำเร็จ.