การเลือกตั้งสภาล่างญี่ปุ่นสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนา

Anh Huyen- VOV5
Chia sẻ
(VOVWORLD)-พรรคร่วมรัฐบาลญี่ปุ่นที่ประกอบด้วยพรรคเสรีประชาธิปไตยหรือLDPของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะและพรรคโคเมอิโตะใหม่หรือNKP ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งสภาล่างเมื่อวันที่22ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งชัยชนะนี้ได้ช่วยให้นาย ชินโซ อาเบะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกสมัยจนถึงปี2021และกลายเป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรียาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น  พร้อมทั้ง เปิดทางให้แก่การปฏิบัตินโยบายการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ  โดยเฉพาะ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการทหารในสภาวการณ์ที่ภัยคุกคามจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีนับวันเพิ่มมากขึ้น
การเลือกตั้งสภาล่างญี่ปุ่นสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนา - ảnh 1ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งญี่ปุ่นไปลงคะแนนในการเลือกตั้งสภาล่างเมื่อวันที่22ตุลาคม (Photo: AFP/TTXVN) 

การได้ที่นั่ง2ใน3ในสภาล่างได้เปิดทางให้นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะสามารถอนุมัตินโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจและการเงิน  มีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจรายใหญ่อันดับ2ในภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ จากการที่สถานะได้รับการยกระดับ พรรคร่วมรัฐบาลญี่ปุ่นของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ สามารถผลักดันการปรับปรุงรัฐธรรมนูญสันติภาพหลังสงครามโลกครั้งที่2  โดยชี้ชัดถึงบทบาทของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นหรือSDF  ซึ่งชัยชนะดังลก่าวได้แสดงให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นต่อพรรคLDPและความสามารถของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะในการบริหารประเทศ

อำนวยความสะดวกเพื่อผลักดันนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ

  ตอนที่นาย ซินโซ อาเบะ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เมื่อเดือนธันวาคมปี2012  ประเทศญี่ปุ่นในตอนนั้นก็กำลังต้องเผชิญกับปัญหาด้านเศรษฐกิจ เช่น  อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวและอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น เป็นต้น ซึ่งปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะในตอนนั้นคือการปฏิบัติคำมั่นที่ได้ให้ไว้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่มีชื่อว่า  Abenomics  ซึ่งเป็นแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะที่ประกอบด้วย การผลักดันการใช้จ่ายสาธารณะ การผ่อนปรนด้านการเงินและกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างกว้างลึก

ในตลอดเวลาที่บริหารประเทศนาย ชินโซ อาเบะ เศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ได้บรรลุความคืบหน้าต่างๆ  โดยอัตราคนว่างงานได้ลดลงและปัจจุบันอยู่ที่ต่ำกว่าร้อยละ3 ในขณะเดียวกัน เงินเยนได้อ่อนค่าลงได้ผลักดันการส่งออก ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นอยู่ในระดับสูงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา แม้จะมีการถกเถียงเกี่ยวกับแผรการAbenomicsแต่จนถึงขณะนี้ อาจยืนยันได้ว่า แผนการนี้ได้เกิดประสิทธิภาพที่ชัดเจน  ดังนั้น บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อสังเกตว่า ชัยชนะของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะและพรรคLDPในการเลือกตั้งสภาล่างจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้แก่เศรษฐกิจและการขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น โดยผลการเลือกตั้งครั้งนี้ก็เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า บรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมีความประสงค์ให้รัฐบาลผลักดันการปฏิบัติ Abenomics ให้เข้มแข็งมากขึ้น  หลังจากที่ได้รับทราบผลการเลือกตั้ง ตัวแทนของสถานประกอบการญี่ปุ่นได้แสดงความยินดีต่อชัยชนะของพรรคร่วมรัฐบาล  ซึ่งเปิดระยะใหม่ให้แก่ระบบการเมืองที่มีเสถียรภาพ  บรรดาสถานประกอบการได้แสดงความประสงค์ว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน การเพิ่มผลผลิตและการผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างเพื่อสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่เศรษฐกิจ

การเลือกตั้งสภาล่างญี่ปุ่นสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนา - ảnh 2 นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะและประธานสภาวิจัยนโยบายของพรรคLDP ฟูมิโอะ คิชิดะ (Photo: THX/TTXVN)

การรักษาเสถียรภาพและการค้ำประกันความมั่นคงแห่งชาติ

  นอกจากปัญหาเศรษฐกิจแล้ว การปรับปรุงมาตราที่9ของรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องถึงบทบาทของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นและเพิ่มทักษะความสามารถของรัฐบาลถ้าหากต้องเผชิญวิกฤตจากเปียงยางก็เป็นปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผลการเลือกตั้งดังกล่าวเพราะทักษะความสามารถทางการทูตของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะที่เกี่ยวข้องถึงปัญหาของเปียงยางได้รับการชื่นชมและพรรคLDPเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ได้รับการประเมินว่า มีทักษะความสามารถในการรับมือวิกฤตเปียงยาง  ในสภาวการณ์ที่ความตึงเตรียดบนคาบสมุทรเกาหลีนับวันเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการทดลองยิงขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเปียงยาง  ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งญี่ปุ่นยิ่งมีความเชื่อมั่นว่า ญี่ปุ่นต้องการผู้นำที่มีท่าทีที่แข็งกร้าวเพื่อเผชิญกับความเสี่ยงด้านนิวเคลียร์จากเปียงยาง

หลังสงครามโลกครั้งที่2  กองทัพสหรัฐที่ประจำการในญี่ปุ่นมีความรับผิดชอบค้ำประกันความมั่นคงและกลาโหมของญี่ปุ่นโดยญี่ปุ่นมีกองกำลังเล็กเพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น  ในช่วงที่นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะขึ้นบริหารประเทศ        กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นนับวันยิ่งมีบทบาทมากขึ้นจากการที่พรรคLDPขึ้นบริหารประเทศอีกสมัย บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้ให้ข้อสังเกตว่า มีความเป็นไปได้ที่กระบวนการปรับปรุงรัฐธรรมนูญได้รับการผลักดัน แต่นี่เป็นปัญหาที่นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะต้องปฏิบัติอย่างรอบคอบเพราะการปรับปรุงรัฐธรรมนูญสันติภาพที่บังคับใช้ในตลอด70ปีที่ผ่านมาผ่านตามแนวทางการพัฒนากองกำลังป้องกันตนเองให้เป็นกองทัพที่มีบทบาทในเชิงรุกได้สร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ญี่ปุ่นอาจจะเข้ามาแทรกแซงในสงครามต่างๆ  ดังนั้น ถ้าหากผลักดันการปรับปรุงรัฐธรรมนูญในตอนนี้จะสร้างความขัดแย้งระหว่างฝ่ายต่างๆและอาจส่งผลต่อเชื่อเสียงของพรรคLDP แต่ความวิตกกังวลดังกล่าวได้รับการแก้ไขเพราะเมื่อเร็วๆนี้ นาย ชินโซ อาเบะได้กล่าวว่า จะไม่ดำเนินแผนการปรับปรุงรัฐธรรมนูญก่อนปี2020และยืนยันว่า ทุกการเปลี่ยนแปลงต้องผ่านการลงประชามติ

  วาระของสภาล่างชุดใหม่จะดำเนินไปจนถึงเดือนตุลาคมของปี2021และใน4ปีข้างหน้า นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงชื่อเสียงของตนและผลักดันนโยบายที่เข้มแข็งมากจึ้นต่อทั้งปัญหาภายในและต่างประเทศ  ซึ่งชัยชนะในการเลือกตั้งสภาล่างครั้งนี้เป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อให้นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะปฏิบัติแนวทางและนโยบายของตนเพื่อสร้างผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมให้แก่ญี่ปุ่น.

Feedback