การพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมมีส่วนช่วยค้ำประกันสวัสดิการสังคมและผลักดันการขยายตัว

Hong Van- VOV5
Chia sẻ

(VOVWORLD) -เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับการแก้ไขอุปสรรคและส่งเสริมการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม ซึ่งการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมเป็นหนึ่งในเสาหลักของนโยบายสวัสดิการสังคมและเป็นมาตรการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจ  ในเวลาที่ผ่านมา การพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมได้มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้น  กระทรวง หน่วยงาน  ธนาคารและสถานประกอบการต้องร่วมกันแสวงหามาตรการแก้ไข

การพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมมีส่วนช่วยค้ำประกันสวัสดิการสังคมและผลักดันการขยายตัว - ảnh 1นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม (Photo: Nhandan)

มติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามสมัยที่ 13 และยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมในช่วงปี 2021 - 2030 ได้กล่าวถึงเนื้อหาต่างๆ เพื่อค้ำประกันสิทธิการเข้าถึงที่อยู่อาศัยสำหรับกรรมกรอย่างเท่าเทียมกันและการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม

 ผลงานในเบื้องต้น

รัฐบาลให้ความสนใจเป็นอย่างมากต่อการแก้ไขความต้องการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยและกรรมกรในเขตนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งถูกกำหนดว่า เป็นหนึ่งในหน้าที่หลักในการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมของประเทศ

เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีได้ประกาศโครงการลงทุนเพื่อก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมอย่างน้อย 1 ล้านหลังให้แก่ผู้ที่มีรายได้น้อย กรรมกรในเขตนิคมอุตสาหกรรมในช่วงปี 2021 -2030  ธนาคารต่างๆได้สงวนเงินจำนวนกว่า 120 ล้านล้านด่งหรือคิดเป็นกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อปฏิบัติโครงการนี้    จนถึงขณะนี้ท้องถิ่น 28 แห่งได้ประกาศ 68 โครงการที่ตอบสนองเงื่อนไขของวงเงินสินเชื่อ มูลค่า 120 ล้านล้านด่ง โดยมีความต้องการกู้เงินจำนวนกว่า 30 ล้านล้านด่ง  ธนาคารต่างๆให้คำมั่นที่จะจัดสรรสินเชื่อให้แก่ 15 โครงการ กระทรวงการก่อสร้างประเมินว่า แหล่งเงินช่วยเหลือดังกล่าวจะเกิดประสิทธิภาพ

ในช่วงปี 2021 - 2023 ทั่วประเทศมีโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมเกือบ 500 โครงการ โดยก่อสร้างที่อยู่อาศัยกว่า 4 แสน 1 หมื่นยูนิต ซึ่งในนั้น 72 โครงการได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สำหรับกองทุนที่ดินสำหรับการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม กระทรวงการก่อสร้างเผยว่า จนถึงขณะนี้ เวียดนามได้วางผังพื้นที่กว่า 8,600 เฮกตาร์สำหรับการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม เมื่อเทียบกับปี 2020 พื้นที่สำหรับการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมได้เพิ่มขึ้น 5,252 เฮกตาร์ ท้องถิ่นบางแห่งให้ความสนใจต่อการวางผังที่ดินเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม เช่น จังหวัดด่งนาย นครโฮจิมินห์จังหวัดลองอาน นครไฮฟองและกรุงฮานอย

การพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมมีส่วนช่วยค้ำประกันสวัสดิการสังคมและผลักดันการขยายตัว - ảnh 2บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุม (Photo: Nhandan)

ก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม 1 แสน3 หมื่นยูนิตในปี 2024

ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา แม้ 72 โครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมได้เสร็จเรียบร้อยแต่มีที่อยู่อาศัยกว่า 3 หมื่น 8 พันยูนิตเท่านั้น ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมายเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม

ในมติที่ 01 เกี่ยวกับหน้าที่ มาตรการหลักเพื่อปฏิบัติแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมที่ประกาศเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายหน้าที่ก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม 1 แสน 3 หมื่นยูนิต เพื่อปฏิบัติเป้าหมายนี้และเป้าหมายการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม 1 ล้านยูนิต นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ชี้ชัดว่า

“กระทรวงการก่อสร้างเน้นลดขั้นตอนระเบียบราชการในการคัดเลือกนักลงทุน และปฏิบัติโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมเพื่อประหยัดเวลา ระดมแหล่งพลังจากสังคม ธนาคารชาติชี้นำให้ธนาคารพาณิชย์ร่วมกับสถานประกอบการเพื่อทำการวิจัยและจัดสรรวงเงินสินเชื่อให้แก่ผู้ซื้อเป็นเวลา10 -15 ปี ด้วยดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ทั่วไปร้อยละ 3-5 ”

สำหรับสถานประกอบการ นาย เหงวียนวันแทงฮวี รองผู้อำนวยการใหญ่เครือบริษัท Becamexได้เผยว่า จะเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมควบคู่กับการก่อสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับกรรมกร ในปี 2024  จังหวัดบิ่งเยืองจะวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม 1 หมื่นยูนิต   “ในไตรมาสแรกของปีนี้ พวกเราจะก่อสร้างที่อยู่อาศัย 2 พันยูนิต ทางจังหวัดฯเน้นระดมแหล่งพลังต่างๆ เรียกร้องการเข้าร่วมของธนาคารพาณิชย์เพื่อปฏิบัติโครงการนี้ ในกระบวนการปฏิบัติ ทางเครือบริษัทฯเห็นว่า ดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับแรงงานยังอยู่ในระดับสูงและระยะเวลาใช้คืนสั้นเกินไป ถ้าหากพวกเราขยายเวลากู้เงินให้แก่แรงงานก็จะอำนวยความสะดวกให้แรงงานได้มีที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม”

เวียดนามกำลังปฏิบัติโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อสังคม 1 ล้านยูนิตจนถึงปี 2030 แม้จะมีอุปสรรคมากมายที่ต้องได้รับการแก้ไขแต่นี่เป็นแนวทางแห่งความเป็นมนุษย์ มีส่วนร่วมค้ำประกันสวัสดิการสังคมและผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ.

Feedback