(VOVworld) – เมื่อได้ข่าวว่า เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาใหญ่สหภาพรัฐสภาโลกหรือIPUครั้งที่๑๓๒ในเดือนมีนาคมปี๒๐๑๕เป็นครั้งแรก ประชาคมระหว่างประเทศได้แสดงความเชื่อมั่นว่า เวียดนามจะสามารถจัดการประชุมครั้งที่๑๓๒ประสบความสำเร็จได้ การที่เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งท่๑๓๒แสดงให้เห็นว่า เวียดนามให้การสนับสนุนและให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อความร่วมมือกับIPU อีกทั้งส่งสาส์น เวียดนามเป็นสมาชิกที่เข้มแข็งและมีความรับผิดชอบของIPU พยายามเพื่อสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรืองและการพัฒนาในโลก
|
คณะผู้แทนระดับสูงของรัฐสภาเวียดนามเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่IPU
ครั้งที่๑๓๐ (Photo:VOV ) |
ในกรอบกิจกรรมของสมัชชาใหญ่IPU ครั้งที่๑๓๐ ที่จัดขึ้น ณ นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่๑๘เดือนนี้ ท่านเหงวียนซิงหุ่ง ประธานรัฐสภาเวียดนามและท่านAbdelwahad Radi ประธานIPU ได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับการที่เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาใหญ่IPU ครั้งที่๑๓๒ในเดือนมีนาคมปี๒๐๑๕ ในโอกาสนี้ เวียดนามได้เปิดตัวโลโก้สมัชชาใหญ่IPUครั้งที่๑๓๒และจัดกิจกรรมวัฒนธรรมเวียดนามที่ศูนย์การประชุม ที่กำลังมีการประชุมสมัชชาใหญ่IPU ครั้งที่๑๓๐ ซึ่งได้รับการชื่นชมจากบรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมIPU
เข้าร่วมกลไกความร่วมมือIPUอย่างแข็งขัน
เวียดนามเข้าเป็นสมาชิกของIPU เมื่อปี๑๙๗๙และนับแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้เป็นสมาชิกที่เข้มแข็งและมีความรับผิดชอบของฟอรั่มนี้ เวียดนามเคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆในIPU ทั้งคณะกรรมการบริหารซึ่งเป็นองค์การบริหารสูงสุดของIPU และได้รับเลือกเป็นรองประธานIPU เมื่อปี๒๐๐๙ เวียดนามให้การสนับสนุนเนื้อหาและวัตถุประสงค์ของกิจกรรมของIPU เช่น การผลักดันประชาธิปไตย สันติภาพ และการพัฒนาในโลก ผลักดันบทบาทและสิทธิของสตรีและเด็กอยู่เสมอ
ด้วยเหตุนี้ การเข้าร่วมIPU อย่างแข็งขันของเวียดนามในเวลาที่ผ่านมาพร้อมแผนการเตรียมเป็นเจ้าภาพถือเป็นพื้นฐานเพื่อให้มิตรประเทศมีความเชื่อมั่นในความสามารถของเวียดนาม แม้จะเป็นเจ้าภาพครั้งแรกก็ตาม ท่านAhmed Obaid Al Mansoori สมาชิกสภาสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวว่า“เวียดนามมีประสบการณ์มากมาย มีทักษะพัฒนา และมีโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีเพื่อจัดการประชุมสมัชชาใหญ่IPU ครั้งที่๑๓๒ให้เป็นผลสำเร็จ เวียดนามมีเอกลักษ์วัฒนธรรมที่ดีงาม พวกเราให้การสนับสนุนเวียดนามอย่างเต็มที่เพราะพวกเราได้มีความร่วมมือกับเวียดนามอย่างมีประสิทธิภาพ”
|
กิจกรรมวัฒนธรรมเวียดนามที่ศูนย์การประชุม (Photo:VOV ) |
รัฐสภาและการปฏิบัติโครงการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายหลังปี๒๐๑๕
หัวข้อของการประชุมสมัชชาใหญ่IPU ครั้งที่๑๓๒ที่เวียดนามได้เสนอคือ“ยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืนภายหลังปี๒๐๑๕”ได้รับการสนับสนุนจากIPUและสส.ในทั่วโลก ท่าน
Abdelwahad Radi ประธานIPU ได้กล่าวว่า เนื้อหาของหัวข้อสอดคล้องกับแนวทางยุทธศาสตร์ของIPUที่ระบุในยุทธศาสตร์IPU ๒๐๑๒–๒๐๑๗“พวกเรามีความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่า การประชุมสมัชชาใหญ่IPU ครั้งที่๑๓๒จะประสบความสำเร็จเพราะเวียดนามได้มีการเตรียมการเป็นอย่างดีโดยได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้แก่การประชุมครั้งที่๑๓๒ เวียดนามเลือกหัวข้อสำคัญของการประชุมครั้ง๑๓๒คือ ยุทธศาสตร์พัฒนาอย่างยั่งยืนภายหลังปี๒๐๑๕ซึ่งก็เป็นประเด็นที่ประชาคมระหว่างประเทศกำลังให้ความสนใจและปฏิบัติยุทธศาสตร์นี้ การเตรียมตัดสินใจให้แก่การพัฒนาหลังปี๒๐๑๕ไม่เพียงแต่เป็นงานของรัฐบาลต่างๆเท่านั้นหากยังมีส่วนร่วมที่สำคัญของรัฐสภาต่างๆอีกด้วย ดังนั้น การประชุมสมัชชาใหญ่IPU ครั้งที่๑๓๒จะเป็นฟอรั่มที่เป็นประโยชน์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อนี้”
ส่วนท่านAnders B.Johnsson เลขาธิการIPU กล่าวว่า “ผมเห็นว่า หัวข้อของการประชุมสมัชชาใหญ่IPU ครั้งที่๑๓๒สอดคล้องกับสิ่งที่โลกต้องการในปี๒๐๑๕คือ ขั้นตอนการพัฒนาใหม่ให้แก่ทั้งโลกภายหลังเป้าหมายพัฒนาแห่งสหัสวรรษจะเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดังนั้น หัวข้อที่เวียดนามเลือกจึงมีความสำคัญอย่างจริงจังและตรงเวลาซึ่งสส.ทั่วโลกมีโอกาสแสดงความคิดเห็นและช่วยเหลือกระบวนการปฏิบัติขั้นตอนนี้ การประชุมสมัชชาIPU ครั้งที่๑๓๒จะช่วยให้สมาชิกของาIPUอภิปราย แสดงความคิดเห็นและบรรลุข้อตกลงอย่างเข้มแข็งเพื่อให้IPUมีบทบาทสำคัญในกระบวนการพัฒนาของโลกในอนาคต”
การที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาใหญ่IPU ครั้งที่๑๓๒จะช่วยสร้างเวทีที่สำคัญเพื่อให้สส.และรัฐสภาประเทศสมาชิกแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับยุทธศาสตร์พัฒนาหลังปี๒๐๑๕ที่ทั้งโลกกำลังให้ความสำคัญและช่วยให้กลุ่มประเทศเอเชียมีเสียงพูดที่มีน้ำหนักมากขึ้นในIPU สำหรับเวียดนาม ความสำเร็จในการจัดการประชุมสมัชชาใหญ่IPU ครั้งที่๑๓๒จะช่วยยกระดับบทบาทของเวียดนาม โดยเฉพาะ รัฐสภาเวียดนามในกิจกรรมต่างประเทศบนเวทีโลก ขยายความสัมพันธ์ทางการทูตของรัฐสภากับหลายหุ้นส่วนและขยายการพบปะกับประชาคมระหว่างประเทศ./.
Thùy Vân –VOV tại Pháp