การประชุมสุดยอดสหรัฐ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีนำความร่วมมือไตรภาคีพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่

Van
Chia sẻ
(VOVWORLD) - วันที่ 18 สิงหาคม ณ แคมป์เดวิดในรัฐแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐ ได้มีการจัดการประชุมสุดยอดไตรภาคีสหรัฐ-ญี่ปุ่น-สาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นการประชุมสุดยอดไตรภาคีครั้งแรกที่จัดขึ้นเป็นการเฉพาะ โดยไม่ใช่การพบปะนอกรอบของการประชุมสุดยอดระดับพหุภาคีใด ๆ บรรดาผู้สังเกตการณ์แสดงความเห็นว่า การประชุมได้เปิดระยะใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์พันธมิตรสหรัฐ-ญี่ปุ่น-สาธารณรัฐเกาหลี และวางพื้นฐานให้แก่ความร่วมมือไตรภาคีที่กว้างลึกและแน่นแฟ้นมากขึ้นในเวลาที่จะถึง
การประชุมสุดยอดสหรัฐ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีนำความร่วมมือไตรภาคีพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ - ảnh 1ผู้นำสหรัฐ ญี่ปุ่นแะสาธารณรัฐเกาหลีในการพบปะนอกรอบการประชุมสุดยอดนาโต้ ณ ประเทศสเปนเมื่อปี 2022  (AFP)

 

ในอดีต สหรัฐ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีเคยจัดการประชุมไตรภาคี 12 ครั้ง โดยเริ่มจากการประชุมสุดยอดฟอรั่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกเมื่อปี 1994 แต่อย่างไรก็ตาม การประชุมเหล่านั้นจัดขึ้นนอกรอบกิจกรรมการทูตพหุภาคี ส่วนการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้น ณ แคมป์เดวิดครั้งนี้ถือเป็นการประชุมไตรภาคีที่จัดขึ้นเป็นการเฉพาะครั้งแรก

ช่วงเวลาที่เหมาะสม

การประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐ-ญี่ปุ่น-สาธารณรัฐเกาหลีมี นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ นาย ยุน ซุก-ยอล ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีและนาย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเข้าร่วม นี่เป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ให้การต้อนรับผู้นำต่างชาติ ณ แคมป์เดวิด

การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นตามข้อเสนอของประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน เมื่อผู้นำทั้ง 3 ประเทศพบปะกันนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกหรือ G7 ณ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาโดยผู้นำทั้ง 3 ประเทศได้เห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือไตรภาคีให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ส่งเสริมความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์เมื่อเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า “ภัยคุกคามจากนิวเคลียร์และขีปนาวุธ” จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี และส่งเสริมกฎระเบียบระหว่างประเทศที่เสรีและเปิดกว้างตามกฎหมาย

บรรดานักวิเคราะห์แสดงความเห็นว่า การประชุมมีขึ้นในเวลาที่เหมาะสมเนื่องจากสาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่นได้ปรับความสัมพันธ์ร่วมมือทวิภาคีให้เป็นปกติเมื่อต้นปีนี้ โดยแก้ไขความขัดแย้งเกี่ยวกับดินแดนและประวัติศาสตร์ที่ส่งผลกระทบในทางลบต่อความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงและการค้ามานานแล้ว นอกจากนี้ ผู้นำของทั้ง 3 ประเทศที่มีทัศนะที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับปัญหาต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์ของตนเองในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก โดยตระหนักได้ดีว่า การสร้างพันธมิตรที่แน่นแฟ้นและน่าเชื่อถือจะเป็นพื้นฐานที่ดีที่สุดเพื่อทำให้แผนการเชิงยุทธศาสตร์ประสบความสำเร็จในเวลาที่จะถึง

การประชุมสุดยอดสหรัฐ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีนำความร่วมมือไตรภาคีพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ - ảnh 2 นาย John Kirby ผู้ประสานงานการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (Reuters)

วางพื้นฐานให้แก่ความร่วมมือที่กว้างลึก

ตามความเห็นของนาย แอนโทนี บลินเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ในการประชุม บรรดาผู้นำได้หารือเกี่ยวกับเนื้อหาที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ เช่น ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ  เทคโนโลยีใหม่ โครงการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการพัฒนา วิธีการเพื่อแปรกรอบกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคงของทั้ง 3 ประเทศให้เป็นรูปธรรม ซึ่งกลไกนี้มีบทบาทที่สำคัญต่อการธำรงความมั่นคงและเสถียรภาพทั้งภายในและนอกภูมิภาคเอเชีย

ตามความเห็นของนาย จอห์น เคอร์บี ผู้ประสานงานการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ การประชุมสุดยอดสหรัฐ-ญี่ปุ่น-สาธารณรัฐเกาหลีจะยกระดับความสัมพันธ์ร่วมมือไตรภาคีพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ในขณะเดียวกัน นาย เคิร์ต แคมป์เบลล์ ผู้ประสานงานของทำเนียบขาวที่ดูแลภูมิภาคอินโดแปซิฟิกได้แสดงความเห็นว่า การประชุมมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอข้อคิดริเริ่มที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเพื่อธำรงการพัฒนาของความสัมพันธ์ระหว่าง 3 ประเทศพันธมิตร และทำให้ความร่วมมือไตรภาคีพัฒนา “กว้างลึกและแน่นแฟ้นมากขึ้น”

สำหรับฝ่ายพันธมิตรของสหรัฐ ในการพูดคุยกับสื่อมวลชนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นาย คิมแทฮโย รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสาธารณรัฐเกาหลีได้ย้ำว่า การปรึกษาหารือไตรภาคีระหว่างสาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐและญี่ปุ่นจะมีลักษณะเฉพาะอย่างชัดเจนในฐานะสำนักงานความร่วมมือในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก

ในขณะเดียวกัน ในการกล่าวปราศรัยก่อนออกเดินทางไปยังสหรัฐเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม นาย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ยืนยันว่า เมื่อมาตรฐานระหว่างประเทศที่สร้างขึ้นบนเสรีภาพและการเปิดกว้างถูกสั่นคลอน ความสัมพันธ์ทวิภาคีของญี่ปุ่นกับสหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลีที่กำลังอยู่ในระดับที่ดีที่สุดจะเป็นพื้นฐานของโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ในการกระชับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่าง 3 ประเทศ

แคมป์เดวิด เป็นสถานที่ตากอากาศของประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสำคัญๆ เช่น การเจรจาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างผู้นำสหรัฐกับอังกฤษ การเจรจาสันติภาพระหว่างผู้นำของอิสราเอลกับประเทศเพื่อนบ้านอาหรับ ประชามติในสหรัฐ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีเชื่อมั่นว่า แคมป์เดวิดจะได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ทางการทูตในศตวรรษที่ 21 ที่เปิดระยะใหม่ให้แก่ความร่วมมือไตรภาคี นำความร่วมมือระหว่างสหรัฐ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลีพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่.

Feedback