นาย วลาดีเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย (Photo: RIA NOVOSTI) |
การประชุมสุดยอด BRICS ปีนี้มีหัวหัวข้อ “การส่งเสริมระบบพหุภาคีเพื่อการพัฒนาและความมั่นคงระดับโลกที่เป็นธรรม” มีการเข้าร่วมของผู้นำของ 9 ประเทศสมาชิก BRICS ซึ่งประกอบด้วย รัสเซีย บราซิล อินเดีย จีน แอฟริกาใต้ อียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่านและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้นำของกว่า 20 ประเทศหุ้นส่วนและองค์การระหว่างประเทศ
สถานะที่นับวันเพิ่มสูงขึ้น
การเลือกหัวข้อของการประชุมปีนี้แสดงให้เห็นถึงประเด็นที่ประเทศเจ้าภาพรัสเซีย เน้นความสนใจในการปฏิบัติ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องถึง 3 หัวข้อใหญ่ได้แก่ การเมือง-ความมั่นคง เศรษฐกิจ- การเงิน และวัฒนธรรมกับความเป็นมนุษย์ ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนก่อนการประชุมสุดยอด BRICS นาย วลาดีเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้ยืนยันว่า BRICS นับวันมีบทบาทมากขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นในด้านเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ ความมั่นคง การผลักดันการพบปะสังสรรค์ ความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ สำหรับด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นด้านหลักของการก่อตั้งและพัฒนาของกลุ่ม BRICS บทบาทที่นับวันเพิ่มมากขึ้นของ BRICS แสดงให้เห็นผ่านการเพิ่มการมีส่วนร่วมของกลุ่มนี้ต่อจีดีพีโลกและพลังขับเคลื่อนของการขยายตัว นาย วลาดีเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้ย้ำว่า
“ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา กลุ่ม BRICS มีส่วนร่วมกว่าร้อยละ 40 ต่อจีดีพีโลกและตามข้อมูลต่างๆของปีนี้ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยของกลุ่ม BRICS อยู่ที่ร้อยละ 4 ซึ่งสูงกว่าอัตราการขยายตัวเฉลี่ยของกลุ่มเศรษฐกิจที่พัฒนาหรือจี 7 คือร้อยละ 1.7 และสูงกว่าการพยากรณ์การขยายตัวเฉลี่ยของโลกคือร้อยละ 3.2”
สถานะใหม่ของกลุ่ม BRICS ได้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่ม จี 7 โดยเฉพาะแผนภูมิความก้าวหน้าของทั้งสองฝ่ายนับวันมีแนวโน้มตรงข้ามกัน โดยตามข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF บรรดาประเทศสมาชิก BRICS คิดเป็นร้อยละ 45 ของประชากรโลกและร้อยละ 35 ของจีดีพีโลก ในขณะที่กลุ่มจี 7 คิดเป็นร้อยละ 10 ของประชากรโลกและร้อยละ 30 ของจีดีพีโลกเท่านั้น ในปลายศตวรรษนี้ อัตราจีดีพีของบรรดาประเทศ BRICS อาจจะคิดเป็นร้อยละ 37 ของโลก ส่วนอัตราจีดีพีของกลุ่มจี 7 จะคิดเป็นร้อยละ 28 ของโลก ซึ่งช่องว่างนี้อาจเพิ่มขึ้นเมื่อกลุ่ม BRICS รับสมัครสมาชิกใหม่เพิ่มเติม
สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ บรรดาผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า กลุ่ม BRICS กำลังปรับปรุงโครงสร้างและยุทธศาสตร์ในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่ใหญ่กว่า โดยไม่ใช่กลุ่มความร่วมมือเศรษฐกิจระหว่างเศรษฐกิจเพิ่งเกิดใหม่เท่านั้น ภายหลังการประชุมสุดยอด BRICS ปี 2023 ณ ประเทศแอฟริกาใต้ กลุ่ม BRICS ได้รับสมัคร 4 ประเทศสมาชิกใหม่และปัจจุบัน หลายประเทศ เช่น ตุรกี ไทยและคิวบาต่างแสดงความปรารถนาเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่ม BRICS ซึ่งกลุ่ม BRICS ไม่เพียงแต่เน้นถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเท่านั้นหากยังเริ่มหารือเกี่ยวกับแผนการที่มีความทะเยอทะยานในการจัดตั้งระบบการเงินและกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคงใหม่เพื่อสร้างความสมดุลย์ในความเป็นระเบียบเรียบร้อยด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่ประเทศตะวันตกกำลังควบคุม นาย Raymond Matlala ประธานสมาคม BRICS รุ่นใหม่แอฟริกาใต้ให้ข้อสังเกตว่า
“กลุ่ม BRICS เป็นเสียงพูดของซีกโลกใต้ในกลไกลพหุภาคีที่ฝ่ายตะวันตกกำลังควบคุม ไม่มีกลไกและองค์การใดสามารถนำซีกโลกใต้ออกจากระเบียบโลกในปัจจุบันแต่ด้วยเสียงพูดและความร่วมมือที่เข้มแข็ง BRICS สามารถทำได้เรื่องนี้”
การจัดทำยุทธศาสตร์ใหม่
เพื่อยืนยันความตั้งใจสร้างสถานะที่ยุติธรรมมากขึ้นให้แก่ซีกโลกใต้ ในการประชุมสุดยอด BRICS ปีนี้ หนึ่งในหัวข้อหลักที่บรรดาผู้นำ BRICS จะหารือคือการสร้างระบบการชำระเงินระหว่างประเทศใหม่ที่เป็นอิสระจากระบบการชำระเงินระหว่างประเทศที่มีอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารและสถาบันการเงินของฝ่ายตะวันตก ซึ่งแผนการดังกล่าวไม่เพียงแต่มีความหมายที่สำคัญต่อประเทศเจ้าภาพรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของฝ่ายตะวันตกนับตั้งแต่ที่เกิดการปะทะในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022เท่านั้น หากยังเป็นยุทธศาสตร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากบรรดาประเทศสมาชิก BRICS เนื่องจากประเทศเหล่านี้ไม่อยากพึ่งพาระบบการเงินของฝ่ายตะวันตกและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการตัดสินใจเพียงฝ่ายเดียวในอนาคต
หัวข้อดังกล่าวเคยได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุมสุดยอด BRICS ปี 2023 ณ ประเทศแอฟริกาใต้และนอกจากแผนการสร้างระบบการชำระเงินระหว่างประเทศใหม่แล้ว ยังมีบางความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้เงินสกุลร่วมของ BRICS แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า ในสภาวการณ์ที่มีความไร้เสถียรภาพทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจในโลกและกลุ่ม BRICS เองก็ยังไม่มีความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ บรรดาประเทศBRICS จึงต้องมีปฏิบัติการที่ระมัดระวังในการจัดตั้งกลไกและระบบการชำระเงินใหม่ที่มีลักษณะท้าทายต่อฝ่ายตะวันตก
อีกหนึ่งหัวข้อใหญ่ที่บรรดาผู้นำ BRICS ต้องหารือคือการรับสมัครสมาชิกใหม่ ในการประกาศเมื่อเร็วๆนี้ นาย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเห็นว่า BRICS ควรระงับการรับสมัครสมาชิกใหม่เพื่อปรับปรุงกลุ่มและกำหนดเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์โดยรวม แต่ในเวลาที่ผ่านมา หลายประเทศได้แสดงความประสงค์ที่จะเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่ม BRICS โดยเร็ว และที่น่าสนใจที่สุดคือตุรกี ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกนาโต้และกำลังลงสมัครเข้าเป็นสมาชิกของอียู ซึ่งการรับสมัครสมาชิกใหม่อย่างเช่นตุรกีอาจเพิ่มอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจให้แก่ BRICS แต่ก็อาจจะสร้างความท้าทายต่อการปฏิบัติยุทธศาสตร์ในระยะยาวในเมื่อ BRICS อยากสร้างสถานะและเอกลักษณ์เฉพาะเพื่อตอบสนองผลประโยชน์ของซีกโลกใต้เป็นหลัก.