(VOVworld)-วันที่23กันยายน การประชุมว่าด้วยการป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติได้เปิดขึ้นที่นครนิวยอร์ค สหรัฐโดยมีการเข้าร่วมของผู้นำประเทศกว่า120ชาติ ผู้บริหารกลุ่มเศรษฐกิจใหญ่ องค์กรการเงิน สังคมและวิชาชีพอีกหลายร้อยคน นี่เป็นการประชุมเกี่ยวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ใหญ่ที่สุดของโลกจึงได้รับความคาดหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่มีผลบังคับใช้ทางกฎหมายเพื่อมุ่งสู่การลงนามข้อตกลงว่าด้วยการป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศภายในปี2015
|
การประชุมนิวยอร์ค2014เป็นการประชุมเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนที่มีขอบเขตใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การประชุมโคเปนเฮเกนปี2009และได้มีขึ้นในสภาวการณ์ที่ผลการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจต่างระบุชัดว่า โลกต้องมีการลงทุนเพื่อป้องกันภาวะโลกร้อนโดยเร็วเพราะถ้าหากช้าไป ในอีก15ปีข้างหน้าโลกจะต้องเผชิญกับภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่ไม่สามารถคาดผลได้ ดังนั้นเป้าหมายของการประชุมนี้คือเพื่อมุ่งสร้างกรอบทางนิตินัยให้แก่การเจรจาเกี่ยวกับสนธิสัญญาการปรับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปลายปีนี้ที่ประเทศเปรูและที่ประเทศฝรั่งเศสในปีหน้าแทนสนธิสัญญาเกียวโตที่จะหมดอายุลง
ผลเสียที่ต้องแบกรับหากมวลมนุษย์ยังไม่ร่วมมือกันปฏิบัติ
ตามข้อมูลของธนาคารโลกความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจเนื่องจากภัยพิบัติธรรมชาติในรอบ10ปีที่ผ่านมาคิดเป็นเกือบ2ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปีและตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ผลเสียหายจากภัยธรรมชาตินั้นทุกประเทศในโลกจะได้รับผลกระทบ โดยพายุน้ำท่วมจะนับวันรุนแรงมากขึ้น ภาวะโลกร้อนก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและเมื่อเร็วๆนี้ตามรายงานของนักวิทยาศาสตร์อังกฤษ มีแผ่นน้ำแข็งที่ใหญ่กว่าเมืองแมนฮัตตันของสหรัฐในขั้วโลกใต้ได้แตกตัวและกำลังลอยในมหาสมุทร ทั้งนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า โลกกำลังต้องเผชิญกับภัยพิบัติที่ร้ายแรงแต่สิ่งที่ประเทศต่างๆได้ให้คำมั่นที่จะร่วมปฏิบัติในหลายปีที่ผ่านมานั้นยังเป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้นเพราะเมื่อถึงการประชุมของสหประชาชาติว่าด้วยปัญหาสภาพภูมิอากาศทุกครั้งก็ได้เกิดปัญหาถกเถียงกันระหว่างประเทศที่พัฒนาและกำลังพัฒนาในเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การสบทบทางการเงินและการถ่ายทอดเทคโนโลยี เช่นการประชุมโคเปนเฮเกนปี2009เคยเป็นเหตุการณ์ที่ดึงดูดความสนใจของทุกชาติเพราะมีการเข้าร่วมของผู้นำประเทศต่างๆเกือบร้อยคนแต่การปฏิบัติกลับไม่ประสบผลเพราะขาดความร่วมมือระหว่างประเทศ ล่าสุดนี้คือการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่จัดขึ้นเมื่อปี2013ที่ประเทศโปแลนด์ ภาพการกล่าวปราศรัยด้วยน้ำตาคลอเบ้าของหัวหน้าคณะผู้แทนฟิลิปปีนส์เมื่อพูดถึงพี่น้องประชาชนที่กำลังต้องเผชิญกับผลเสียหายจากพายุไหเยี่ยนก็ได้แต่สร้างความซาบซึ้งใจให้แก่ผู้ที่เข้าร่วมเท่านั้นแม้กระทั่งการแสดงออกด้วยการอดอาหารเป็นเวลา12วันของการจัดการประชุมของผู้แทนฟิลิปปินส์เพื่อเรียกร้องให้ชาวโลกร่วมแรงร่วมใจปฏิบัติก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปนั้นก็ไม่สามารถปลุกเร้าใจมนุษยชาติให้ขานรับได้
การเดินขบวนเรียกร้องโลกต้องร่วมกันแก้ปัญหาโลกร้อนใน161ประเทศ(VNA)
|
จากความตั้งใจจนถึงการปฏิบัติ ช่องว่างยังห่างไกลมาก
ถึงแม้ประเทศต่างๆในโลกต่างยอมรับว่าความเสียหายจากภาวะโลกร้อนกำลังกลายเป็นปัญหาที่ทุกชาติต้องตระหนักแต่ก็ยังไม่สามารถแสวงหาเสียงพูดเดียวกันได้ โดยคำว่าจะต้องมีความยุติธรรมในหน้าที่ความรับผิดชอบระหว่างประเทศต่างๆต่อปัญหานี้คือคำพูดที่มักจะถูกย้ำไปย้ำมาหลายครั้งในทุกการประชุมแต่การที่จะแปรความตั้งใจเหล่านั้นให้เป็นการปฏิบัติจริงกลับเป็นสิ่งที่ยังไม่มีคำตอบ ดังนั้นประชามติโลกจึงไม่คาดหวังกับผลการประชุมครั้งนี้มากนักแต่ก็หวังที่จะสามารถสร้างแผนการอย่างละเอียดเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างในปัจจุบัน โดยได้มีความพยายามจากหลายฝ่ายเพื่อมุ่งบรรลุเป้าหมายนี้ โดยเฉพาะแรงกดดันจากประชาคมระหว่างประเทศที่สะท้อนจากการเดินขบวนพร้อมกันใน161ประเทศที่มีผู้เข้าร่วมหลายแสนคนเพื่อเรียกร้องโลกต้องร่วมกันปฏิบัติอย่างเร่งด่วน
ร่วมมือกันปฏิบัติเพื่อโลกในอนาคต
ตามโครงการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศ 15ปีข้างหน้าเป็นช่วงเวลาชี้ขาดเพื่อปรับเปลี่ยนจากการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งถ้าหากช้าไปกว่านั้นมนุษยชาติจะต้องรับมือกับความเสียหายที่ไม่สามารถคาดผลได้ โดยคาดว่าในรอบ15ปีข้างหน้าทั่วโลกต้องลงทุนถึง9แสนล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเน้นพัฒนาใน3ด้านหลักคือ พลังงานแห่งสีเขียว การพัฒนาตัวเมืองที่มีค่าคอร์บอนต่ำและการใช้ที่ดินอย่างเหมาะสม และถ้าหากเศรษฐกิจโลกยังคงดำเนินไปเหมือนปัจจุบัน เฉพาะเรื่องมลพิษทางอากาศก็จะสร้างความเสียหายคิดเป็นร้อยละ4.4ของจีดีพีโลก สุขภาพของประชาชนอ่อนแอลงและผลพวงที่ตามมาคือค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขเพ่ิมมากขึ้น
ทั้งนี้และทั้งนั้น จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าควบคู่กับการมีชีวิตอย่างสงบสุขและเศรษฐกิจพัฒนาคือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซพิษ แต่เรื่องที่สำคัญคือต้องทำอย่างไรเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวพร้อมกับการป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การสร้างงานทำ การลดความยากจนตลอดจนการลดการปล่อยคาร์บอนนั้นถือเป็นเรื่องที่หาคำตอบไม่ง่าย แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะไม่สามารถทำได้ ถ้าหากทุกชาติร่วมแรงร่วมใจกัน ไม่ถือผลประโยชน์ของตนสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด แน่นอนว่าการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและการปฏิรูปเศรษฐกิจโลกจะช่วยสร้างสรรค์เศรษฐกิจที่มีการปล่อยคาร์บอลน้อยลงแต่ยังคงบรรลุอัตราการขยายตัวสูง และนี่คือสิ่งที่ทุกชาติกำลังคาดหวังจากการปฏิบัติเนื้อหาต่างๆของที่ประชุมครั้งนี้./.