(VOVworld)- กาประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือ นาโต ได้เสร็จสิ้นลงแล้วภายหลังประชุมมาเป็นเวลา2วัน ณ นครชิคาโก ประเทศสหรัฐ โดยได้ออกแถลงการณ์สำคัญหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการถ่ายโอนในอัฟกานิสถาน การติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปและปัญหาการเพิ่มความเข้มแข็งด้านการทหารให้แก่นาโต เป็นต้น แต่ถึงอย่างไรก็ดีประชามติได้ประเมินว่าคำมั่นต่างๆได้สะท้อนให้เห็นว่าพันธมิตรทางทหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้กำลังกระอักกระอ่วนต่อการปฏิบัติความใฝ่ฝันที่จะขยายอิทธิพลไปทั่วโลกของตน
|
ที่ประชุมนาโตซัมมิต ณ นคร ชิคาโก ประเทศสหรัฐ(Photo internet) |
หนึ่งในประเด็นสำคัญของที่ประชุมนาโตคือเรื่องเกี่ยวกับอัฟกานิสถาน เนื่องจากสงครามในประเทศนี้ได้ยืดเยื้อมากว่า1ทศวรรษแล้วและแม้จะอยากหรือไม่อยากอยู่ต่อแต่ในที่สุดสหรัฐกับนาโตจะต้องเตรียมพร้อมให้แก่การถอนตัวออกจากประเทศนี้ นอกจากนั้นอัฟกานิสถานก็ไม่ได้เป็นเวทีเพื่อแสดงแสนยานุภาพอีกต่อไปหากได้กลายเป็นปัญหาที่จะครอบงำชื่อเสียงของทั้งสหรัฐและนาโต ดังนั้นเมื่อประกาศแผนการถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถาน นาย อันเดอร์ โฟกห์ รามุสเซน เลขาธิการนาโตก็ได้กล่าวว่า มาพร้อมกันก็ต้องไปพร้อมกัน ส่วนในที่ประชุม บรรดาผู้นำของนาโตได้ให้คำมั่นสนับสนุนแผนการถอนทหารของนาโตให้ตรงตามกำหนดคือในปลายปี2014และหลังจากนั้นจะยังทำหน้าที่ช่วยเหลือในทุกด้านให้แก่รัฐบาลและประชาชนประเทศนี้ต่อไป ซึ่งเพื่อให้แผนการดังกล่าวเป็นไปอย่างราบรื่น นาโตจะทำการฝึกอบรมกองกำลังทหารและตำรวจอัฟกานิสถานเพื่อให้สามารถรับหน้าที่รักษาความมั่นคงภายในประเทศต่อจากนาโตได้รวมทั้งมีความหวังว่า การถอนทหารนี้จะต้องสะท้อนให้เห็นว่า หน้าที่ของนาโตในอัฟกานิสถานในตลอดกว่า1ทศวรรษที่ผ่านมาได้ประสบความสำเร็จแม้จะต้องแลกด้วยความสูญเสียอย่างมากมายก็ตาม ที่ประชุมก็ได้ให้คำมั่นในการสงวนเงิน1พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุนกองกำลังรักษาความั่นคงของอัฟกานิสถานหลังปี2014 แต่ตัวเลขนี้ยังน้อยกว่าจำนวนเงิน1.3พันล้านเหรียญสหรัฐที่ประธานาธิบดีสหรัฐบารักโอบามาเรียกร้องให้พันธมิตรของนาโตสมทบให้แก่อัฟกานิสถาน และยังน้อยกว่าวงเงิน4.1พันล้านเหรียญสหรัฐที่รัฐบาลสหรัฐได้คาดการณ์ไว้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและตำรวจอัฟกานิสถานตั้งแต่ปี2015-2017
แต่ทั้งนี้ตามความเห็นของนักวิเคราะห์หลายคน คำมั่นด้านการเงินนี้ก็ถือเป็นความสำเร็จแล้วเพราะในสภาวการณ์ที่ทุกประเทศต้องเผชิญกับอุปสรรคการท้าทายต่างๆทางเศรษฐกิจในปัจจุบันรวมไปถึงการฟื้นตัวของกองกำลังตาลิบันในอัฟกานิสถานโดยเฉพาะเรื่องที่ใครจะเป็นผู้สนับสนุนเงินให้แก่อัฟกานิสถานหลังปี2014 โดยการแบ่งอัตราเงินที่ต้องสบทบนั้นยิ่งมีความลำบากมากขึ้นเมื่อวิกฤตหนี้สาธารณะที่ยืดเยื้อใน2ปีที่ผ่านมาได้ลุกลามในหลายประเทศสมาชิกนาโต ดังนั้นแม้ว่าทุกประเทศสมาชิกต่างยืนยันคำมั่นการสนับสนุนด้านการเงินแต่ก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องตัวเลขที่ชัดเจน อันที่จริงแล้ว ทุกประเทศสมาชิกนาโตยกเว้นสหรัฐกำลังพยายามหาทางลดจำนวนเงินที่ตนต้องสมทบให้เหลือน้อยที่สุดและจนถึงขณะนี้มีแค่ลักเซมเบิร์กเท่านั้นที่ได้ประกาศตัวเลขที่ชัดเจนแม้จะเป็นจำนวนที่ไม่มากนัก ส่วนเยอรมนีได้แต่ประกาศว่าจะสนับสนุนเงินจำนวนหนึ่งโดยไม่มีการระบุตัวเลขที่ชัดเจน ในขณะที่อังกฤษยืนยันจะสมทบเงิน110ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ซึ่งตัวเลขนี้ได้สร้างความแปลกใจให้กับหลายประเทศเพราะถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนทหารอังกฤษที่มากเป็นอันดับ3ในกองกำลังพันธมิตรของนาโตในอัฟกานิสถาน จนทำให้มีการวิเคราะห์กันว่า คำมั่นต่างๆเหล่านี้มีขึ้นเพื่อธำรงความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐมากกว่าเพื่ออัฟกานิสถาน นาง ฮีทเทอร์ คอนลีย์ ผู้อำนวยการโครงการวิจัยยุโรปประจำศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ณ วอชิงตัน ได้ให้ข้อสังเกตุว่า การประชุมสุดยอดนาโตครั้งนี้เหมือนเป็นการโอ้อวดและสร้างความรู้สึกที่ดีๆให้แก่ประชามติเกี่ยวกับคำมั่นต่างๆของนาโตหลังปี2014เท่านั้น
อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญในการประชุมครั้งนี้คือบรรดาผู้นำนาโตได้เห็นพ้องต่อการรื้อฟื้นระยะแรกของการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปโดยไม่สนใจการคัดค้านจากรัสเซีย ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐและพันธมิตรได้ประกาศว่าอาจจะมีการส่งเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐไปที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยนและติดตั้งระบบเรดาห์เตือนภัยที่ตุรกีภายใต้การชี้นำของนาโตจากฐานทัพที่ประเทศเยอรมนี โดยระบบป้องกันขีปนาวุธดังกล่าวแบ่งการติดตั้งออกเป็น4ช่วงและจะเสร็จสมบูรณ์ในปี2018 และเพื่อที่จะคลี่คลายท่าทีการคัดค้านจากรัสเซียในการแถลงข่าวเมื่อเร็วๆนี้เลขาธิการนาโตได้เปิดเผยว่า ได้เชิญรัสเซียเข้าร่วมด้วยและคำเชิญยังมีผลต่อไปและนาโตจะทำการสนทนากับรัสเซียต่อไปเพื่อทำความเข้าใจกับรัสเซียว่า ความร่วมมือนี้จะเอื้อประโยชน์ให้แก่ทั้งสองฝ่าย
ถึงแม้การประชุมสุดยอดนาโตได้ประสบผลในบางด้านแต่ก็ถือว่ายังไม่สมกับความคาดหวังโดยประชามติยังมีความสงสัยต่อการปฏิบัติแผนการต่างๆของนาโตในขณะที่องค์การนี้กำลังต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายทั้งในด้านเศรษฐกิจและแนวทางด้านการต่างประเทศของทุกประเทศสมาชิกนาโต./.