 กระชับความสัมพันธ์เวียดนาม-ลาวให้แน่นแฟ้นมากขึ้น |
สถานะทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ทำให้เวียดนามและลาวมีความสัมพันธ์มาช้านาน ซึ่งสัมพันธไมตรีและความสัมพันธ์พิเศษที่ผู้นำทั้ง 2 ประชาชาติได้วางรากฐานไว้ได้ถูกทดสอบผ่านความผันผวนของประวัติศาสตร์ ผู้นำหลายรุ่นและประชาชนลาวและเวียดนามได้ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ ฟันฝ่าอุปสรรค ร่วมทำนุบำรุงและเสริมสร้างความสัมพันธ์นั้นอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นแบบอย่างแห่งความสัมพันธ์ที่ซื่อสัตย์และบริสุทธิ์ที่หายากในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ความผูกพันโดยธรรมชาติ
ตั้งแต่ช่วงแรกๆของกระบวนการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติ ประธานโฮจิมินห์ได้ถือการธำรงและเสริมสร้างความสามัคคีในการต่อสู้ระหว่างเวียดนามกับลาวคือหน้าที่ที่มีความสำคัญพิเศษ ซึ่งทำให้ประชาชนลาวและเวียดนามตระหนักถึงชะตากรรมและความผูกพันของทั้ง 2 ประชาชาติมากขึ้น คนเวียดนามและคนลาวกลายเป็นเพื่อนร่วมรบ ร่วมทุกข์ร่วมสุขและร่วมต่อสู้เพื่อเป้าหมายร่วมกัน โดยในการต่อสู้เพื่อต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและจักรวรรดินิยมอเมริกาเพื่อปลดปล่อยประชาชาติของแต่ละประเทศ การประสานงานและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างสุดจิตสุดใจ ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและพร้อมเสียสละคือปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของการปฏิวัติของแต่ละประเทศ
ความสัมพันเวียดนามและลาวมีธ์ความพิเศษเพราะเป็นการเชื่อมโยงระหว่างทหารอาสาเวียดนามกับทหารลาว ซึ่งการประสานงานและความพร้อมเสียสละเพื่อภารกิจการปลดปล่อยประชาชาติได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์มิตรภาพหนึ่งไม่มีสองในยุคสมัย เลขาธิการใหญ่พรรค ประธานประเทศเหงวียนฟู้จ่องได้ประเมินความสัมพันธ์พิเศษเวียดนาม-ลาวว่า“เวียดนามและลาวคือประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด ประชาชนทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ซื่อสัตย์ โดยเฉพาะหลังการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและพรรคประชาชนปฏิวัติลาว ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้รับการขยายและยกระดับให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ภายใต้โอวาทของประธานโฮจิมินห์คือ “ช่วยเพื่อนก็คือการช่วยเหลือตนเอง” ประชาชาติเวียดนามและลาวได้อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ พยายามทำนุบำรุงและกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ ความสามัคคีพิเศษ ความร่วมมือในทุกด้านให้กลายเป็นสมบัติอันล้ำค่า เป็นพลังขับเคลื่อนและเป็นปัจจัยที่ค้ำประกันความสำเร็จของการปฏิวัติในแต่ละประเทศ”
สนับสนุนกันในกระบวนการพัฒนาในระยะใหม่
จากผลงานต่างๆที่ได้บรรลุ เวียดนามและลาวมีความมั่นใจในการย่างเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงใหม่ ผสมผสานและสร้างสรรค์ประเทศตามแนวทางสังคมนิยม สองพรรคและสองรัฐได้ยืนยันถึงแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายในการธำรงความสามัคคีพิเศษ การสนับสนุนกันในการปกป้องเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน ขยายการประสานงานด้านการต่างประเทศเพื่อยกระดับสถานะของแต่ละประเทศให้สูงเด่นมากขึ้นในภูมิภาคและโลก สร้างเป็นพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่การขยายความสัมพันธ์พิเศษเวียดนาม-ลาวในยุคใหม่ สร้างแรงกระตุ้นที่ยิ่งใหญ่ให้แก่การพัฒนาร่วมกัน
ผู้นำทั้ง 2 ประเทศได้เห็นพ้องและตั้งใจชี้นำหน่วยงานทุกระดับจากส่วนกลางถึงส่วนท้องถิ่นในการประสานงานพัฒนาการศึกษา กระชับความสัมพันธ์พิเศษด้านการเมืองทั้งในระดับสูง การพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน โดยเฉพาะเยาวชน ยกระดับประสิทธิภาพความร่วมมือด้านเศรษฐกิจให้ทัดเทียมกับความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ดีงาม นาย ตะมิงโจว์ อดีตเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศลาวได้เผยว่า“เวียดนามและลาวควรส่งเสริมความสัมพันธ์ให้พัฒนาแน่นแฟ้นมากขึ้นเพื่อนำผลประโยชน์มาสู่ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ทำให้เวียดนามและลาวนับวันพัฒนาอย่างเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ก็ช่วยให้อาเซียนมีความเข้มแข็งและขยายความมีเสถียรภาพในภูมิภาค”
ประชาชนเวียดนามรู้สึกภาคภูมิใจที่มีประชาชนลาวเป็นเพื่อนบ้านที่ซื่อสัตย์และบริสุทธิ์ทั้งในการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติในอดีตและภารกิจการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศในปัจจุบัน การที่ทั้ง 2 ประเทศตั้งใจทำนุบำรุงความสามัคคีพิเศษจะมีส่วนร่วมที่เข้มแข็งต่อภารกิจการสร้างสรรค์และปกป้องระบอบสังคมนิยมในแต่ละประเทศ การรักษาสันติภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาคและโลก.