ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกหรือ WEFเป็นฟอรั่มที่นำเสนอความคิดริเริ่มใหม่เกี่ยวกับการพัฒนาและความคิดสร้างสรรค์เชิงยุทธศาสตร์ในระดับโลก
ความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพระหว่างเวียดนามกับ WEF
จากการตระหนักได้ดีเกี่ยวกับโอกาสจาก WEF ประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆขององค์การนี้อย่างแข็งขัน ส่วนเวียดนามได้ผลักดันการเข้าร่วมและแสวงหาโอกาสจาก WEF โดยเมื่อเดือนมกราคมปี2017 ณ เมืองดาวอส เวียดนามเป็นประเทศแรกที่ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ WEFเกี่ยวกับ “การพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนามที่พึ่งพาตนเองในอนาคต” โดยเน้นถึง6ด้านได้แก่เศรษฐกิจและสังคม การค้าและการลงทุนในเขตชายแดน โครงสร้างพื้นฐาน การผลิต การเกษตร ความมั่นคงด้านอาหาร การศึกษาและความเสมอภาคทางเพศ
ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกกำลังต้องเผชิญกับทั้งความท้าทายและโอกาสต่างๆจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม4.0 เวียดนามได้แสวงหารูปแบบการบริหารที่เหมาะสมในยุคดิจิตอลและแสวงหาพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การขยายตัวเศรษฐกิจ ดังนั้น การที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม WEFครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เวียดนามแก้ไขปัญหาเร่งด่วนภายในประเทศ เช่น การเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล การฝึกอบรม การแก้ไขปัญหางานทำและการลดช่องว่างการพัฒนาเท่านั้นหากยังมีส่วนร่วมกับอาเซียนในการปฏิบัติเป้าหมายการสร้างสรรค์ประชาคมที่เข้มแข็งอีกด้วย
สิ่งที่น่าสนใจของเวียดนามและความเชื่อมั่นของบรรดานักลงทุนต่างชาติ
ผ่านการประชุม60ครั้ง การประชุมภายใต้หัวข้อ “อาเซียน 4.0 จิตใจของผู้ประกอบการและการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่4”ได้เน้นหารือ เสนอข้อคิดริเริ่ม กำหนดแนวทางและนโยบายต่างๆเพื่อส่งเสริมศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์และความคล่องตัวของผู้ประกอบการและประชาชน การเป็นฝ่ายรุกของประเทศเจ้าภาพเวียดนามได้รับการชื่นชมจากตัวแทนWEF นาย Justin Wood ผู้อำนวยการWEFในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกได้ให้ข้อสังเกตว่า “นี่เป็นครั้งที่2ที่WEFจัดการประชุม ณ ประเทศเวียดนาม หลังจากที่เมื่อ8ปีที่แล้วได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมWEFเอเชียตะวันออก ณ นครโฮจิมินห์ เวียดนามได้มีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างน่าประทับใจและสิ่งนี้ได้รับการสะท้อนให้เห็นผ่านขอบเขตของการประชุมครั้งนี้”
สำหรับเหตุผลที่ฟอรั่มเศรษฐกิจโลกเลือกจัดการประชุมที่เวียดนาม นาย Borge Brende ประธานWEFได้ยืนยันว่า เวียดนามกำลังพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการทั่วโลก “เวียดนามเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาและได้รับความสนใจจากWEF ประเทศต่างๆและผู้ประกอบการต่างชาติถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญ การที่เวียดนามสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังวิกฤตการเงิน ซึ่งแม้จะมีความท้าทายไม่น้อยแต่การพัฒนาของเวียดนามนั้นถือว่า น่าชื่นชม โดยเฉพาะ อัตราการขยายตัวจีดีพีที่ร้อยละ7เป็นตัวเลขน่าประทับใจมาก”
การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมWEF ASEAN 2018เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามแนะนำบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจ ส่งเสริมความร่วมมือในด้านการเชื่อมโยง การลงทุนและการประกอบธุรกิจผ่านโครงการต่างๆและการใช้โอกาสจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม4.0 ยิ่งไปกว่านั้น ผ่านกิจกรรมครั้งนี้ เวียดนามสามารถยกระดับสถานะและความเชื่อมโยงระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน สร้างภาพลักษณ์เกี่ยวกับอาเซียนที่สามัคคี มีความคล่องตัวและพึ่งพาตนเองในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่4 ยกระดับสถานะของอาเซียนในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและใช้โอกาสจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่4 นาย ดว่านซวนฮึง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างWEFกับเวียดนามได้เผยว่า “การจัดการประชุมWEF ASEAN 2018เป็นความคิดริเริ่มที่ดี ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงคำมั่นของเวียดนามในภูมิภาคเพื่อผลประโยชน์ของเวียดนามและทั้งภูมิภาค ในปี2020 เวียดนามจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ซึ่งนี่จะเป็นโอกาสเพื่อเตรียมความพร้อมและเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเป็นฝ่ายรุกและกำหนดวิสัยทัศน์ที่ใหญ่ขึ้นของเวียดนาม”
การประชุม WEF ASEAN 2018เป็นกิจกรรมการต่างประเทศที่สำคัญที่สุดของเวียดนามในปี2018 ซึ่งสร้างพลังขับเคลื่อนเพื่อผลักดันการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก มีส่วนร่วมยืนยันบทบาท สถานะและการมีส่วนร่วมของเวียดนามในอาเซียน กระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก การสร้างสรรค์และกำหนดโครงสร้างเศรษฐกิจในภูมิภาคและโลก.