เด็กหมู่บ้านชาวประมงหลงไหลการร้องเพลงทำนอง “บ่ายจ่อย”

An Bang-Thu Hoa/VOV
Chia sẻ
(VOVWORLD) - การที่ศิลปะการร้องเพลงทำนอง “บ่ายจ่อย” ได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมได้สร้างความภาคภูมิใจต่อชาวจังหวัดฟู้เอียน ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของศิลปะชนิดนี้ หากมีโอกาสแวะมาเยือนหมู่บ้านชาวประมงด่งหว่าในจังหวัดฟู้เอียนก็สามารถพบเด็ก ๆ ที่ชื่นชอบการร้องเพลงทำนองบ่ายจ่อยและมีการจับกลุ่มกับร้องเล่นทุกวัน ซึ่งได้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าศิลปะชนิดนี้กำลังได้รับการสานต่อและพัฒนาถึงชนรุ่นใหม่แบบธรรมชาติ 

เด็กหมู่บ้านชาวประมงหลงไหลการร้องเพลงทำนอง “บ่ายจ่อย” - ảnh 1

การร้องเพลงทำนอง “บ่ายจ่อย”

แม้ชีวิตความเป็นอยู่ยังลำบาก บวกกับความผันผวนของสภาพภูมิอากาศแต่ในช่องสองสามปีมานี้ ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออก เด็กๆในหมู่บ้านดงหว่าก็ยังคงชวนกันไปที่บ้านของศิลปินเหงียนดิ่งถวาง หรือบิ่งถาง ในหมู่บ้านฟู้เถาะ 3 ตำบลหว่าเหียบจุงเพื่อเรียนการร้องเพลงทำนอง “บ่ายจ่อย”

เด็กที่มาเรียนมีอายุตั้งแต่ 7-15 ปี บางคนบ้านก็อยู่ไกลบ้านของศิลปินบิ่งถาง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่อุปสรรคขัดขวางความชื่นชอบเรียนร้องเพลงบ่ายจ่อยของพวกเขา เด็กหญิงหวิ่งเกี่ยวมาย อายุ 14 ปีที่เรียนร้องเพลงที่นี่ได้ 3 ปีแล้วเผยว่า   “เนื้อหาของเพลงบ่ายจ่อยมีความหมายที่ลึกซึ้ง เมื่อหนูร้องเพลงก็รู้สึกเหมือนว่า มีความเข้าใจหลายสิ่งหลายอย่าง หนูอยากเรียนการร้องเพลงนี้เพื่อสานต่อเกียรติประวัติอันดีงามของบ้านเกิด”

ในตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านม ศิลปินบิ่งถางได้ทุ่มเทกับการเสริมสร้างและจุดประกายความหลงไหลในการร้องเพลงบ่ายจ่อยให้แก่เด็กๆ โดยถ่ายทอดทุกทำนองเนื้อร้องและเทคนิคในการร้องเพลงบ่ายจ่อยที่เขาสั่งสมในตลอดชีวิตให้เด็กๆ เขาบอกว่า การร้องเพลงบ่ายจ่อยไม่ยากแต่สิ่งที่ยากคือทำอย่างไรเพื่อดึงดูดความสนใจของคนรุ่นใหม่ “เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านเวลา ให้เราต้องเลือกช่วงเวลาสอนเด็กๆ ในตอนบ่ายหรือตอนเช้าหลังจากเด็กๆเลิกเรียนหนังสือ ผมใช้เวลาสอนครั้งละ 1-2 ชั่งโมงเท่านั้น และสอนแบบที่ละนิดละหน่อยให้เด็กซึมซับเองจนเกิดความหลงไหลในการร้องเพลงพื้นเมืองชนิดนี้ ผมยินดีอุทิศเพื่อการพัฒนาของบ่ายจ่อย”

เด็กหลายคนเริ่มเรียนการร้องเพลงบ่ายจ่อยตั้งแต่อายุยังน้อย โดยได้เรียนความรู้ขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับวิธีการร้องบ่ายจ่อยประเภทต่างๆ เช่น ซวนหนือ ส่างเซ และโก๋บ๋าน ซึ่งความทุ่มเทของครูสอนและความตั้งใจเรียนได้ทำให้ความหลงไหลบ่ายจ่อยค่อยๆซึมซับเข้าไปในใจของพวกเขาอย่างลึกซึ้งโดยธรรมชาติ เด็กหญิงฝามเหงียนซวนมายและเด็กชายเหงียนแถ่งดาด ซึ่งเป็นเด็กที่เก่งที่สุดในชั้นเรียนการร้องเพลงบ่ายจ่อยของศิลปินบิ่งถางเผยว่า “ตอนที่หนูยังไม่เรียนการร้องเพลงบ่ายจ่อย หนูมักจะร้องเพลงสมัยใหม่ แต่เมื่อได้เรียนการร้องเพลงบ่ายจ่อย แล้วมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเพลงบ่ายจ่อยก็รู้สึกรักและเห็นว่า นี่คือเพลงพื้นเมืองของจังหวัดฟู้เอียน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของหนูและหนูก็โชคดีที่ได้มีโอกาสเรียนร้องเพลงบ่ายจ่อย”

            “หนูคิดจะเรียนต่อไปเพื่อที่จะเป็นศิลปินเพลงบ่ายจ่อยในอนาคต เพราะชอบมาก เมื่อร้องเพลงบ่ายจ่อยก็รู้สึกจิตใจสบายสบาย”

ท่านผู้ฟังที่เคารพ เด็กๆเหล่านี้อาจจะไม่สามารถนึกออกว่า เพลงที่เรียบง่ายเหล่านี้ได้เกิดจากความพยายาม ความทุ่มเท รวมทั้งหยาดเหงื่อและน้ำตาของคนรุ่นแล้วรุ่นเล่าที่พยายามอนุรักษ์เพลงพื้นเมืองนี้เอาไว้ ดังนั้น ความหลงไหลในการเรียนร้องเพลงบ่ายจ่อยของเด็ก ๆ จะช่วยสร้างแรงบันดารสร้างพลังชีวิตศิลปะนี้คงอยู่ตลอดไป.


Feedback