เลขาธิการใหญ่เหงวียน ฟู้ จ่อง เข้าร่วมการประชุมใหญ่
สมาพันธ์องค์การวรรณกรรมและศิลปะเวียดนามครั้งที่ ๙

ประวัติศาสตร์ประเทศยืนยันถึงส่วนร่วมของวงการนักเขียนและศิลปินในสงครามปกป้องมาตุภูมิ  ใน ๕ ปีที่ผ่านมา แถวขบวนนักเขียนและศิลปินทั่วประเทศได้ส่งเสริมจิตใจแห่งการทุ่มเทและเข้าร่วมสงครามในอดีตในการเดินพร้อมกับชาติและทำงานเพื่อผลประโยชน์ของชาติจึงได้สร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ในทุกด้านไม่ว่าจะในด้านวรรณกรรม การสะสม การศึกษาวิจัย ทฤษฎี การวิเคราะห์ การประชาสัมพันธ์ผลงานให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย การฝึกอบรมผู้มีเชาว์ความสามารถรุ่นใหม่และผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก  นักเขียนและศิลปินได้สร้างผลงานที่กล่าวถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของชาวเวียดนามที่อยากมีชีวิตที่อิ่มหนำผาสุกและสงบสุข  ด้านวรรณกรรมได้มีผลงานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ผลงานเกี่ยวกับปัญหาสังคมที่เกี่ยวข้องถึงคุณธรรมในสังคม การติติงและประณามตลอดจนแจ้งเตือนพฤติกรรมที่เสื่อมถอยทางคุณธรรมและวิถีชีวิต การปกป้องสิ่งที่ถูกต้องและศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์  นักเขียนและศิลปินได้สร้างกระแสการสร้างผลงานเกี่ยวกับการปกป้องอธิปไตยของประเทศเหนือทะเลและเกาะแก่ง  ท่านเหงวียน ฟู้ จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมใหญ่สมาพันธ์องค์การวรรณกรรมและศิลปะเวียดนามครั้งที่ ๙ โดยชื่นชมส่วนร่วมของวงการนักเขียนและศิลปินว่า “ ผลงานและสิ่งพิมพ์วัฒนธรรม วรรณกรรมและศิลปะมีความหลากหลายและเพิ่มขึ้นทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ มีความเคารพสิทธิในการสร้างผลงานของนักเขียนและศิลปินท่ามกลางบรรยากาศแห่งประชาธิปไตยที่เปิดกว้าง  สมาคมวรรณกรรมและศิลปะเป็นศูนย์รวมนักเขียนและศิลปินในการสร้างสรรค์ผลงานอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็จเหนื่อย มีความใกล้ชิดกับชีวิตของประชาชน อันเป็นการมีส่วนร่วมต่อภารกิจการสร้างสรรค์และปกป้องมาตุภูมิ การแต่งผลงาน การศึกษาวิจัยทางทฤษฎีและวิจารณ์วรรณกรรมและศิลปะได้พัฒนาไปในทางที่ดี ”

ท่านเหงวียน ฟู้ จ่องย้ำว่า ยิ่งกว่าเวลาใดทั้งหมด วรรณกรรมและศิลปะควรมีส่วนร่วมมากขึ้นต่องานด้านแนวคิดและวัฒนธรรมของพรรค  สาธารณชนและผู้อ่านกำลังรอคอยผลงานวรรณกรรมและศิลปะที่สะท้อนชีวิต คนและแผ่นดินเวียดนามอย่างถูกต้อง  ซึ่งเป็นผลงานที่ยืนยันถึงคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่ดีงามและมนุษยศาสตร์  การต่อสู้ต่อสิ่งที่เลวร้ายในสังคมอย่างถึงที่สุด  เพื่อสร้างผลงานวรรณกรรมและศิลปะที่มีสาระและศิลปะอย่างมีคุณค่าเพื่อประเทศและประชาชน ท่านเหงวียน ฟู้ จ่องกล่าวว่า  “ นักเขียนและศิลปินต้องติดดินเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่สะท้อนชีวิตอย่างแท้จริง ทำให้เมื่ออ่านเสร็จ ผู้อ่านรู้สึกชีวิตที่กำลังเดินไปเหมือนเลือดที่กำลังไหลเวียนในร่างกาย  ในระยะเวลาใหม่ที่พัฒนาประเทศ  ผลงานวรรณกรรมและศิลปะควรมีส่วนร่วมทำนุบำรุง เชิดชูแนวคิด จิตใจ บุคลิกภาพ คุณธรรมและวิถีชีวิตของคนเวียดนาม ปลูกฝังจิตใจรักชาติและภาคภูมิใจในชาติ จิตใจรักสังคมนิยมและไว้วางใจต่ออุดมการณ์และแนวทางของพรรค  ”

นักเขียนและศิลปินได้มีส่วนร่วมต่อการสร้างสรรค์วัฒนธรรมเวียดนามที่มีอัตลักษณ์ของชาติ  ในระยะปัจจุบัน วงการนักเขียนและศิลปินจะสร้างผลงานให้กำลังใจประชาชนเวียดนามด้วยจิตใจแห่งความภาคภูมิและส่งเสริมเกียรติประวัติเพื่อเป้าหมายพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและผสมผสานเข้ากับกระแสโลก.