(VOVworld)- “ชาวบ้านทุกคนบนแผ่นดิน ĐấtĐỏ ยังคงรำลึกถึงวีรสตรีผู้ที่ได้สละชีพเพื่อวสันต์แห่งอมตะเมื่อดอก เลกิมา หรือม่อนไข่บานสะพรั่งอยู่เสมอ ท่านคือแบบอย่างแห่งความวีระอาจหาญที่ยอมเสียสละชีวิตเพื่อสร้างความหวังแห่งชัยชนะ” ทำนองเพลงนี้ได้ทำให้ทุกคนที่มาจุดธูปรำลึก ณ สุสาน ห่างเยือง ในอำเภอเกาะ กงดอ จังหวัด บ่าเหรียหวุงเต่า มีความซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งและถึงแม้ว่าฤดูดอกเลกิมาได้ผ่านไปแล้วหลายสิบครั้งแต่ภาพลักษณ์ของวีรชนผู้ที่ได้รับการยกย่องเป็นเทพธิดาบนเกาะกงดอซึ่งเคยได้ชื่อว่า นรกบนดิน หวอถิเสา ยังคงสถิตในใจของชาวเวียดนามทุกคน

สุสาน ห่างเยืองเป็นสุสานของชาวเวียดนามผู้หาญกล้ากว่า2หมื่นคนที่ได้สละเลือดเนื้อเพื่อชาติ(Internet)

ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย หนุ่มสาวหรือผู้สูงอายุ เมื่อได้เดินทางมาที่สุสาน ห่างเยือง ต่างก็รู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นหลุมฝังศพของชาวเวียดนามผู้หาญกล้ากว่า2หมื่นคนบนพื้นที่กว่า20เฮกต้าโดยมีทั้งหลุมฝังศพทหารนิรนามที่ได้สละเลือดเนื้อเพื่อชาติในอดีต เช่นทหารพลีชีพ เลห่งฟอง เหงวียนอานนิง  กาววันหงอกและหวอถิเสา  โดยสุสานของหวอถิเสาได้ก่อสร้างด้วยหินแกรนิตและมีการระบุชีวประวัติย่อว่า มีบ้านเกิดที่อ.Đất Đỏ จ.บ่าเหรียหวุงเต่า เกิดปี1933และได้สละชีพเมื่อปี1952ในวัย19ปี นายเหงวียนหงอกมิง เจ้าหน้าที่ดูแลโบราณสถานแห่งประวัติศาสตร์สุสานห่างเยืองเผยว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวมาจุดธูปรำลึกทุกวันโดยวันเสาอาทิตย์จะมากเป็นพิเศษ ทุกคนจะมาจุดธูปที่สุสานของวีรสตรีหวอถิเสา เพื่อขอให้ท่านคุ้มครองให้มีสุขภาพแข็งแรงและทำมาค้าขึ้น พวกเราก็ได้มาที่นี่เพื่อทำความสะอาดและจุดธูปทุกวัน.

อนุเสาวรีย์วีรสตรี หวอถิเสา (Internet)

ทรัพสินส่วนตัวของท่านคือเสื้อผ้าเพียงสองชุด แต่สมบัติที่ถือว่ามีค่าเหนือกว่าทุกอย่างคือความรักชาติรักมาตุภูมิอย่างแรงกล้าและท่านได้สละทั้งชีวิตเพื่อความรักอันศักสิทธิ์นั้น หวอถิเสาได้เข้าร่วมกระบวนการปฏิวัติเมื่ออายุเพียง14ปีและถูกนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสจับกุมแล้วตัดสินโทษประหารชีวิต แต่เนื่องจากหวอถิเสายังเป็นเด็กดังนั้นนักล่าเมืองขึ้นจึงไม่กล้าดำเนินคดีบนแผ่นดินใหญ่เพื่อเลี่ยงความสนใจจากประชามติ หากต้องส่งตัวหวอถิเสาไปทำโทษบนเกาะกงดอ  การเสียสละของหวอถิเสาได้เป็นแบบอย่างแห่งความวีรกล้าหาญที่ประชาชนเวียดนามให้ความศรัทธาและยกย่องเป็นเทพธิดาแห่งกงดอ โดยไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ชาวบ้านกงดอก็จะมาขอพรที่สุสานหวอถิเสา นาย เหงวียนกงหลก ชาวเกาะกงดอที่ปฏิบัติหน้าที่ในเขตโบราณสถานแห่งนี้มากว่า32ปีเผยว่าไม่ว่าจะไปไหนมาไหนทุกคนต่างก็มาที่นี่เพื่อจุดธูปก่อนไป ส่วน นาง หวิ่งถิกิมลวาน ชาวกงดออีกคนเผยว่า เมื่อมากงดอ ทุกคนต่างมาที่สุสานห่างเยืองเพื่อรำลึกถึงทหารพลีชีพโดยเฉพาะวีรสตรี หวอถิเสา พวกเราทุกคนต้องพยายามใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์เพื่อให้สมกับความเสียสละของท่านและของบรรพชนรุ่นต่างๆ.

ชีวิตของวีรสตรีหวอถิเสาได้กลายเป็นตำนานแห่งความทรหดกล้าหาญของยุวชนเวียดนาม ซึ่งถึงแม้รู้ว่าจะต้องเสียชีวิตแต่ท่านก็ไม่รู้สึกหวาดกลัวหากให้เสียงเพลงกลบเสียงปืนของศัตรูจนถึงวินาทีสุดท้าย มีหลายครอบครัวบนเกาะกงดอได้ตั้งหิ้งบูชาหวอถิเสาในบ้านและตำนานอมตะของวีรสตรีหวอถิเสาก็ได้สถิตอยู่ในหัวใจของชาวเวียดนามตลอดไป./.