( VOVworld ) - ๑๗ ปีได้ผ่านพ้นไปแต่ทุกครั้งเมื่อเอ่ยถึงงานนิทรรศการภาพถ่ายภายใต้หัวข้อ “ ภาพเหมือนของแม่ ” ช่างภาพเจิ่นห่งยังคงเก็บความตื้นตันใจไว้ไม่อยู่ ภาพเหมือนของแม่ชื่อที่เรียบง่ายดุจดังน้ำใจของแม่ที่มอบให้แก่ลูก โดยเฉพาะสำหรับคุณเม่วีรชนเวียดนามยังเป็นแรงบันดาลใจให้นายเจิ่นห่งหลงไหลตลอดไป
|
ช่างภาพเจิ่นห่ง (หนังสือพิมพ์เดิ๊ตหมุย ออนไลน์) |
นายเจิ่นห่งเริ่มอาชีพผู้สื่อข่าวตั้งแต่ช่วงสงครามต่อต้านอเมริกากำลังดุเดือด เขาได้เขียนบทความและถ่ายภาพเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆในช่วงเวลานั้น ซึ่งได้ลงในหนังสือพิมพ์กวนโด่ยเญินเญิน หนังสือพิมพ์ภาพข่าวและหนังสือพิมพ์เญินเญิน ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับใหญ่ของเวียดนาม นายห่งกล่าวว่า “ ผมเข้ามาทำงานในหนังสือพิมพ์กวนโด่ยเญินเญินจึงมีโอกาสได้สัมผัสกับความปวดร้าวและความเสียสละของผู้ที่ร่วมสนามรบ เมื่อออกนอกสถานที่ผมได้พบเห็นภาพคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานมากกว่าผู้ที่อยู่ในสมรภูมิ ผมต้องทำงานตามหน้าที่ของตัวเองแต่ยังคงสงวนเวลาส่วนหนึ่งเพื่อถ่ายรูปคุณแม่วีรชนมาจนถึงขณะนี้ ”
ช่างภาพเจิ่นห่งไม่เพียงแต่ถ่ายภาพเพื่อเก็บเสี้ยววินาทีที่โดดเด่นบนใบหน้าของผู้เป็นแม่เท่านั้นหากยังสะท้อนคุณสมบัติของคุณแม่วีรชนเวียดนาม เมื่อได้พบคุณแม่ นายห่งรู้สึกถึงความดูแลอย่างอบอุ่นเพราะเขารู้สึกเหมือนมีแม่ของเขาอยู่ในนั้น สำหรับช่างภาพเจิ่นห่งนั้น คุณแม่ทุกคนในแผ่นดินเวียดนามตัวอักษรณ์เอสนั้นล้วนเป็นวีรชน “ ปี ๑๙๖๘ ผมอาศัยอยู่บ้านเลขที่ ๘ ถนน หลีนามเด๊ ทุกๆเย็นภาพที่ติดตาของผมคือ แม่เฒ่าคนหนึ่งไปรับหลานที่โรงเรียนด้วยความรักใคร่ที่มีต่อกันเป็นพิเศษ ครั้งที่สองเมื่อผมกลับบ้านเกิดคารวะคุณแม่ที่มีอายุ ๙๒ ปี แต่ท่านยังถือเราเป็นเด็ก ท่านอาบน้ำ สระผมและถูหลังให้ผมซึ่งผมเห็นความสุขปรากฎในสายตาของท่าน ความรักของแม่ที่มีต่อผมทำให้ผมนึกถึงเพื่อนร่วมรบเพราะความสุขของแม่ผมแม้จะเรียบง่ายแต่ไม่ใช่ว่าคุณแม่หลายล้านคนในแผ่นดินเวียดนามจะได้รับเนื่องจากลูกชายของเขาได้เสียชีวิตในสนามรบ จากสายตาของคุณแม่และภาพแม่เฒ่าอยู่บ้านเลขที่ ๘ ถนนหลีนามเด๊ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ผม ตั้งแต่นั้นมาผมจึงได้พยายามค้นหาพลังที่ซ่อนเร้นของผู้เป็นแม่ ”
|
คุณแม่แค้ง (หนังสือพิมพ์เดิ๊ตหมุย ออนไลน์)
|
จากความปรารถนาเกี่ยวกับการค้นพบพลังที่แฝงไว้ของสตรีเวียดนามซึ่งโดดเด่นคือคุณแม่ที่มีลูกเสียชีวิตหลายคนเพื่อมาตุภูมิ ปี ๑๙๙๕ ช่างภาพเจิ่นห่งได้จัดงานนิทรรศการภายใต้หัวข้อ “ ภาพเหมือนของแม่ ” ช่างภาพเจิ่นห่งเผยว่าเมื่อชมนิทรรศการของผมแล้ว ผู้สื่อข่าวอเมริกันคนหนึ่งได้กล่าวว่า สาเหตุที่พวกคุณชนะพวกเราในสงครามเวียดนามอยู่ตรงที่ภาพเหมือนคุณแม่ ซึ่งช่างภาพเจิ่นห่งเห็นว่า ข้อสังเกตนี้มีเหตุมีผลเพราะว่าลูกทุกคนไม่ว่าจะทำในอาชีพอะไรหรือในสมรภูมิที่ต้องเสี่ยงกับชีวิตพวกเขามักจะคิดถึงแม่ของตัวเองและอยากทำอะไรสักอย่างหนึ่งที่ดีที่สุดเพื่อเป็นของขวัญมอบให้แก่แม่ สรุปแล้ว แม่เป็นพลังที่นำไปสู่ชัยชนะ
ปัจจุบัน คุณห่งถ่ายภาพเกี่ยวกับแม่ได้ประมาณ ๒,๐๐๐ ภาพ ซึ่งแต่ละภาพเป็นเรื่องราวที่น่าจดจำ ช่างภาพเจิ่นห่งเล่าเรื่องการถ่ายภาพคุณแม่เหงวียนถิ่แค้ง อำเภอห่อนเดิ๊ต จังหวัดเกียนยางว่า “ ผมถ่ายภาพคุณแม่แค้งที่ลูกชายทั้ง ๗ คนได้สละชีพในสนามรบ เมื่อผมกลับมาเยี่ยมคุณแม่กองทัพน้อยที่ ๔ ได้สร้างบ้านที่โอ่โถงสวยงามให้แล้ว ผมมาบ้านท่านครั้งแรกเห็นภาพท่านนั่งอยู่คนเดียวข้างๆคือหม้อข้าวพร้อมกับข้าวได้แก่ปลาทอดกับผัก และลูกแมวตัวหนึ่ง ครั้งนั้นผมสวมใส่ชุดทหาร แล้วคุณแม่วิ่งออกมากอดเพราะนึกว่าลูกชายของท่านกลับบ้าน ผมและแม่แค้งได้กอดกันและร้องไห้ ผมจึงไม่สามารถถ่ายภาพของท่านได้ และผมต้องกลับมาบ้านท่านอีก ๓ ครั้งจึงจะถ่ายได้ นับเป็นภาพที่ผมชอบที่สุด ”
|
คอยลูกกลับมา ( คุณแม่ทื้อมีลูกทั้ง ๙ คนสละชีพเพื่อชาติ
- ภาพหนังสือพิมพ์เดิ๊ตหมุย ออนไลน์ ) |
อีกภาพหนึ่งเกี่ยวกับคุณแม่ทื้อ ซึ่งชีวิตของท่านได้กลายเป็นตำนาน เป็นอนุสาวรีย์แห่งความรักชาติและความเสียสละ คุณแม่ทื้อเป็นคุณแม่วีรชนเวียดนามของจังหวัดกว่างนามที่มีลูกเสียชีวิตในสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและสงครามต่อต้านอเมริกาผู้รุกราน โดยสามี ลูกทั้ง ๙ คน ลูกเขย ๑ คนและหลาน ๒ คนของท่านได้จากท่านไปอย่างไม่มีวันกลับเพื่อเอกราชของประเทศ ผลงาน คอยลูกกลับมาของช่างภาพเจิ่นห่งได้ทำให้ผู้ชมหลายคนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ นายเจิ่นห่งคุยกับพวกเราว่า เมื่อเขาถ่ายภาพคุณแม่ทื้อนั้น ใบหน้าที่อดทนของท่านยังสะท้อนความหวังว่าสักวันจะมีลูกคนใดคนหนึ่งในจำนวน ๙ คนจะกลับมา และท่านได้เสียชีวิตไปเมื่อมีอายุ ๑๐๗ ปีโดยไม่ได้พบลูกแม้แต่คนเดียว
ภาพเกี่ยวกับแม่ของช่างภาพเจิ่นห่งได้จัดพิมพ์เป็นภาพหนังสือภายใต้ชื่อ “ ภาพเหมือนของแม่ ” โดยสำนักพิมพ์กวนโด่ยเญินเญินเมื่อปี ๑๙๙๗ และได้รับการคัดเลือกเป็นผลงานยอดเยี่ยมประจำปี ๑๙๙๘ จากสมาคมช่างภาพเวียดนาม แต่ความสุขที่สุดสำหรับช่างภาพเจิ่นห่งคือ ทุกครั้งกลับไปถ่ายภาพคุณแม่ เขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นเหมือนลูกชายจากคุณแม่ทุกท่าน ./.