( VOVworld )- ผมบอกไม่ถูกและขอชื่นชมจิตรกรดั่งเหวียดอ๋ายที่ได้สร้างผลงานภาพวาดเหมือนดินสอคุณแม่วีรชนเวียดนามอันยิ่งใหญ่นี้ นี่คือข้อความที่ท่านเหงวียนเติ้นหยุงนายกฯได้เขียนไว้ในสมุดเยี่ยมในโอกาสเข้าร่วมงานนิทรรศการ “ ปลายภู่กันแห่งความสำนึกในบุญคุณ ” เมื่อก่อนหน้านี้ ๑ ปีในโอกาสรำลึกครบรอบ ๖๕ ปีวันทหารทุพพลภาพและพลีชีพเพื่อชาติ ๒๗ กรกฎาคม ผู้ที่ได้รับคำชื่นชมดังกล่าวคือ จิตรกรดั่งอ๋ายเหวียดและเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หนังสือสถิติแห่งเอเชียได้ระบุว่า เธอเป็นผู้ที่วาดภาพคุณแม่วีรชนเวียดนามมากที่สุด
|
จิตรกรดั่งอ๋ายเหวียดกับคุณแม่วีรชนถ่างและภาพวาดท่าน ( หนังสือพิมพ์ออนไลน์ด่งนาย )
|
เดือนกุมภาพันธ์ค.ศ. ๒๐๑๐ จิตรกรดั่งอ๋ายเหวียดเริ่มวาดภาพเหมือนคุณแม่วีรชนเวียดนาม โดยเธอเริ่มเดินทางขึ้นภาคเหนือด้วยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Chaly ตลอดระยะเวลา ๓ ปีของการเดินทางและวาดภาพ จิตรกรดั่งเวียดอ๋ายต้องแข่งกับเวลาเพื่อบันทึกภาพเหมือนของคุณแม่หลายๆชีวิตที่มีบุตรชายเสียชีวิตเพื่อมาตุภูมิจากปลายภู่กัน เธอพบปะและวาดภาพคุณแม่วีรชนเวียดนามได้ ๑,๐๒๒ ภาพ จิตรกรดั่งเวียดอ๋ายเปิดเผยว่า เธอมีแผนที่จะวาดภาพคุณแม่วีรชนเวียดนามมานานแล้ว แต่จนถึงปีค.ศ. ๒๐๑๐ จึงมีโอกาสลงมือทำจริง เธอเคยเป็นเจ้าหน้าที่สหพันธ์สตรีปลดปล่อยในช่วงประเทศทำสงครามต่อต้านสหรัฐ ดังนั้นเธอจึงรักและทะนุถนอมภาพสตรีในสงคราม จิตรกรดั่งเหวียดอ๋ายคุยกับพวกเราว่า “ ดิฉันให้ความเคารพคุณแม่วีรชนและรักทุกท่านเสมอกัน พวกท่านยังอยู่ในใจดิฉันตลอดไป แต่มีคุณแม่บางท่านที่เมื่อวาดภาพท่านแล้วดิฉันยังรู้สึกถึงความโศกเศร้าของท่านนั่นคือ คุณแม่ที่มีลูกคนเดียวที่เสียชีวิตในสงคราม ปัจจุบันนี้ ดิฉันยังจำคุณแม่แต่ละท่านได้ ”
จิตรกรดั่งอ๋ายเหวียดเปิดเผยความในใจว่า เธอวาดภาพคุณแม่วีรชนเวียดนามเพื่อใช้หนี้บุญคุณต่อพวกท่าน ภาพวาดแต่ละภาพเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสละชีพและยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อชีวิตที่สันติสุขในทุกวันนี้ จิตรกรดั่งอ๋ายเหวียดเปิดเผยว่า “ การวาดภาพคุณแม่วีรชนเวียดนามยากมาก ซึ่งยากที่สุดคือดวงตา เราต้องทำอย่างไรเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของท่านผ่านสายตาเพราะสายตาของท่านสะท้อนอารมณ์ที่แตกต่างกัน แม้แววตาของท่านสะท้อนความอิ่มเอิบที่ได้อยู่ในบรรยากาศแห่งสันติและความอิ่มเอม แต่ยังมีห้องหนึ่งของหัวใจที่เก็บความโศกเศร้าไว้ ความอาลัยคิดถึงบุตรชายที่ได้เสียชีวิต เมื่อดิฉันวาดภาพท่าน ดิฉันรู้สึกว่า กำลังอยู่ในความทรงจำของท่านในช่วงเวลาอดีต ดิฉันได้พูดคุยกับท่านและรับฟังเรื่องราวที่ท่านเล่าจึงได้ซึมซับและสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของท่านออกมากจากปลายภู่กัน ”
ภาพวาดคุณแม่วีรชนเหงวียนถิ่เกิ๋ต ( สำนักข่าวเวียดนาม)
จิตรกรดั่งอ๋ายเหวียดได้เดินทางไปทุกแห่งหนของประเทศจากเหนือจรดใต้ จากที่ราบขึ้นเขตเขาพร้อมกับเพื่อนร่วมเดินทางของเธอคือรถจักรยานยนต์เก่าแสนรัก สำหรับคุณแม่ผู้เป็นแบบนั้น จิตรกรดั่งอ๋าย
เหวียดเป็นคนที่เอาการเอางาน มีมนุษย์สัมพันธ์ดีและน่ารัก แม่กาวถิ่ดึ๊ก อาศัยอยู่ที่อำเภอฟุกเถาะ กรุงฮานอยเล่าว่า “ แม่นั่งบนเตียงเป็นตัวแบบให้เขาวาดภาพ เขาวาดภาพแม่ตั้งแต่ ๙ โมงเช้าถึงเที่ยงตรงถึงจะเสร็จ พอถึงมื้อกลางวันและก็เที่ยงแล้ว แม่เชิญเธอร่วมรับประทานอาหาร และเธอก็ยินดีทานข้าวกับพวกเรา ”
ผลงานเกี่ยวกับคุณแม่วีรชนเวียดนาม ๑,๐๒๒ ผลงาน จิตรกรดั่งอ๋าย
เหวียดได้มอบให้แก่พิพิธภัณฑ์สตรีเวียดนามและพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์นครโฮจิมินห์ ผลงานเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นผลงานวิจิตรศิลป์เท่านั้น หากยังถือเป็นของที่ระลึกเกี่ยวกับระยะหนึ่งที่แสนยากลำบากของประเทศแต่รุ่งโรจน์ จิตรกรเจิ่นแค้งเจืองให้ความเห็นว่า “ ดั่งอ๋าย
เหวียดสามารถค้นพบทางเดินเฉพาะของตนเองเพื่อสร้างผลงานที่น่าประทับใจให้แก่ประเทศ ที่น่าชื่นชมและน่าเคารพนับถือคือ เธอได้ขี่มอร์เตอร์ไซค์ส่วนตัวไปยังจังหวัดทั้ง ๖๓ แห่งของประเทศ และสิ่งที่สร้างความประทับใจอีกคือ เธอสามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของคุณแม่วีรชนเวียดนามแต่ละท่านได้อย่างดีเยี่ยมเนื่องจากคุณแม่บางท่านอายุสูงมากแล้วสังขารไม่อำนวย สามารถนั่งได้ไม่นาน นั่งบ้างนอนบ้าง แต่คุณอ๋ายได้พยายามอย่างสุดความสามารถ ทั้งนี้ส่งผลให้เธอสามารถสร้างผลงานที่ได้รับการยอมรับ ”
ภาพวาด ๑,๐๒๒ ภาพของจิตรกรดั่งอ๋ายเหวียดได้ระบุในหนังสือกิเนสบุคเวียดนาม ๒ ครั้งและเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา องค์การสถิติเอเชียได้ระบุว่า เธอเป็นผู้วาดภาพคุณแม่วีรชนเวียดนามมากที่สุด เมื่อได้ข่าวนี้ จิตรกรดั่งเหวียดอ๋ายถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ซึ่งเป็นหยดน้ำตาแห่งความสุขระคนความอาลัยคิดถึงบรรดาคุณแม่ที่ได้จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ
|
จิตรกรดั่งอ๋ายเหวียดกับรถจักรยานยนต์ Chaly เพือนร่วมเดินทาง
( สำนักข่าวเวียดนาม)
|
สำหรับจิตรกรตัวเล็กๆผู้วาดภาพคุณแม่วีรชนเวียดนามวัยกว่า ๖๐ ปีนั้น ผลงาน ๑.๐๒๒ ผลงานเป็นทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าและเป็นการแสดงความเคารพของท่านที่มีต่อความเสียสละของบรรดาคุณแม่วีรชนเวียดนาม ซึ่งเธอต้องทุ่มเทแรงกายและแรงใจตลอดจนต้องแข่งกับเวลาเพื่อบันทึกภาพของพวกท่านในตลอด ๓ ปีที่ผ่านมา ./.