( VOVworld )-งานจิตรกรรมพื้นเมืองของเวียดนามมีหลายแขนงงาน แต่ศิลปะงานพิมพ์ไม้ดงโห่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่ประชาชนทั่วประเทศโดยเฉพาะในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำห่งหรือแม่น้ำแดงภาคเหนือของประเทศเพราะสะท้อนชีวิตประจำวันของชาวบ้านไม่ว่าจะเป็นการทำนาและผลิตเกษตรที่เรียบง่ายและซื่อสัตย์ เป็นภาพเขียนเพื่อประดับบ้านเป็นคติเตือนใจและบทเรียนต่างๆในชีวิต
|
งานแต่งงานของหนู |
งานพิมพ์ไม้ศิลปะแขนงนี้ของหมู่บ้านดงโห่ ตำบลซองโห่ อำเภอถ่วนแถ่ง จังหวัดบั๊กนิงห์มีมาเนิ่นนานกว่า ๔๐๐ ปี งานในช่วงแรกจำกัดอยู่เฉพาะงานพิมพ์ไม้แบบขาวดำเท่านั้น ต่อมาได้มีการเพิ่มสีสันขึ้นและได้รับการอนุรักษ์และสืบต่อกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่าจนแทบกล่าวได้ว่าศิลปะแขนงนี้เป็นประเพณีของหมู่บ้านนี้เสียแล้วเพราะทั้งหมู่บ้านจะทำแม่พิมพ์ไม้เพียงอย่างเดียว หลายครอบครัวในหมู่บ้านดงโห่ทำการผลิตงานพิมพ์สีตามเรื่องราวพื้นบ้าน คุณค่าที่พิเศษของศิลปะงานพิมพ์ไม้ที่ดงโห่อยู่ตรงที่แม่พิมพ์ไม้ สีที่เป็นธรรมชาติและเรื่องราวพื้นบ้าน ท่านดั่งเงวียนเจ๊ ช่างฝีมืออาวุโสคนหนึ่งในจำนวนช่างฝีมือรุ่นเดอะน้อยคนของหมู่บ้านคุยกับพวกเราว่า ท่านรักงานจิตรกรรมนี้มากเป็นชีวิตจิตใจแม้ชีวิตสมัยใหม่จะเข้ามาแทนที่ก็ตาม ทั้งนี้ก็เพราะว่า นี่เป็นศิลปะแขนงพิเศษที่มีแต่ในบั๊กนิงห์เท่านั้น ท่านเจ๊กล่าว “ งานพิมพ์ไม้ดงโห่มักจะสะท้อนชีวิตประจำวัน ชีวิตทางจิตวิญญาณ ความเลื่อมใสศรัทธาและเรื่องราวในสังคมไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี บุคคลในประวัติศาสตร์และนิทานอุปมาอุปไมยที่ได้รับความนิยม ยกตัวอย่างเช่น งานพิมพ์ไม้ รอรับลูกมะพร้าวหล่น และความหวงหึง ที่แฝงปัญหาต่างๆในสังคมที่มีทั้งความดีและความชั่ว อีกทั้งถูกทำขึ้นตามอารมณ์ความรู้สึกของช่างฝีมืออาวุโสดังนั้นจึงไม่ได้ระบุชื่อผู้ทำและถูกเรียกรวมกันว่า งานจิตรกรรมพื้นเมือง ทั้งนี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้งานพิมพ์ไม้ดงโห่มีหลากหลายหัวข้อ ”
แม่ไก่ที่แวดล้อมด้วย
ลูกไก่ตัวน้อย
จิตรกรเหงวียนดังหยุงได้กล่าวว่า งานพิมพ์ไม้ดงโห่แต่ละชิ้นเป็นการสะท้อนเรื่องราวทางสังคมสมัยนั้นที่มีความหมายอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความถูกผิดและยังมีคุณค่าจนถึงปัจจุบัน นายหยุงกล่าว “ ชาวต่างชาติเมื่อมาที่แกลเลอรี่งานจิตรกรรมดงโห่มักจะสนใจชมผลงานที่มีเรื่องราววิพากษ์วิจารณ์สังคมที่ถ่ายทอดผ่านภาพล้อเลียนขุนนางเช่นภาพงานแต่งงานของหนู ที่วิจารณ์สังคมสมัยศักดินา ซึ่งหนูนั้นถือเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นที่ต่ำต้อย ส่วนแมวนั้นเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นสูงหรือขุนนาง ซึ่งถ้าหนูอยากแต่งงานก็ต้องมอบทรัพย์สินที่มีค่าแด่ลูกแมว ซึ่งในภาพนี้เจ้าบ่าวหนูได้มอบปลาตัวใหญ่ให้แก่แมวเพื่อขอทางไปยังบ้านเจ้าสาว นอกจากนี้ยังมีภาพเขียนที่ใกล้ชิดกับเราทุกคนเช่น ภาพเขียนแม่ไก่ที่แวดล้อมด้วยลูกไก่ตัวน้อยเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองและครอบครัวขยายที่ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ”
งานจิตรกรรมพื้นเมืองดงโห่มีความหมายมากมายแล้วแต่มุมมองและอารมณ์ความรู้สึกกับประสบการณ์ในชีวิตของแต่ละคนเช่น ภาพLon หรือหมูอ้วนสวมพวงมาลัยพร้อมลูกหมูที่กำลังกินนมคอกหนึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและเจริญรุ่งเรือง แต่ในมุมมองของชาวนานั้นนี่คือประสบการณ์อันล้ำค่าเกี่ยวกับวิธีการเลือกพันธุ์และดูแลหมู นายลิวซุยเหยิ่นอุปนายกสมาคมศิลปาชีพเวียดนามเผยว่า “ งานพิมพ์ไม้ดงโห่ยังสะท้อนการละเล่นพื้นเมืองของเวียดนามที่พิเศษๆเช่น ผลงาน จอหงวนกลับไหว้บรรพบุรุษ งานแต่งานของหนู รอรับลูกมะพร้าวหล่น ซึ่งล้วนกล่าวถึงวัฒนธรรมและเกียรติประวัติของชาติคือ การส่งเสริมการศึกษาเล่าเรียนและคติเตือนใจ ”
|
Lon Ray หรือแม่หมูพันธุ์ดีมีลูกดก |
ขั้นตอนของงานพิมพ์ไม้ดงโห่สะท้อนความคิดและอัจฉริยะภาพของคนสมัยโบราณ โดยกว่าจะได้ผลงานชิ้นหนึ่งต้องทำแม่พิมพ์ไม้ ๕ ครั้งและแม่พิมพ์สี ๕ แผ่น งานจิตรกรรมดงโห่ใกล้ชิดกับชีวิตของคนจึงได้ซึมซับเข้าชีวิตชาวเวียดนามมารุ่นแล้วรุ่นเล่า คุณเหงวียนถี่ฮวา ที่ชื่นชอบภาพเขียนดงโห่คุยกับพวกเราว่า “ ดิฉันชอบงานจิตรกรรมดงโห่มากเพราะมันใกล้ชิดกับชาวเวียดนามทุกคน ซึ่งไม่เพียงแต่มีสีสันงดงามเพราะการใช้สีและวัสดุคือกระดาษสาเท่านั้น หากยังเป็นวัฒนธรรมพื้นเมืองแขนงหนึ่งของเวียดนามที่เป็นมรดกของชาติและเป็นศิลปะพื้นเมืองเวียดนามด้วย ”
|
แม่พิมพ์ไม้ |
จากคุณค่าที่พิเศษของงานจิตรกรรมพื้นเมืองดงโห่ทั้งด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและศิลปะวรรณกรรมเกี่ยวกับความเลื่อมใสศรัทธา ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำห่งหรือแม่น้ำแดง การมองโลกในแง่ดี การเย้ยหยันพวกกังฉินและผู้มีอำนาจ งานพิมพ์ไม้ดงโห่จึงได้รับการรับรองเป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมระดับชาติเมื่อไม่นานมานี้ ./.