(VOVWorld)-ผืนดินนินห์ บิ่งทางภาคเหนือของประเทศเวียดนามมีทัศนียภาพที่สวยสดงดงามหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นทัศนียภาพทางธรรมชาติจ่างอาน-ตามก๊ก-บิ๊กด่งห์ โบสถ์ฟ้าตเหยี่ยมและอุทยานแห่งชาติกุ๊กเฟือง นินห์บิ่นห์ยังเป็นราชธานีแห่งแรกของเวียดนามก่อนหน้านี้กว่า ๑,๐๐๐ปีก่อนที่กษัตริย์หลี ท้าย โต๋ ย้ายราชธานีมาตั้งอยู่ที่กรุงทังลองหรือกรุงฮานอยในปัจจุบัน ซึ่งดึงดูดความสนใจเป็นจำนวนมากจากบรรดานักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ.

ธรรมชาติได้บันดาลเขตนิเวศวิทยาจ่างอานที่สวยงามให้แก่จังหวัดนินห์บิ่นห์  เขตนิเวศวิทยาจ่างอานตั้งอยู่ในเขตมรดกโลกจ่างอานและเปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยากลางแจ้ง  แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวหลายหมื่นคนได้มาเที่ยวชมที่นี่เพราะมีระบบถ้ำที่หลากหลายและโดดเด่น

โบราณสถานกรุงเก่าฮวาลือเป็นหนึ่งในโบราณสถานทางประวัติศาสตร์๑๐แห่งที่มีชื่อเสียงของเวียดนามและติดท็อป๑๐๐อาคารที่มีอายุ๑๐๐ปีในเวียดนาม

ที่ผืนดินนินห์บิ่นห์ยังมีเขตท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณภูเขาวัดบ๊ายดิ๊งห์ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงของเวียดนามและเป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย ซึ่งประกอบด้วยวัดบ๊ายดิ๊งห์เก่าและเขตวัดบ๊ายดิ๊งห์ใหม่ที่ถือว่าใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  วัดถูกก่อสร้างในพื้นที่แห่งประวัติศาสตร์ซึ่งก่อนหน้านี้ วีระบุรุษดิงห์โบ่หลินกับทหารบ้านได้จัดพิธีบวงสรวงก่อนออกศึกและงานเลี้ยงเหล่าทหารเมื่อสามารถปราบข้าศึกออกจากประเทศได้อย่างสิ้นเชิง

ป่าดงกุ๊กเฟือหรือชื่อที่คนทั่วไปคุ้นหูคืออุธยานแห่งชาติกุ๊กเฟืองเป็นอุธยานแห่งแรกของเวียดนามที่ได้รับการอนุรักษ์ธรรมชาติ  อุธยานกุ๊กเฟืองครอบคลุมพื้นที่ ๓ จังหวัดได้แก่ นินห์บิ่นห์ หว่าบินห์และแทงฮว้า มีระบบพืชและสัตว์ของเขตป่าร้อนชื้นอย่างหลากหลาย มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม ระบบนิเวศอันหลากหลาย วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีมาช้านานและมีคุณค่า ทั้งนี้ป่าดงกุ๊กเฟืองจึงเป็นที่รู้จักแพร่หลายของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ

เขตท่องเที่ยวตามก๊ก-บิ๊กด่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสองแห่งคือ ตามก๊กและบิ๊กด่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านวันเลิม ตำบลนินห์ห่าย อำเภอฮวาลือ จังหวัดนินห์บิ่นห์และเป็นเขตท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของเวียดนาม  ตามก๊กยังมีชื่ออีกว่า อ่าวฮาลองบกเพราะมีระบบถ้ำและภูหินปูนเหนือผิวน้ำและยังมีโบราณสถานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับราชวงศ์เจิ่นราวศตวรรษที่ ๑๓-๑๔

โบสถ์คริสต์ฟ้าดเยี่ยม เป็นโบสถ์ที่สร้างจากหินทั้งหลัง เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปี 1875 เสร็จสมบูรณ์ในปี 1898  ตัวโบสถ์ตั้งอยู่ที่เทศบาลตำบลฟ้าดเยี่ยม  อำเภอกิมเซิน จังหวัดนิงบิ่งห์ โบสถ์แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เด่นแตกต่างไปจากโบสถ์คริสต์ทั่วไปที่มักจะสร้างเป็นศิลปะตะวันตกแบบโกธิค. มองจากภายนอกคนส่วนใหญ่จะนึกว่า เป็นวัดพุทธหรือไม่ก็ศาลเจ้ามากกว่า..เพราะโบสถ์แห่งนี้มีสถาปัตยกรรม ตามแบบศิลปกรรมพื้นบ้านเวียตนาม

เขตสงวนชีวมณฑลแม่น้ำแดงเป็นหนึ่งใน๕ เขตสงวนชีวมณฑลที่มีชื่อเสียงในโลก  โดยได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกเมื่อวันที่๑๓ตุลาคมปี๒๐๐๘  นี่เป็นเขตสงวนชีวมณฑลแห่งแรกในเวียดนามและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้