เขตอนุสรณ์สถานนายกฯฝามวันด่งผู้ล่วงลับ(photo internet) |
จุดแรกที่นักท่องเที่ยวมักจะมาเยือนคือเขตอนุสรณ์สถานนายกฯฝามวันด่งผู้ล่วงลับ ที่ต.เตินดึ๊ก อ.โหมะดึ๊ก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่าน สถานที่แห่งนี้ยังคงเก็บรักษาบ้านหลังเก่าที่ท่านใช้ชีวิตในวัยเด็ก อาคารจัดแสดงสิ่งของวัตถุต่างๆที่ช่วยให้ผู้ชมมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับชีวิตและการเคลื่อนไหวปฏิวัติของนายกฯฝามวันด่ง ผู้ที่ดำรงตำแหน่งนายกฯเวียดนามยาวนานที่สุดคือตั้งแต่ปี1955-1987 ท่านเป็นผู้นำที่มากด้วยความสามารถและประสบการณ์ มีวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ในการนำพาประเทศผ่านช่วงเวลาที่ลำบากต่างๆ แต่ก็มีบุคลิกภาพที่เรียบง่ายและมีความใกล้ชิดกับประชาชน เด็กหญิง หวิ่งถิกอมจาง นักเรียนโรงเรียนประถม ฝามวันด่ง จ.กว๋างหงาย กล่าวว่า“หนูภูมิใจที่ได้เรียนในโรงเรียนใช้ชื่อของท่านนายกฯฝามวันด่งผู้ล่วงลับ จากการเรียนประวัติศาสตร์และได้มีโอกาสมาเยือนสถานที่แห่งนี้ หนูมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเกียรติประวัติแห่งการปฏิวัติและสำนึกได้ว่าตัวเองจะต้องพยายามศึกษาเล่าเรียนเพื่อเป็นพลเมืองที่ดี สร้างประโยชน์ให้แก่บ้านเกิดให้สมกับการเป็นนักเรียนของโรงเรียนประถมศึกษาฝามวันด่ง”
สถานีอนามัยดั๋งถวิ่เจิม อยู่ที่อ.ดึ๊กโฝ (photo internet) |
ในพื้นที่ทางทิศใต้ของจังหวัดกว๋างหงายมีโบราณสถานแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศรู้จักชื่อดีนั่นคือ สถานีอนามัยดั๋งถวิ่เจิม อยู่ที่อ.ดึ๊กโฝ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาร่องรอยแห่งความวีรกล้าหาญของแพทย์หญิง ดั๋งถวิ่เจิม โดย ณ สถานที่แห่งนี้ช่วงปี1942-1970 แพทย์หญิงดั๋งถวิ่เจิมได้ทำงานและสละชีพเพื่อชาติตอนอายุเพียง28ปี ซึ่งเนื้อหาต่างๆที่เขียนในบันทึกประจำวันของเธอได้สร้างความซาบซึ้งตรึงใจให้แก่ผู้อ่านทั้งที่เป็นทหารของฝ่ายตรงข้ามเพราะได้สะท้อนความปรารถนาอันแรงกล้าของชาวเวียดนามรุ่นใหม่ในช่วงสงครามกู้ชาติที่อยากอุทิศตนและพร้อมที่จะเสียสละชีวิตเพื่อภารกิจการต่อสู้ช่วงชิงเอกราชและรวมประเทศเป็นเอกภาพ ซึ่งบันทึกเล่มนี้ได้ถูกเก็บรักษาโดยทหารผ่านศึกอเมริกันมาตลอด35ปีกว่าที่จะได้มอบคืนให้แก่ครอบครัวของแพทย์หญิง ดั๋งถวิ่เจิม สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตามแบบบ้านโรงของเตยเงวียน ในบริเวณนั้นมีรูปปั้นของวีรชนแพทย์หญิงดั๋งถวิ่เจิมในท่าที่กำลังมุ่งเดินไปข้างหน้าเหมือนทุกครั้งที่เธอได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่รักษาให้แก่ทหารเจ็บป่วยโดยไม่สนใจต่อความอันตรายจากห่ากระสุนระเบิดช่วงสงคราม อาคารจัดแสดงข้อมูลและภาพถ่ายต่างๆเกี่ยวกับชีวิตการเคลื่อนไหวของเธอ ข้างๆนั้นคืออาคารสถานีอนามัยประจำท้องถิ่นที่ใช้ตรวจรักษาโรคให้แก่ประชาชน นาย หวอแทง ชาวบ้าน อ.ดึ๊กโฝ กล่าวว่า“ผมมีความภาคภูมิใจมากที่ได้เกิดในแผ่นดินนี้ ซึ่งมีสถานที่ทำงานของวีรชนดั๋งถวิ่เจิม ซึ่งเป็นแพทย์จากฮานอยที่มาปฏิบัติหน้าที่ในท้องถิ่นในช่วงสงคราม ซึ่งเดี๋ยวนี้เรามีสถานีอนามัยที่ทันสมัยและแพทย์ที่นี่ก็ได้สานต่อเกียรติประวัติของแพทย์ดั๋งถวิ่เจิมให้การดูแลเอาใจใส่ผู้ป่วยอย่างดี”
เขตสังหารหมู่เซินหมี (photo internet) |
ที่จังหวัดกว๋างหงายยังมีแหล่งประวัติศาสตร์มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกคือ เขตสังหารหมู่เซินหมี โดยเมื่อวันที่16มีนาคมปี1968 ณ เขตชุมชนหมีลาย หมู่บ้านเซินหมี อ.เซินติ๋ง จ.กว๋างหงาย ทหารอเมริกันได้บุกโจมตีและฆ่าหมู่ชาวบ้านกว่า500คนซึ่งส่วนใหญ่คือสตรีและเด็ก ซึ่งนับเป็นพยานแห่งประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความโหดร้ายของกองทัพสหรัฐในสงครามรุกรานเวียดนามและเป็นสถานที่รำลึกถึงประชาชนผู้เคราะห์ร้าย ดังนั้นเขตประวัติศาสตร์เซินหมีจึงกลายเป็นจุดหมายของคณะนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่ช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับสงครามที่ดุเดือดและการต่อสู้ที่กล้าหาญของชาวกว๋างหงาย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ให้การศึกษาเกียรติประวัติแห่งการปฏิวัติประชาชาติต่อชาวเวียดนามรุ่นใหม่อีกด้วย.