หอเก็บน้ำ Hang Dau อายุเกือบ 130 ปี

หอเก็บน้ำ ห่างเดิว ตั้งอยู่กลางแยกถนน ห่างทาน ห่างเหลือก ห่างไหย่ ห่างเดิว กว๊านแท้งและฟานดิ่งห์ฝุ่ง เขตบาดิ่งห์ กรุงฮานอย ซึ่งตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนปี2023 สถานที่แห่งนี้ได้เปิดให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมเป็นครั้งแรก นี่คือหนึ่งในผลงานด้านสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ในกรุงฮานอย สร้างขึ้นเมื่อปี 1894 ก่อนหน้าสะพานลองเบียนที่สร้างในปี1898 หอเก็บน้ำ ห่างเดิว สร้างเป็นทรงกระบอกด้วยผนังหิน 8 ด้าน มี 3 ชั้น โดยชั้นบนสุดเป็นถังเก็บน้ำเหล็กขนาดยักษ์ ขนาด1,250 ลูกบาศก์เมตร

 หอเก็บน้ำ ห่างเดิว มีหลายชื่อเรียกเช่น สถานีต้นทาง (จุดต้นน้ำของเครือข่ายน้ำประปา) ถังเก็บน้ำห่างเดิว หอเก็บน้ำทรงกลม โรงงานน้ำทรงกลม หอเก็บน้ำ กว๊านแท้ง เป็นต้น แต่ชื่อที่ผู้คนเรียกกันมากที่สุดคือ โบดห่างเดิว ในช่วงทศวรรษ 1960 เมื่อโรงผลิตน้ำเอียนฝุได้รับการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้ทันสมัยหอเก็บน้ำแห่งนี้ก็ปิดหยุดทำงาน ตั้งแต่นั้นมา สถานที่แห่งนี้ก็ตั้งเงียบสงบอยู่กลางชุมชนพลุกพล่าน เปรียบเป็นประจักษ์พยานของกระบวนการพัฒนาเมืองหลวงฮานอย

กลุ่มผู้สร้างสรรค์ผลงานได้ใช้ศิลปะจัดวางเพื่อเปลี่ยนหอเก็บน้ำ ห่างเดิว ให้มี "บรรยากาศที่มีมนต์ขลัง" ด้วยเสียงน้ำไหล แสงไฟและศิลปะการจัดวาง"น้ำและหอเก็บน้ำมรดก" บนพื้นที่ครึ่งหนึ่งภายในหอเก็บน้ำ โดยออกแบบให้สะท้อนสัญลักษณ์ของ6แหล่งน้ำธรรมชาติคือ ทะเล ลำธาร แม่น้ำ ร่องน้ำ น้ำใต้ดินและน้ำฝน ที่อิงตามความเลื่อมใสทางวัฒนธรรมของเอเชียและเป็นการบ่งบอกถึงต้นน้ำ ในแต่ละช่องจัดแสดง ทางกลุ่มผู้ออกแบบได้วางไหโบราณหนึ่งใบที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เพื่อช่วยให้เสียงน้ำไหลดังกังวาล เส้นทางเดินชมนิทรรศการถูกปูด้วยไม้กระดานรีไซเคิลและติดไฟสว่างสร้างเป็นเส้นทางแห่งแสงนำผู้เข้าชมเดินสัมผัสค้นคว้าบรรยากาศแห่งศิลปะที่น่าตื่นตาตื่นใจภายในหอเก็บน้ำ จิตรกรเหงวียนดึ๊กเฟือง เผยว่า"ผลงานของผมแบ่งออกเป็นสองส่วนที่เกี่ยวกับการมองเห็นและอีกส่วนเกี่ยวกับการฟังเสียง โดยผมใช้วัสดุรีไซเคิลอย่างถุงพลาสติก ซึ่งสื่อถึงภาพรวมของปัญหาขยะตัวเมืองที่เราประสบอยู่ในปัจจุบัน ในส่วนของเสียงนั้น ผมอยากจะพาผู้ชมงานกลับสู่สภาพชีวิตดั้งเดิมให้นานที่สุด โดยใช้เสียงของน้ำเพื่อนำพาผู้คนเข้าสู่โลกแห่งธรรมชาติของน้ำ"

ในการจัดนิทรรศการนี้ เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของสภาพปัจจุบันของหอเก็บน้ำ กลุ่มผู้ออกแบบจัดงานเพียงแต่เติมแต่งเพิ่มรายละเอียดด้านการตกแต่งซึ่งไม่ได้มีผลกระทบต่อโครงสร้างหลักของกิจการที่มีอายุเกือบ 130 ปีแห่งนี้  เมื่อเดินชมภายในหอเก็บน้ำ ผู้ชมจะเห็นระบบท่อส่งน้ำที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ พร้อมมีถังน้ำเก่าๆที่ขึ้นสนิมตามกาลเวลา สถาปนิก เหงวียนวันแทงห์ สมาชิกในทีมออกแบบเล่าว่า  "ตอนที่เราสำรวจหอเก็บน้ำข้างในมืดมาก ดังนั้น เราจึงคิดที่จะทำตามเจตนาราณ์หลักของงานนิทรรศการการจัดวางคือ "การปลุกตื่นมรดก" ผ่านแสงไฟ ในหอเก็บน้ำเราจึงเน้น 2 แนวทางหลักคือใช้ประโยชน์จากแสงไฟเพื่อเพิ่มความโดดเด่นของโครงสร้างทรงกลมและการถนุถนอมสิ่งของวัตถุเก่าๆในหอเก็บน้ำแห่งนี้"

บรรยากาศด้านบนมีการแขวนผลงานศิลปะที่หลากหลายสีสันที่ประกอบจากถุงพลาสติก ซึ่งทำให้ตอนกลางวันเมื่อต้องแสงสว่างจากจากพระอาทิตย์ที่ส่องเข้ามาด้านในก็สะท้อนสีสันสวยงามอย่างน่าประทับใจยิ่ง ซึ่งได้ช่วยนำประสบการณ์ที่แปลกใหม่มาสู่ผู้เข้าชมนิทรรศการ

"พื้นที่ภายในหอเก็บน้ำถูกออกแบบจัดวางโดยใช้เสียงและแสงรวมทั้งเสียงน้ำไหลด้วย รู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในถ้ำ นี่เป็นแนวทางที่แปลกและน่าสนใจของบรรดานักออกแบบเพื่อฟื้นคืนพลังชีวิตของหอเก็บน้ำแห่งนี้"

"ดิฉันเห็นว่าข้อความเกี่ยวกับน้ำของผู้ออกแบบน่าสนใจมาก สถานที่แห่งนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่และใช้วัสดุตกแต่งจากขยะมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะให้คนทั่วไปได้ชม ซึ่งมีความหมายมาก โครงการแบบนี้ควรได้รับการขยายผลและส่งเสริมต่อไป"

"การที่บรรดาจิตรกรนำถุงพลาสติกมารีไซเคิลเพื่อร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นความคิดที่ดีมาก เพราะการเข้าเยี่ยมชมหอเก็บน้ำโบราณแห่งนี้จะช่วยให้ประชาชนมีความรู้และเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองหลวง รวมทั้ง ส่งเสริมความตระหนักในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย"  

นิทรรศการการจัดวางที่มีชื่อว่า "น้ำและหอเก็บน้ำมรดก" จะจัดไปจนถึงวันที่ 31ธันวาคม เป็นหนึ่งในกิจกรรมของเทศกาลออกแบบในเชิงสร้างสรรค์ฮานอย 2023 ซึ่งการปรับปรุงหอเก็บน้ำห่างเดิวให้เป็นพื้นที่ศิลปะและเปิดให้ผู้คนเข้าเยี่ยมชมถือเป็นวิธี "ฟื้นคืนชีวิต" ให้แก่โบราณสถานแห่งนี้ ซึ่งจะช่วยนำมรดกและศิลปะเข้าถึงประชาชนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น./.