(VOVworld )-ท่านผู้ฟังคะต่อจากบทความเกี่ยวกับแหลมซาหวีที่แทงเหวี่ยนได้นำมาเสนอให้ท่านได้รับฟังเมื่อสองสัปดาห์ก่อน วันนี้ แทงเหวี่ยนจะพาท่านไปเที่ยวชมศาลเจ้าจ่าโก๋ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ที่น่าสนใจของประเทศเวียดนาม ที่ตำบลจ่าโก๋ เมืองม้องก๊าย จังหวัดกว่างนิงห์

“ อากาศที่นี่ก็เป็นอากาศของเขตภาคเหนือโดยทั่วไปที่มี ๔ ฤดู แต่ที่นี่อากาศจะเย็นสบายกว่าเพราะติดกับทะเล ฤดูนี้อากาศที่นี่ไม่ร้อนอบอ้าว  หากมาเล่นน้ำทะเลหลบร้อยจะได้รับลมจากทะเลทำให้เรารู้สึกสบายจิตใจโปร่งใส ”

ศาลเจ้าจ่าโก๋ ( my tour.vn )

ที่ท่านได้รับไปแล้วนั้นคือเสียงของคุณจูงเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการประชาชนเมืองม้องก๊ายที่แนะนำเกี่ยวกับอากาศที่จ่าโก๋ขณะรถกำลังวพาพวกเราจากตัวเมืองม้องก๊ายไปยังศาลเจ้าจ่าโก๋ระยะทาง ๑๐ กม. ใช้เวลา ๑๕ นาที

ศาลเจ้าจ่าโก๋ตั้งอยู่ใจกลางของหมู่บ้าน รถของเราต้องวิ่งผ่านหมู่บ้านชาวประมงและภาพที่ตรึงใจและทำให้เกิดความรู้สึกถึงบรรยากาศเงียบสงบคือ ชาวบ้านเก็บปลาที่ยังติดบนแหหลังออกทะเลหาปลา  นายเหงวียนยาวเต๊ นายกสมาคมผู้สูงอายุตำบลจ่าโก๋คุยกับพวกเราว่า  ศาลเจ้าจ่าโก๋ได้เก็บรักษาร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ในอดีตหลายร้อยปี  นายเต๊  “ เมื่อยังมีชีวิต ท่านฝ่ามวันด่งนายกฯช่วงปีค.ศ.๑๙๕๕ – ๑๙๗๖ ได้มาเที่ยวชมที่นี่และได้กำชัยพวกเราว่า ศาลเจ้าจ่าโก๋เสมือนทหารชายแดนปกป้องบริเวณชายแดนของประเทศ  ดังนั้นการปกป้องศาลเจ้าคือการปกป้องผืนดินด่านหน้าของประเทศ  ด้วยเหตุนี้ นับตั้งแต่ประเทศได้รับเอกราชศาลเจ้าฯได้รับการปฏิสังขรมา ๔ ครั้ง โดยซ่อมแซมส่วนที่เสียหายเท่านั้นและยังคงรักษาสภาพเดิมของมัน ”

บริเวณภายในศาลเจ้า( my tour.vn )

นายเต๊เผยต่อไปว่า ศาลเจ้าจ่าโก๋ได้รับการก่อสร้างในบริเวณชายแดนติดกับจีนแต่ไม่ถูกกลืนจากวัฒนธรรมของจีน โดยวัดถูกสร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมเวียดนามโดยแท้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในศาลเจ้าโบราณหลายแห่งของประเทศและได้รับจัดเป็นหนึ่งในศาลเจ้าโบราณของประเทศในศตวรรษที่ ๑๖  พิธีบูชาเซ่นไหว้และโต๊ะหมู่บูชาก็ถูกทำขึ้นตามรูปแบบของศาลเจ้าเวียดนามทั่วไป   ปีค.ศ. ๑๙๗๙ เมื่อเกิดสงครามตามแนวชายแดต ชาวบ้านได้เก็บโต๊ะหมู่บูชาเหล่านี้ไว้ในที่ปลอดภัย  และโต๊ะหมู่บูชาเหล่านี้ยังถูกส่งไปยังอิตาลีเพื่อร่วมงานนิทรรศการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นี่คือโต๊ะหมู่บูชาที่มีเอกลักษณ์ของเวียดนาม

ศาลเจ้าจ่าโก๋ได้รับการก่อสร้างในพื้นที่ ๔๐๐ ตารางเมตรคล้ายรูปตัวอักษรที ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของศาลเจ้าหมู่บ้านริมทะเลของเวียดนาม  โดยโครงหลังคาหน้าจั่วทำจากไม้ที่หายากและมีรูปมังกร หลังคาสลักลวดลายประณีตสวยงามตามหัวข้อต่างๆไม่ว่าจะเป็นเทพอสูรศักดิ์สิทธิ์ปกครองทิศและธาตุทั้ง ๔ ได้แก่ มังกร หงส์ พยัคฆ์และเต่า  มังกรชมพระจันทร์ ปลาตะเพียนกลายร่างเป็นมังกร โขนพยัคฆ์ทองแดงปากคาบดาบและปุยเมฆ นอกจากนี้ภายในศาลเจ้ายังมีแผ่นไม้ที่สลักคำกลอนคู่ไว้สองข้างและด้านบนแท่นบูชา สิ่งที่ถือว่าโดดเด่นของที่นี่คือประตูไม้ชุดสลักเทวดาเหาะมังกรข้ามทะเล

ศาลเจ้าถูกก่อกสร้างด้วยไม้ที่หายากและแกะสลักรูปมังกร ( my tour.vn )

ในบริเวณของศาลเจ้าจ่าโก๋มีอาคารเตี่ยนเดื่องหรืออาคารแห่งการเฉลิมฉลองประกอบด้วย ๗ ห้องและอาคารด้านหลัง ๓ ห้อง หลังคามุงกระเบื้องโบราณเหมือนศาลเจ้าของหมู่บ้านเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโห่งหรือแม่น้ำแดงทั่วไป  ภายในอาคารบูชาเจ้าพ่อหลักเมือง ๖ องค์ซึ่งเป็นผู้สร้างหมู่บ้านจ่าโก๋  นายเหงวียนวันฮิว ผู้ดูแลศาลเจ้าเผยว่า  “ จากเรื่องเล่าของบรรพบุรุษว่า มี ๑๒ ท่านจากเมืองท่าไฮฟองมาบุกเบิกและตั้งถิ่นฐานที่นี่ แต่มี ๖ ท่านอยู่ที่นี่เท่านั้น ส่วนที่เหลือก็กลับมายังภูมิลำเนา ”

กาลเวลาได้ผ่านพ้นไป ศาลเจ้าจ่าโก๋ยังคงอยู่อย่างสง่าผ่าเผยเสมือนหลักพรมแดนทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่ยืนยันอธิปไตยเหนือผืนดินอันศักดิ์สิทธิ์จุดเหนือสุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ นายหวูดิ่งด่ง ชาวบ้านจ่าโก๋เผยว่า  “ นี่เป็นศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่บูชาเพื่อรำลึกในบุญคุณของบรรพบุรุษผู้บุกเบิกและสร้างหมู่บ้าน อีกทั้งถือเป็นหลักพรมแดนและ เป็นพยานหลักฐานที่ยืนยันถึงอธิปไตยของประเทศ  และเป็นจุดที่เราเริ่มต้นการเขียนแผนที่ประเทศ  ”

หลังคาหน้าจั่วมีรูปมังกร ( my tour.vn )

ศาลเจ้าจ่าโก๋หลักพรมแดนทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ได้เข้าสู่วรรณกรรมและบนเพลงของนักประพันธ์ดนตรีหลายท่าน  ความงามแบบโบราณด้วยสถาปัตยกรรมที่ประณีตท่ามกลางทะเลอันกว้างใหญ่และเงียบสงบได้สร้างอารมณ์สุนทรีย์ให้แก่นักประพันธ์เหงวียนเกื่องแต่งเพลง ม้ายดิ่งหล่างเบี๋ยนหรือ ศาลเจ้าแห่งหมู่บ้านริมทะเล   ./.