วันที่2กันยายนปี1945คือวันที่สำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ของประชาชาติเวียดนามและเสี้ยวนาทีแห่งความรุ่งโรจน์นั้นก็ถูกจารึกไว้ในจิตใจของคนทั้งชาติเมื่อประเทศเวียดนามที่เอกราชและเสรีภาพได้รับการสถาปนาอย่างเป็นทางการ ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นก็เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะวรรณกรรมต่างๆและหนึ่งในผลงานที่หลากหลายเหล่านั้นคือเพลง ฤดูไม้ผลักใบที่รุ่งโรจน์ ประพันธ์โดยเหงวียนวันกี๊ จากการขับร้องของศิลปินประชาชนแทงฮวาที่เราจะเปิดให้ฟังต่อไปนี้เลยค่ะ
ท่านผู้ฟังที่เคารพหลังจากได้ฟังเพลงที่สะท้อนบรรยากาศแห่งฤดูใบไม้ร่วงครั้งประวัติศาสตร์เมื่อ73ปีก่อนแล้วเราก็จะมาทำความรู้จักกับสถานที่แห่งประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งที่มีความหมายในเหตุการณ์เมื่อ73ปีก่อนนะคะ นั่นคือบ้านเลขที่48ถนนห่างงางตั้งอยู่ในใจกลางย่านถนนโบราณฮานอย ซึ่งเป็นย่านค้าขายที่คึกคักที่สุดของเมืองหลวงมาตั้งแต่อดีต ซึ่งในช่วงปลายเดือนสิงหาคมปี1945 ณ บ้านหลังนี้ ประธานโฮจิมินห์ได้เริ่มเขียนร่างปฏิญญาเอกราช สถาปนาประเทศเวียดนาม และจนถึงปัจจุบันนี้ สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นแหล่งอนุสรณ์สถานที่เก็บรักษาร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ที่ผูกพันกับประธานโฮจิมินห์
เมื่อ73ปีก่อน บ้านเลขที่48ถนนห่างงางนี้เป็นร้านขายผ้าไหมหวานฟุกของครอบครัวนาย ตริงวันโบและนางหว่างถิโห่ ซึ่งเป็นหนึ่งในพ่อค้าผ้าไหมรายใหญ่ของฮานอยในสมัยนั้น บ้านหลังนี้ก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสที่ทอดยาวในพื้นที่400ตารางเมตร หน้าบ้านคือเลขที่48ถนนห่างงาง หลังบ้านคือเลขที่35ถนนห่างเกิน ในช่วงเวลาแห่งการปฏิวัตินั้น สถานที่แห่งนี้ถือเป็นที่มั่นที่น่าไว้วางใจและปลอดภัยสำหรับทำการเคลื่อนไหว ดังนั้น จึงถูกเลือกเป็นสถานที่ทำงานของประธานโฮจิมินห์ตั้งแต่วันที่ 25สิงหาคม-2กันยายนปี1945 ซึ่งเป็นช่วงที่ประธานโฮจิมินห์กับเจ้าหน้าที่พรรคส่วนกลางได้หารือและมีการตัดสินใจที่มีความหมายต่อประชาชาติ
หลังจากประเทศได้รับการปลดปล่อย ครอบครัวคุณตริงวันโบและนางหว่างถิโห่ได้มอบบ้านหลังนี้ให้แก่รัฐเพื่อจัดเป็นโบราณสถานเชิงประวัติศาสตร์ที่เก็บรักษาเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งของชาติ ทุกวันนี้ผ่านช่วงเวลาผันผวนต่างๆของประวัติศาสตร์ แต่บ้านเลขที่48ถนนห่างงางนี้ยังคงได้รับการรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ โดยชั้นหนึ่งเป็นที่จัดแสดงภาพถ่ายและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆของประธานโฮจิมินห์และนักปฏิวัติอาวุโส ชั้นสองเป็นที่จัดแสดงบรรยากาศห้องพักห้องทำงานที่ประธานโฮจิมินห์นั่งเขียนปฏิญญาเอกราชและประชุมหารือกับคณะกรรมการกลางพรรค โดยเฉพาะมีชุดโต๊ะสีน้ำตาลแก่พร้อมเก้าอี้8ตัวและมีโต๊ะเล็กเป็นที่วางเครื่องพิมพ์ดีดที่ประธานโฮจิมินห์เคยใช้งาน ส่วนบนชั้นสามของบ้านเป็นห้องเกียรติยศและตั้งหิ้งบูชา
ปัจจุบันนี้ บ้านเลขที่48ถนนห่างงางได้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงการค้นคว้าทางวิชาการสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ คุณรีนา จากประเทศสิงคโปร์และคุณฟานแทงตุ่ง นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเปิดฮานอยได้แสดงความเห็นว่า
“เมื่อมาที่นี่ ผมก็มีความเข้าใจในเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ต่างๆที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้โดยเฉพาะเรื่องที่ประธานโฮจิมินห์ได้นั่งเขียนปฏิญญาเอกราชของเวียดนาม ซึ่งบ้านหลังนี้ไม่ใหญ่ห้องทำงานเรียบง่ายมาก และตั้งอยู่ในย่านโบราณ แต่ ณ ที่นี่ประธานโฮจิมินห์ได้ใช้สติปัญญาเพื่อเขียนเอกสารที่สำคัญเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานะของประชาชาติเวียดนาม”
“เมื่อก้าวเข้าสู่บ้านหลังนี้ก็เหมือนได้หวนกลับไปช่วงเวลาแห่งอดีตที่รุ่งโรจน์ บ้านยังคงสภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของฮานอยในอดีต เป็นสถานที่ที่ประธานโฮจิมินห์ได้เขียนปฏิญญาเอกราชสถาปนาประเทศเวียดนาม ซึ่งนับเป็นเรื่องที่มีความหมายอย่างลึกซึ้งและพิเศษมาก”
แม้ผ่านมาแล้วกว่า70ปี แต่บ้านเลขที่48ถนนห่างงางยังคงสภาพเดิมและยังเปี่ยมไปด้วยความหมายที่มีความผูกพันกับชีวิตการเคลื่อนไหวปฏิวัติระยะหนึ่งของประธานโฮจิมินห์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดมาเยือนเมื่อมาเที่ยวกรุงฮานอย.
ประธานโฮจิมินห์ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของประชาชาติเวียดนาม นักวัฒนธรรมโลกและวีรชนผู้ปลดปล่อยประชาชาติที่มีชื่อเสียงได้รับความเคารพรักจากทั้งประชาชนเวียดนามและมิตรประเทศ โดยผลงานต่างๆที่เขียนเกี่ยวกับท่านโดยเฉพาะบทเพลงที่พูดถึงลุงโฮล้วนแต่สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งในหัวใจของชาวเวียดนามและผู้ที่รักเวียดนามในทั่วโลก โดยภาพลักษณ์ของท่านได้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเชื่อมั่นและความคาดหวังเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ทหารและประชาชนเวียดนามฝ่าฟันอุปสรรคความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ทั้งปวงเพื่อมุ่งสู่ชัยชนะ และสิ่งนี้ก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินจูมิงห์ประพันธ์บทเพลง “ท่านคือความเชื่อมั่นแห่งชัยชนะ” เพลงนี้มีท่อนหนึ่งความว่า
“ท่านสถิตอยู่ในใจของประชาชนนับล้านคน
โฮจิมินห์ ท่านโฮจิมินห์ ชื่อของท่านช่างสวยงามและรุ่งโรจน์
เพื่อเอกราชเพื่อเสรีภาพมุ่งก้าวบนเส้นทางแห่งธงแดงดาวเหลือง
โฮจิมินห์ ท่านโฮจิมินห์ที่เคารพรักยิ่ง
ท่านคือความเชื่อมั่นแห่งชัยชนะที่แจ่มจรัส
ทั่วโลกน้อมรำลึกท่าน
มวลมนุษย์ร่วมอาลัยท่าน
วีรชนนักต่อสู้ที่มุ่งมั่นในการสร้างเสรีภาพ
ท่านคือความปรารถนาของประชาชาติต่างๆ
เสียงของท่านดังกังวาลชั่วนิรันดร์
ส่องสว่างให้ประชาชาติมุ่งมั่นตั้งใจเดินตามรอยท่าน.
หัวข้อเกี่ยวกับเรื่องราวของประธานโฮจิมินห์ไม่เพียงแต่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ศิลปินเวียดนามในการประพันธ์ผลงานต่างๆเท่านั้นหากยังสร้างอารมณ์ให้แก่ชาวต่างชาติในการแสดงความเคารพศรัทธาต่อลุงโฮอีกด้วย โดยแนวคิด อุดมการณ์และความรักของท่านที่มีต่อประชาชนและมวลมนุษย์ได้เป็นประทีบส่องทางให้แก่คนรุ่นต่างๆได้ปฏิบัติต่อไปเพื่อให้สมกับความปรารถนาของลุงโฮที่อยากพัฒนาประเทศเวียดนามให้ทัดเทียมกับประเทศต่างๆทั่วโลก และเราขอปิดท้ายรายการ “เวียดนาม มนต์เสน่ห์ที่ซ่อนเร้น” ของสถานีวิทยุเวียดนามวันนี้ด้วยเพลง บทเพลงแห่งโฮจิมินห์ ประพันธ์โดยนักดนตรีชาวคิวบา เอวัน มัคกอลล์ จากการขับร้องของศิลปินยอดเยี่ยมกวางฮึง สำหรับวันนี้สวัสดี.