ส่วนของพิพิธภัณฑ์แบ่งเป็น 2 โดยที่ชั้นที่ 1 มีห้องโถง และพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ 4 ห้อง แบ่งตามระยะประวัติศาสตร์การพัฒนาของสื่อเวียดนามตั้งแต่ปี 1865 - 1925 ช่วงปี 1925 - 1945 ช่วงปี 1945 - 1954 และช่วงปี 1954 - 1975  ซึ่งจุดแรกที่ทุกคนจะเข้าถึงเมื่อมาเยือนพิพิธภัณฑ์สื่อเวียดนามคือห้องเกียรติยศ ที่โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ของวงการสื่อสารมวลชนเวียดนามที่ตั้งตรงกลาง คือรูปปลายปากกาที่ปักอยู่ในกลีบบัวที่สื่อความหมายอันลึกซึ้งคือ “ปากกาคมชัด จิตใจแจ่มใส” ซึ่งเป็นข้อความที่นักข่าวเวียดนามทุกรุ่นต่างมุ่งมั่นปฏิบัติมาโดยตลอด ส่วนรูปกลีบบัวก็ประกอบจากชื่อหนังสือพิมพ์และสำนักข่าวต่างๆของเวียดนามตั้งแต่สมัยที่มีการก่อตั้งหนังสือพิมพ์เวียดนามฉบับแรกจนถึงปัจจุบัน 

บนชั้น 2 เป็นส่วนจัดแสดงเกี่ยวกับการพัฒนาเปลี่ยนแปลงใหม่และการผสมผสานของสื่อปฏิวัติเวียดนามด้วยหัวข้อต่างๆ คือสื่อกับหัวข้อปกป้องอำนาจอธิปไตยเหนือทะเลและหมู่เกาะ สวัสดิการและการพัฒนาการสื่อสารมวลชนในยุคโด๋ยเม้ย เป็นต้น และจุดเด่นในพื้นที่นี้คือการเชิดชูยกย่องเกียรติประวัติการพัฒนาของสื่อท้องถิ่น  ซึ่งสร้างภาพรวมหลายมิติเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของหน่วยงานสื่อสารมวลชนเวียดนาม ในพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงและเผยแพร่แนะนำเอกสารและสิ่งของที่มีเอกลักษณ์และมีความหมายมากมายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญๆในประวัติศาสตร์การพัฒนาของสื่อมวลชนเวียดนาม นักข่าว เจิ่นถิกิมฮวา ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์กล่าวว่า"ในพิพิธภัณฑ์ได้มีการจัดแสดงสิ่งของวัตถุกว่า 2 หมื่นชิ้นโดยเป็นสิ่งของที่มีค่าและมีความหมายสำคัญกว่า 700 ชิ้น ซึ่งสื่อถึงเรื่องราวที่โดดเด่นเฉพาะและไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อนและที่น่าสนใจคือสิ่งของต่างๆล้วนเป็นของต้นฉบับ"         

หนึ่งในสิ่งของวัตถุที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของพิพิธภัณฑ์คือลำโพง 500W ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ริมฝั่งเหนือแม่น้ำเบ๊นหาย จังหวัดกว๋างจิ ภาคกลางเวียดนาม ซึ่งเป็นจุดออกอากาศรายการต่างๆของสถานีวิทยุเวียดนาม (Voice of Vietnam) ที่ช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและสร้างเสริมความเชื่อมโยงความสามัคคีของประชาชนระหว่างสองฝั่งแม่น้ำ ที่ในตอนนั้นถูกใช้เป็นเส้นขนานที่ 17 แบ่งเวียดนามเป็นสองภาคเหนือ-ใต้ในสงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกาเพื่อปกป้องประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการจำลอง"บังเกอร์ข่าว" สำหรับหลบระเบิดกระสุนปืน ห้องมืดสำหรับล้างภาพถ่ายของสำนักข่าวเวียดนาม หรือกล้องถ่ายวิดีโอยุคแรกที่ถือเป็นต้นกำเนิดของโทรทัศน์เวียดนาม เป็นต้น ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้สร้างความประทับใจเป็นอย่างมากให้แก่ผู้มาเยือน

"เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ได้พยายามค้นหาสิ่งของและเอกสารต้นฉบับมาจัดแสดงซึ่งสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับนักข่าว ก็ทำให้นึกถึงความทรงจำในการทำงานเป็นนักข่าวในช่วงเวลาหนึ่ง"

"สื่อปฏิวัติเวียดนามได้มีการพัฒนาเป็นอย่างมากและเมื่อได้ชมสิ่งของและฟังเรื่องราวต่างๆ ก็รู้สึกภูมิใจมากขึ้นและมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมพัฒนาสื่อเวียดนามตามรอยนักข่าวรุ่นอาวุโสต่างๆ"

"การจัดแสดงดีมาก มีความสวยงามและสามารถสะท้อนภาพรวมประวัติศาสตร์สื่อเวียดนามอย่างชัดเจนสมบูรณ์ท่ามกลางกระแสการพัฒนาของสื่อทั่วโลก"  

เพื่อสนับสนุนการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในทุกปราสาทสัมผัส ได้มีการเตรียมหน้าจอโทรทัศน์และจอสัมผัสเพื่อตอบสนองความต้องการในการรับชมและค้นหาข้อมูลต่างๆ ของผู้ชมตลอดเส้นทาง  นักข่าวโห่ กวาง เหลย กล่าวว่า"เมื่อมาถึงพิพิธภัณฑ์สื่อเวียดนาม เราไม่เพียงแต่เห็นประวัติศาสตร์ของสื่อเท่านั้น แต่เรายังเห็นภาพรวมประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม การต่อสู้ และการพัฒนาของประเทศ เมื่อเดินผ่านห้องแสดงต่างๆ ผมรู้สึกซาบซึ้งใจมาก และภูมิใจในการพัฒนาของสื่อสารมวลชนปฏิวัติเวียดนาม โดยสื่อมวลชนได้มีส่วนร่วมอันยิ่งใหญ่ในภารกิจการปลดปล่อยชาติ การก่อตั้งและการพัฒนาประเทศ"

ปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์สื่อเวียดนามได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการจัดแสดงเพื่อรวมข้อมูล เอกสาร ผลงาน และรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับชีวิตการเคลื่อนไหวของนักข่าวและการมีส่วนร่วมของสื่อมวลชนในช่วงเวลาต่างๆ โดยผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์หวังว่าคลังสิ่งของวัตถุเชิงประวัติศาสตร์ของพิพิธภัณฑ์จะมีความหลากหลายยิ่งขึ้นต่อไปเพื่อให้สมกับบทบาทเป็นแหล่งอนุรักษ์มรดกด้านสื่อสารมวลชนของเวียดนามตลอดกาล./.