หมู่บ้านหงอกเตินตั้งอยู่ในเชิงเขาเดิ๋ว ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอ.ดวานหุ่ง โดยมีประชากรเป็นชนกลุ่มน้อยเผ่า กาวลาน ศาลาหมู่บ้านหงอกเตินได้รับการก่อสร้างเมื่อปี1803สมัยกษัตริย์ยาลองที่2 ได้รับการรับรองเป็นโบราณสถานวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ระดับจังหวัดเมื่อปี1994 เป็นสถานที่บูชาเจ้าพ่อหลักเมือง3องค์ในยุคกษัตริย์หุ่งเวืองได้แก่ กาวเซิน กาวด๋าย กาวด่าย ซึ่งเป็นขุนพลที่มีชื่อเสียงและมีคุณูปการในการต่อสู้ขับไล่ศัตรูผู้รุกราน โดยงานเทศกาลของหมู่บ้านได้จัดขึ้นในต้นเดือนยี่จันทรคติ นอกจากพิธีกรรมตามประเพณีดั้งเดิมก็มีการจัดงานรื่นเริงสังสรรค์โดยเฉพาะการละเล่นพื้นเมืองต่างๆ นายเจิ่นหงอกหว่าน รองประธานคณะกรรมการประชาชนต.หงอกกวาน อ.ดวานหุ่งเผยว่า“เมื่อถึงเทศกาลทุกปีก็มีชาวท้องถิ่น นักท่องเที่ยวมาร่วมงานเป็นจำนวนมากเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สนุกสนานของกิจกรรมต่างๆเช่น การเดินขาหยั่ง ชักเย่อ ยิงธนู เป็นต้น ซึ่งนอกจากเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมพื้นเมือง นี่ยังเป็นโอกาสสร้างความสามัคคีระหว่างชาวบ้านและประชาชนในท้องถิ่นใกล้เคียงอีกด้วย”
หนึ่งในการละเล่นที่สนุกที่สุดในงานเทศกาลคือการเดินขาหยั่ง โดยเริ่มจากการใช้ขาหยั่งในการเดินทางข้ามลำธารในอดีตและได้กลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ที่ชนเผ่ากาวลานในหงอกเตินยังคงอนุรักษ์จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งตั้งแต่เด็กๆจนถึงผู้ใหญ่ต่างสามารถใช้ขาหยั่งเหมือนเป็นขาที่สองในการเดินทางบนทุกสภาพพื้นที่ทั้งภูดอย ป่าเขาและลำธาร เพื่อสร้างความรื่นเริงให้แก่งาน ได้มีการจัดการแข่งขันเดินขาหยั่งใส่ตะเกียบในขวดแก้ว ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ต้องการความอดทน เด็กหญิง เหงวียนถิห่งหยูง ชาวบ้านหงอกเตินเผยว่า“หนูเดินขาหยั่งได้ตั้งแต่ตอน6ขวบเพราะได้ฝึกตั้งแต่เล็กๆและเมื่อไปเรียนก็ได้เล่นในโรงเรียนด้วย ที่สำคัญในการเดินขาหยั่งคือต้องรักษาการทรงตัวให้ดี”
อีกหนึ่งการละเล่นพื้นเมืองที่ชาวกาวลานยังคงอนุรักษ์ในงานเทศกาลคือการแข่งขันยิงธนูและการ “แน๊มก่อน” หรือโยนลูกช่วง ซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพิธีโยนลูกช่วงเป็นการพัฒนาจากพิธีกรรมด้านความเลื่อมใสในการบูชาดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ของเกษตรกรในท้องถิ่น ซึ่งจะมีการตั้งเสาตุงที่ใช้ไผ่ทั้งต้นสูง13.5เมตรกลางลานกว้าง บนยอดผูกห่วงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง50เซนติเมตร ปิดกระดาษสีแดง ซึ่งการโยนลูกช่วงลอดหว่งนั้นมีความหมายคือขับไล่ความทุกความชั่วร้ายเศร้าโศกออกไปให้หมดเพื่อรับความสุขความโชคดีปีใหม่ ชีวิตเจริญพัฒนาและการเก็บเกี่ยวได้ผลดี ดังนั้นทุกคนที่เข้าร่วมต่างตั้งใจโยนให้ลอดหว่งเพื่อความเป็นสิริมงคล นายเสิ่นซวนซิง ผู้ใหญ่บ้าน หงอกเติน ต.หงอกกวาน เผยว่า“การโยนลูกช่วงเป็นกิจกรรมการละเล่นพื้นเมืองที่ขาดมิได้ในงานเทศกาลและงานมงคลต่างๆ เป็นโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าร่วมและเข้าใจวัฒนธรรมพื้นบ้านเพื่อร่วมกันอนุรักษ์ต่อไป”
บรรยากาศที่ชื่นมื่นและสนุกสนานของเทศกาลยามวสันต์ฤดูก็เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ชาวบ้านเข้าร่วมฤดูการผลิตใหม่อย่างเข้มแข็งเพื่อสร้างสรรค์ชีวิตที่อิ่มหนำผาสุกและอีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้ชาวท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่หลากหลายน่าสนใจของชนเผ่าต่างๆในเวียดนาม.