นาย Ibnu Hadi เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามและบรรดาผู้แทน |
เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ กรุงฮานอย สถานทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามได้จัดการสัมมนาภายใต้หัวข้อ “ผลักดันความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกาแฟเวียดนามกับอินโดนีเซีย” โดยมีตัวแทนของกระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศ บริษัทอินโดนีเซียและเวียดนาม25แห่งเข้าร่วม นี่เป็นโอกาสเพื่อให้บริษัททั้งสองประเทศแลกเปลี่ยนข้อมูลและแสวงหาหุ้นส่วนในอนาคต นาย แถกมายลอง ผู้อำนวยการภาคเหนือของบริษัทกาแฟเมจาง ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้ากาแฟรายใหญ่ของเวียดนามได้เผยว่า “หลังการสัมมนานี้ ทางบริษัทฯหวังว่า จะสามารถแสวงหาหุ้นส่วนต่างๆในประเทศอินโดนีเซียเพื่อส่งออกกาแฟไปยังอินโดนีเซีย บริษัทเมจางมีจุดแข็งเกี่ยวกับการผลิตกาแฟสำเร็จรูปและกาแฟที่สะอาด”
นาง Tri Yuli Kurniasih จากบริษัท D’ Excelent ผู้ผลิตกาแฟเขียวได้เผยว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเรามาเยือนเวียดนาม ดังนั้น พวกเรามีความประสงค์ที่จะศึกษาตลาดเวียดนามก่อนเพื่อดูว่า มีศักยภาพความร่วมมืออะไรบ้างและผลิตภัณฑ์กาแฟเวียดนามเป็นอย่างไร หลังจากนั้น พวกเราจะมีแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม”
การสัมมนาครั้งนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซียในด้านกาแฟ ก่อนหน้านั้น เมื่อ30ปีก่อน เวียดนามและอินโดนีเซียได้มีความร่วมมือในด้านนี้ ชาวเวียดนามได้เดินทางไปยังอินโดนีเซียเพื่อศึกษาวิธีการผลิตกาแฟ ในปี2017 เวียดนามสามารถผลิตกาแฟได้28.6ล้านถุง สูงกว่า2.5เท่าเมื่อเทียบกับปริมาณการผลิตกาแฟของอินโดนีเซีย ในขณะที่พื้นที่ปลูกกาแฟของอินโดนีเซียอยูที่1.25ล้านเฮกตาร์ สูงกว่า2เท่าเมื่อเทียบกับพื้นที่ปลูกกาแฟของเวียดนาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของหน่วยงานกาแฟเวียดนาม จากศักยภาพที่มีอยู่ ในหลายปีที่ผ่านมา อินโดนีเซียและเวียดนามได้พยายามส่งเสริมความร่วมมือด้านกาแฟผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูล การลงนามเอกสารความร่วมมือ การเยือนของตัวแทนกระทรวงและหน่วยงานต่างๆของทั้งสองประเทศ เมื่อปี2005 ทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องที่จะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเกี่ยวกับการส่งออกกาแฟไปยังตลาดโลก โดยเฉพาะ ในกรอบการเยือนอินโดนีเซียของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงวียนฟู้จ่องเมื่อเดือนมีนาคมปี2017 ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับมาตรการและความคิดริเริ่มใหม่เพื่อผลักดันความร่วมมือด้านการค้าระหว่างสองประเทศ โดยอินโดนีเซียได้เห็นพ้องเกี่ยวกับการวางมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการบริหาร การผลักดันความร่วมมือกับเวียดนามและโลกเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคากาแฟส่งออกเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะ เกษตรกร นาย เลืองวันตื๋อ นายกสมาคมกาแฟ-โกโก้เวียดนามได้เผยว่า “พวกเรามีผลิตภัณฑ์กาแฟที่น่าสนใจแต่พวกเรายังไม่สามารถควบคุมราคากาแฟได้ พวกเราต้องเน้นรักษาเสถียรภาพของราคากาแฟเพื่อค้ำประกันผลประโยชน์ของเกษตรกร ผมคิดว่า ในอนาคต กระทรวงและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศต้องร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหานี้”
ภาพของการสัมมนา |
นอกจากการรักษาเสถียรภาพของราคากาแฟแล้ว ทั้งสองประเทศต้องผลักดันมาตรการร่วมมือที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะ การศึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อผลักดันกิจกรรมการส่งเสริมการเกษตรและยกระดับคุณภาพของกาแฟส่งออก นาย Ibnu Hadi เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามได้เสนอว่า “ทั้งสองประเทศมีศักยภาพความร่วมมือสูงเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์กาแฟต่อตลาดโลก ทั้งสองประเทศต้องจัดการสัมมนาและการฝึกอบรม ผลักดันการแลกเปลี่ยนด้านเทคนิคระหว่างครอบครัวที่ปลูกกาแฟ เช่น การเพาะปลูก การแปรรูปและการประชาสัมพันธ์ เป็นต้นเพื่อยกระดับคุณภาพของกาแฟและสถานะของทั้งสองประเทศบนแผนที่กาแฟโลก”
จากความพยายามผลักดันความร่วมมือด้านกาแฟระหว่างสองประเทศ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะปฏิบัติงานของสมาคมกาแฟอินโดนีเซียและสถานประกอบการอินโดนีเซียได้เดินทางไปเยือนจังหวัดดั๊กลัก ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ปลูกกาแฟมากที่สุดในเวียดนามเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในกระบวนการเพาะปลูก การแปรรูปและการส่งออกกาแฟ แน่นอนว่า ในอนาคต ความร่วมมือด้านกาแฟระหว่างสองประเทศจะนับวันได้รับการพัฒนาเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้.