นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เยือนเวียดนามเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา |
เวียดนามและสิงคโปร์ได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจดิจิทัล-เศรษฐกิจสีเขียวอย่างเป็นทางการเนื่องในโอกาสการเยือนสิงคโปร์ของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ฝ่ามมิงชิ้ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2023 ส่วนในการเยือนเวียดนามของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลีเซียนลุง เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องในการยกระดับกรอบข้อตกลงความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจเวียดนาม-สิงคโปร์ โดยยึดตามหลัก 5 ประการ ได้แก่ การเชื่อมโยงด้านพลังงาน การพัฒนาอย่างยั่งยืน โครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัล-นวัตกรรม และการเชื่อมโยงในด้านอื่นๆ เช่น การศึกษา การเงิน เทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม และการท่องเที่ยว ด็อกเตอร์ เลห่งเหยียบ จากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ISEAS – Yusof Ishak ได้ประเมินว่า สิงคโปร์เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่น่าเชื่อถือในการบรรลุวิสัยทัศน์การพัฒนาร่วมกับเวียดนามในช่วงเวลาที่จะถึง
“ในฐานะเป็นศูนย์กลางแห่งการเติบโตสีเขียวและนวัตกรรมของภูมิภาค สิงคโปร์มีประสบการณ์และทรัพยากรมากมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาของเวียดนามในด้านต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งสอดคล้องกับผลประโยชน์และเป้าหมายทั้งในระยะสั้นและระยะยาวของเวียดนาม คือมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ เพื่อสามารถหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ควบคู่กับการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนและการมีส่วนร่วมต่อการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ”
บรรดาผู้ประกอบการสิงคโปร์มีแนวโน้มนำเงินลงทุนมาสู่ด้านใหม่ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานใหม่ พร้อมยกระดับนิคมอุตสาหกรรมเวียดนาม-สิงคโปร์หรือ VSIP หลายแห่งจากการเป็นฐานการผลิตด้านอุตสาหกรรมให้กลายเป็นศูนย์นวัตกรรมในอนาคต ในการกล่าวปราศรัยต่อการประชุมส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุนเวียดนาม-สิงคโปร์ ในกรอบการเยือนเวียดนามครั้งล่าสุด นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียนลุง ได้ย้ำว่า
“นิคมอุตสาหกรรม VSIP เป็นเรื่องราวของนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์อย่างไม่หยุดยั้ง โดยนิคมอุตสาหกรรม VSIP แห่งแรกในจังหวัดบิ่งห์เยืองได้มุ่งเน้นในภาคอุตสาหกรรมเบาในขณะที่ VSIP Binh Duong 2 ให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่ทันสมัย และในปัจจุบัน นิคมอุตสาหกรรม VSIP Binh Duong 3 จะกลายเป็นนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะสีเขียวพร้อมด้วยระบบโซลาร์ฟาร์มแบบบูรณาการกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในการดำเนินงาน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสีเขียว Green Mark ของประเทศสิงคโปร์สำหรับนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ VSIP Binh Duong 3 จะเป็นสถานที่ในการจัดตั้งโรงงานปลอดคาร์บอนแห่งแรกของโลกของกลุ่มบริษัท LEGO ผมหวังว่า โครงการ VSIP ทุกแห่งจะยังคงมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงใหม่ของภาคอุตสาหกรรมในเวียดนามต่อไป"
นาย Jaya Ratnam เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำเวียดนาม |
ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ เวียดนามและสิงคโปร์ได้พยายามร่วมกันในการส่งเสริมโครงการต่างๆ เกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยกลุ่มบริษัท Petro Vietnam และเครือบริษัท Sembcorp Group ของสิงคโปร์ ได้ลงนามข้อตกลงการพัฒนาร่วมเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการลงทุนและการส่งออกไฟฟ้าที่ผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนนอกชายฝั่งเวียดนามไปยังสิงคโปร์ สำหรับด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและทันสมัย รวมถึงความหนาแน่นของผู้ใช้ที่อยู่ในระดับสูง ทั้งสองประเทศต่างก็ติดอยู่ในรายชื่อระบบนิเวศสตาร์ทอัพเชิงนวัตกรรม 3 อันดับแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นาย Jaya Ratnam เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำเวียดนาม เผยว่า สิงคโปร์และเวียดนามจะส่งเสริมความร่วมมือเชิงลึกมากขึ้นในทศวรรษหน้าใน 3 ด้าน ได้แก่ นวัตกรรม พลังงานทดแทน และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
“กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลจะส่งผลต่อทุกประเทศทั่วโลก ดังนั้น ทั้งสิงคโปร์และเวียดนามต่างต้องคว้าโอกาสนี้ให้ได้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างกัน โดยรัฐบาลทั้งสองฝ่ายต้องให้ความสำคัญกับเรื่องมากขึ้น นี่เป็นเหตุผลที่พวกเราได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อสามารถกำหนดด้านความร่วมมือใหม่ๆ โดยเฉพาะในด้านปัญญาประดิษฐ์ ข้อมูลข้ามชาติ และความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญมากเพราะเป็นเรื่องที่จะกำหนดจุดยืนของทั้งสองประเทศในอนาคต นอกจากนี้ ในด้านพลังงานหมุนเวียน โครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน คาร์บอนเครดิต และการเงินสีเขียว จะมีส่วนช่วยให้ทั้งสองประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงาน”
ทั้งนี้ บนเส้นทางการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นเวลา 50 ปี และ 10 ปีแห่งการพัฒนาขึ้นสู่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างเวียดนามกับสิงคโปร์อันดีงาม ท่ามกลางอุปสรรคมากมายจากโรคระบาดและความผันผวนของสถานการณ์โลก การส่งเสริมและขยายความร่วมมือหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจสีเขียวและเศรษฐกิจดิจิทัล ไม่เพียงแค่ช่วยเวียดนามและสิงคโปร์ร่วมกันแก้ไขประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ รวมถึงคำมั่นระหว่างประเทศที่ทั้งสองประเทศตั้งไว้เท่านั้น แต่ยังสร้างแรงกระตุ้นในวงกว้างเพื่อมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนของทั้งภูมิภาคอีกด้วย.