ประธานประเทศเวียดนามและกษัตริย์แห่งกัมพูชา

เวียดนามและกัมพูชามีสภาพภูมิศาสตร์ที่ดีที่สามารถสนับสนุนกันเพื่อการพัฒนา ระยะปัจจุบันเป็นระยะทองเพื่อผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี นี่คือข้อสังเกตุของนายหวูถิ่งเกื่อง อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ สำนักงานทูตพาณิชย์เวียดนามประจำกัมพูชาเมื่อกล่าวถึงศักยภาพความร่วมมือระหว่างสองประเทศ“เวียดนามมีพรมแดนติดกับกัมพูชากว่า๑พัน๑ร้อยกิโลเมตรผ่าน๑๐จังหวัดของเวียดนามและ๙จังหวัดของกัมพูชา นอกจากนี้ประเพณีของทั้งสองประเทศก็มีความคล้ายคลึงกัน ความต้องการบริโภคสินค้าของกัมพูชาสูงมากแต่คุณภาพและเทคนิคการผลิตไม่สูงนักซึ่งสอดคล้องกับข้อได้เปรียบในการผลิตของเวียดนาม”

นอกจากความสะดวกเกี่ยวกับเงื่อนไขธรรมชาติ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ายังได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากผู้นำทั้งสองประเทศ ในการพบปะครั้งต่างๆ ผู้นำทั้งสองประเทศต่างยืนยันถึงความสำคัญของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าและให้คำมั่นจะขยายและยกระดับประสิทธิภาพของความร่วมมือให้สมกับความปรารถนาและศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของทั้งสองประเทศและยังเห็นพ้องกันว่า จะเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น๕พันล้านเหรียญสหรัฐในปี๒๐๑๕  นายงวนเม็งติ๊ก ประธานหอการค้ากัมพูชาเผยว่า ในช่วงปี๒๐๐๑ถึงปี๒๐๑๑ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้เพิ่มขึ้น๑๗เท่าคือจาก๑๖๙ล้านเพิ่มขึ้นเป็น๒.๘๓พันล้านเหรียญสหรัฐโดยมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ๓๒.๕ต่อปี จำนวนนักท่องเที่ยวเวียดนามที่ไปเที่ยวกัมพูชาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเวียดนามเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเยือนกัมพูชามากที่สุด ปัจจุบันมีบริษัท๖๐๐แห่งในด้านการค้า แร่ธาตุ ไฟฟ้า โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ การปลูกพืชอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว สาธารณสุข การบริการ การขนส่ง ธนาคารและการก่อสร้างที่ตั้งสาขาในกัมพูชา นายงวนเม็งติกกล่าวว่า“ความสัมพันธ์ทางการค้าได้พัฒนาอย่างเข้มแข็ง ปัจจุบัน มีสถานประกอบการกัมพูชาจำนวนมากร่วมมือประกอบธุรกิจกับสถานประกอบการเวียดนามและมีหลายหน่วยงานกำลังเป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวให้แก่บริษัทต่างๆของเวียดนามซึ่งความร่วมมือนี้ได้นำผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้แก่ทั้งสองฝ่าย”

นอกจากผลงานทางเศรษฐกิจแล้ว ด้านการลงทุนก็มีก้าวพัฒนาอย่างข้ามขั้น ปัจจุบัน เวียดนามมีโครงการลงทุนในกัมพูชา๑๓๐โครงการรวมยอดเงินทุนจดทะเบียนกว่า๓พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งส่วนใหญ่คือ ในด้านยางพารา ปุ๋ย ธนาคาร การบินและโทรคมนาคมและ กัมพูชาก็อยู่อันดับ๒ในจำนวน๕๐ประเทศและดินแดนที่ได้รับเงินลงทุนโดยตรงจากเวียดนาม

เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการเวียดนามในการประกอบธุรกิจในกัมพูชา นายเหงวียนวันบิ่งผู้ว่าการธนาคารชาติเวียดนามยืนยันว่า นอกจากช่วยเหลือด้านระเบียบการและนโยบาย ธนาคารชาติเวียดนามจะออกใบอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ๆของเวียดนามเปิดสาขาในกัมพูชาเพื่อช่วยเหลือการทำธุรกรรมและสนับสนุนเงินทุนให้แก่สถานประกอบการเวียดนามที่ลงทุนในกัมพูชา“ปรากฎการณ์ที่เป็นรูปธรรมและมีชีวิตชีวาที่สุดในยุทธศาสตร์ลงทุนในกัมพูชาของธนาคารชาติคือ ผลักดันองค์กรสินเชื่อเวียดนามเปิดสาขาในกัมพูชาตามแนวทางช่วยให้ธนาคารชั้นนำประมาณ๑๐แห่งมีสาขาในกัมพูชา”

นอกจากความร่วมมือทวิภาคี เวียดนามและกัมพูชายังเข้าร่วมกรอบความร่วมมือภูมิภาคต่างๆ เช่น ความร่วมมือสามเหลี่ยมพัฒนาเวียดนาม– ลาว– กัมพูชา ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสี่ประเทศคือ เวียดนาม ลาว กัมพูชาและพม่าหรือซีเอลเอ็มวี ความร่วมมืออากเม็กส์(องค์กรยุทธศาสร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวะดี–เจ้าพระยา–แม่โขง ประกอบ ด้วย๕ประเทศคือเวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า และไทย ) ความร่วมมือแม่โขง– ญี่ปุ่น ความร่วมมืออนุภูมิภาคแม่น้ำโขงขยายวงค์และความร่วมมืออาเซียน ผ่านกิจกรรมความร่วมมือนี้ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศนับวันยิ่งได้รับการเสริมสร้างและขยายเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศเพื่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

ผลสำเร็จของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าจะช่วยทำนุบำรุงให้ความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างสองประเทศพัฒนาต่อไปตามแนวทาง“เพื่อนบ้านที่ดี มิตรภาพที่มีมาช้านาน ความร่วมมือในทุกด้านอย่างยั่งยืน” มีส่วนร่วมให้แก่การพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของแต่ละประเทศและช่วยให้ทั้งสองประเทศร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆสร้างสรรค์ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้เป็นผลสำเร็จในปี๒๐๑๕ตามเป้าหมายที่วางไว้./.