 ภาพพิธีเปิดเทอมปีการศึกษาระยะสั้นสำหรับผู้บัญชาการทหาร |
ในบรรยากาศห้องเรียนที่กว้างขวางและทันสมัยที่สถาบันกลาโหม ณ กรุงฮานอย นักเรียนนายร้อยของกองทัพกัมพูชา 18 นายกำลังรับฟังพันเอก เหงวียนโห่งเติ๊น รองคณบดีคณะกิจการพรรค อธิบายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การทหารเวียดนามอย่างตั้งใจ ซึ่งเป็นหลักสูตรอบรมระยะสั้นสำหรับผู้บังคับบัญชาและที่ปรึกษาขั้นสูงด้านการรณรงค์และยุทธศาสตร์รุ่นที่ 20 สำหรับนักเรียนนายร้อยกัมพูชา พลโท Mork Chan Vireak รองผู้บัญชาการ หัวหน้าฝ่ายเทคนิค กองบัญชาการกองทัพบกกัมพูชา ได้เผยว่า การที่ได้มาศึกษาวิจัยที่เวียดนามถือเป็นโอกาสอันดีเพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
“ทางสถาบันฯ ได้ให้การดูแลเอาใจใส่และอำนวยความสะดวกแก่นักเรียนนายร้อยกัมพูชา นอกเหนือจากเวลาในห้องเรียนแล้ว พวกเราได้มีโอกาสไปทัศนศึกษาเกี่ยวกับงานด้านการสั่งการและให้คำปรึกษาทุกระดับที่หน่วยงานบางแห่งของกองทัพเวียดนาม โดยเนื้อหาต่างๆ ที่เฉพาะเจาะจงยังมีความเชื่อมโยงกับสถานการณ์จริงและความต้องการด้านการศึกษาของหน่วยงานของพวกเรา ซึ่งมีความหมายต่อการปฏิบัติงานของพวกเราในอนาคตเป็นอย่างมาก”
จากการดำเนินนโยบายของกระทรวงกลาโหมตั้งแต่ปี 2000 สถาบันกลาโหมได้มีการฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่กองทัพบกกัมพูชาราว 300 คน พลตรี เหงวียนดิ่งด๋าน รองผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาสังกัดกองให้คำปรึกษา เผยว่า กลุ่มนักเรียนของกองทัพกัมพูชาได้เรียนรู้ความรู้ขั้นพื้นฐานและความรู้ทางวิชาการต่าง ๆ รวมทั้งอัพเดทข้อมูลต่างๆ ซึ่งมีส่วนช่วยพัฒนาความรู้ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์และความเป็นผู้นำ ความสามารถในการบังคับบัญชาและการบริหารกลยุทธ์ เพื่อตอบโจทย์ภารกิจสร้างสรรค์กองทัพกัมพูชาในยุคใหม่
“ฝ่ายการศึกษาได้มีการประสานงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงกลาโหม รวมถึงสถาบันและโรงเรียนหลายแห่ง ในการจัดตั้งเป้าหมายต่างๆ ด้านการฝึกอบรมเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้เรายังเตรียมพร้อมอาคาร ห้องเรียน สนามฝึกซ้อม ห้องอาหารและที่พัก ให้แก่นักเรียนทุกคน”
ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาและฝึกอบรมของทั้งสองประเทศได้มีการส่งเสริมความร่วมมือในการฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ชีววิทยา การแพทย์ ปศุสัตว์ การบริหารจัดการ บัญชี ธุรกิจ วิศวกรรม และการก่อสร้าง อย่างต่อเนื่อง โดยคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกียนยางได้ปฏิบัติภารกิจการฝึกอบรมและพัฒนาแหล่งทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพสูงสำหรับพื้นที่เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงและจังหวัดเกียนยาง รวมถึงการฝึกอบรมนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งในปัจจุบัน ทางมหาวิทยาลัยมีนักเรียนชาวลาว กัมพูชา และอินโดนีเซีย กว่า 60 คน โดยในช่วงปลายปีการศึกษา 2022-2023 มีนักศึกษาชาวกัมพูชา 20 คน และนักศึกษาชาวลาว 3 คน ที่สำเร็จการศึกษาเป็นรุ่นแรก ซึ่งทุกคนต่างมีงานทำทั้งหมด นาย Mok Vanneth นักศึกษาชาวกัมพูชาที่สำเร็จการศึกษาเกียรตินิยมอันดับสอง สาขาเทคโนโลยีวิศวกรรมก่อสร้าง และกำลังทำงานที่ฝ่ายการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพของบริษัทผลิตยางแห่งหนึ่งของเวียดนามในกัมพูชา เผยว่า
“ในช่วงที่ศึกษาที่มหาวิทยาลัยฯ ผมได้รับความช่วยเหลือและการอำนวยความสะดวกในด้านการศึกษาและการใช้ชีวิตจากเหล่าคณาจารย์ โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยทางมหาวิทยาลัยมีโครงสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบถ้วนและพร้อมเพรียง เพื่ออำนวยความสะดวกทุกอย่างให้แก่พวกเราเมื่อไปเรียนไกลบ้าน อีกทั้งมีการจัดกิจกรรมดูแลนักเรียนชาวต่างชาติในช่วงวันหยุดเทศกาลหรือตรุษเต๊ดปีใหม่ พร้อมให้ความช่วยเหลือนักเรียนในยามยากลำบาก”
 ด็อกเตอร์ เหงวียนต๊วนแค้ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกียนยาง |
ด็อกเตอร์ เหงวียนต๊วนแค้ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกียนยาง เผยว่า การฝึกอบรมนักเรียนชาวต่างชาติมีบทบาทที่สำคัญเป็อย่างมากในด้านการต่างประเทศ ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมโยงและกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างเวียดนามกับประเทศต่างๆ รวมถึงจังหวัดเกียนยางกับกลุ่มจังหวัดชายแดนของกัมพูชา
“ในเวลาข้างหน้า ทางมหาวิทยาลัยจะยังคงมีกิจกรรมสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่มจังหวัดชายแดนของกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง พร้อมประสานงานกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆเพื่อรับสมัครและมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวนสำหรับกลุ่มนักศึกษาที่มีความประสงค์สมัครเข้าเรียนสาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและเกษตรกรรม”
ทั้งนี้ นอกจากสถาบันกลาโหมและมหาวิทยาลัยเกียนยางแล้ว ยังมีสถาบันการศึกษาของเวียดนามอีกหลายแห่งที่เปิดรับสมัครนักเรียนและนักศึกษาชาวกัมพูชา เช่น มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคฮานอย มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์แห่งชาติ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์และเภสัชศาสตร์ท้ายบิ่งห์ เป็นต้น ซึ่งมีส่วนร่วมต่อขบวนการสร้างสรรค์และพัฒนาของประเทศกัมพูชา อีกทั้งยังเป็นสะพานเชื่อมความสามัคคีและสัมพันธไมตรีที่ยาวนานระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา ./.