นาย โมนาส ตาโจโน ตัวแทนของเอเอสไอทีเอจังหวัดชวาตะวันออกแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆของอินโดนีเซีย |
“สวัสดีครับฮานอย คุณสบายดีไหมครับ
มีใครรู้จักชวาตะวันออกไหมครับ”
เมื่อนาย โมนาส ตาโจโน ตัวแทนของสมาคมบริษัทนำเที่ยวอินโดนีเซียหรือเอเอสไอทีเอจังหวัดชวาตะวันออกพูดจบก็มีคน 4-5 คนด้านล่างเวทียกมือขึ้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะนักท่องเที่ยวเวียดนามส่วนใหญ่รู้จักเกาะบาหลี จึงเลือกไปเที่ยวเกาะนี้เมื่อไปเที่ยวประเทศอินโดนีเซีย ดังนั้นการจัดงานในวันนี้ก็เพื่อแนะนำ “10 New Bali” ให้แก่นักท่องเที่ยวเวียดนาม
“ไฮไลท์ของจังหวัดชวาตะวันออกคือภูเขาไฟโบรโม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าที่งดงาม ใกล้ภูเขาไฟโบรโม่คือปากปล่องภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยน ซึ่งก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอินโดนีเซียเพราะสามารถเห็นลาวาสีเขียวบริเวณปากปล่อง นี่เป็นหนึ่งในภูเขาไฟสองแห่งของโลกที่มีลาวาสีเขียว”
ภูเขาไฟโบรโม่เป็นหนึ่งใน 10 New Bali และเป็นหนึ่งใน 5 ภูเขาไฟที่ยังไม่ดับที่สวยงามที่สุดในโลก จุดเด่นของภูเขาไฟแห่งนี้คือความเป็นธรรมชาติที่เก่าแก่และบริสุทธิ์ ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวประมาณ 1,500 คนมาเที่ยว โดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์มีมากถึง 3,000 คน
ในรายชื่อ “ 10 New Bali” เกาะชวามีสถานที่ 4 แห่ง โดยนอกจากภูเขาไฟโบรโม่แล้ว ยังมีหมู่เกาะเซอริบู ชายหาด ตันจุง เลซุงและบุงโรพุทโร ซึ่งเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ยูเนสโกรับรองให้เป็นมรดกวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ส่วน 6 New Bali ที่เหลือตั้งอยู่บนเกาะอื่นๆ เช่น ทะเลสาบโทบาที่เกาะสุมาตราเหนือ ชายหาด ตันจุง กลายังที่เกาะบังกาเบอลีตุง เกาะวากาโตบิ ทางตะวันออกเฉียงใต้เกาะสุลาเวสี เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นชายหาดที่สวยงามและบริสุทธิ์ พร้อมกับการให้บริการทางทะเลต่างๆ เช่น การดำน้ำ เรือแจวและเรือใบ เป็นต้น สิ่งที่น่าสนใจคือ สถานที่เหล่านี้สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ด้วยเครื่องบิน นาย โมนาส ตาโจโน ตัวแทนของเอเอสไอทีเอเสนอว่า “เราเตรียมโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อย่างเต็มที่ เช่น มีโรงแรม สถานบิน โดยเฉพาะมีร้านอาหารจีนที่อร่อยและรสชาดถูกปากคนเวียดนาม แต่สิ่งที่สำคัญคือ เราต้องประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเวียดนามรับทราบสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ของพวกเรามากขึ้น”
หาหุ้นส่วน |
บริษัทนำเที่ยวเวียดนามหลายแห่งจากจำนวน 30 แห่งที่เข้าร่วมกิจกรรมได้ให้คำมั่นว่า จะร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวต่างๆของอินโดนีเซีย นาง เหวียนเวียดถิดานเฝือง ผู้อำนวยการบริษัทนำเที่ยว Zentour และนาง ฝ่ามมิงห์จาง จากบริษัท Dolfintour เผยว่า “ในอนาคต บริษัทของเราจะแนะนำทัวร์อินโดนีเซียใหม่ๆให้แก่นักท่องเที่ยวเวียดนามมากขึ้นเพราะว่า อินโดนีเซียมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจ จากการเข้าร่วมงานในวันนี้ บริษัทของเราจะมีหุ้นส่วนและไอเดียใหม่ๆเพื่อพัฒนาทัวร์ท่องเที่ยวอินโดนีเซียมากขึ้น”
“ดิฉันรู้สึกพอใจที่ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับทัวร์ใหม่ๆของอินโดนีเซีย ที่เน้นกิจกรรมกลางแจ้งและความเป็นธรรมชาติ ซึ่งแตกต่างกับทัวร์ของบริษัทเรา ดังนั้น ทางบริษัทจะพิจารณาเพื่อจัดทัวร์เหล่านี้”
จำนวนนักท่องเที่ยวเวียดนามที่เดินทางไปเที่ยวอินโดนีเซียนับวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปี 2018 มี 76,000 คน และในระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคมของปี 2019 มี 53,000 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเกาะบาหลียังคงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเวียดนามเลือกไปเยือนมากที่สุด สำหรับเป้าหมายการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ของอินโดนีเซีย นาย อิบนู ฮาดี เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ณ กรุงฮานอยได้เผยว่า “เราอยากส่งเสริมการท่องเที่ยวและมีการพบปะแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนของสองประเทศมากขึ้น ในปี 2019 ทางสถานทูตได้สนับสนุนการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว เช่น การจัดกิจกรรม “ภารกิจด้านการค้า – ประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ 10 แห่งของอินโดนีเซียในกรุงฮานอย” ในวันนี้ ในงานนิทรรศการการท่องเที่ยวนานาชาติเวียดนาม ได้มีการเชิญสื่อมวลชนและ Blogger เข้าร่วมทัวร์ “FamTrips”ไปเที่ยวประเทศอินโดนีเซียและสนับสนุนเครือข่ายความเชื่อมโยง เป็นต้น”
ในเดือนกันยายนนี้ ทางสถานทูตฯจะจัดกิจกรรมเหล่านี้ที่นครโฮจิมินห์ จังหวัดกว๋างนิงห์และจังหวัดเหงะอานเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศอินโดนีเซียและการท่องเที่ยวต่อชาวเวียดนามเพื่อพยายามบรรลุเป้าหมายของรัฐบาลอินโดนีเซียคือต้อนรับนักท่องเที่ยวเวียดนาม 123,000 คนในปี 2019.