(VOVworld) – “อินโดนีเซียเป็นทุกสิ่งที่คุณสามารถจินตนาการได้” และ“อินโดนีเซีย-เป็นจุดหมายปลายทางที่มีอาหารอร่อยๆ” นี่คือหนึ่งในคำขวัญที่ตัวแทนของบริษัทนำเที่ยวอินโดนีเซียเสนอเพื่อแนะนำความงามของประเทศนี้ในการสัมมนาการท่องเที่ยว “Indonesia Toursim Table Top” โดยกระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซียประสานกับสถานทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามจัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เมษายน ณ กรุงฮานอย นี่คือเวทีเพื่อให้สถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวของอินโดนีเซียและบริษัทนำเที่ยวของเวียดนามพบปะ แสวงหาโอกาสความร่วมมือเพื่อผลักดันการพัฒนาการท่องเที่ยว
ผู้แทนที่เข้าร่วมการสัมมนา
|
“สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ Febriana วันนี้ ดิฉันขอแนะนำเกี่ยวกับประเทศอินโดนีเซียให้ทุกคนได้รู้จัก มีใครเคยไปเที่ยวอินโดนีเซีย เกาะบาหลี กรุงจาการ์ตา จอกจาร์กาตาหรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในประเทศอินโดนีเซียบ้างไหมคะ”
ซึ่งผู้เข้าร่วมการสัมมนาบางคนได้ตอบคำถามของนาง Febriana Budiman ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวของอินโดนีเซียว่า เคยเดินทางไปเที่ยวเกาะบาหลี นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกใจ เพราะเกาะบาหลีถือเป็นแดนสวรรค์แห่งการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกมานาน แต่นอกจากเกาะบาหลีแล้ว อินโดนีเซียยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ เช่นชายหาดและภูเขาที่สวยงาม วัฒนธรรมที่หลากหลาย วิถีชีวิต แหล่งชอปปิ้งที่คึกคัก รวมถึงอาหารการกินที่หลากหลายทั้งร้านอาหารริมฟุตบาท ร้านกาแฟและร้านอาหารหรูหราหลายแห่ง
ผู้แทนของบริษัทนำเที่ยว 15 แห่งจากเกาะบาหลี จาการ์ตา จอกจาการ์ตาและบันดุงมีเวลา 3 นาทีเพื่อแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่บริษัทกำลังให้บริการ นาง Hanny ตัวแทนบริษัท Riztour Indowisata ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมือง Batam และนาง Bernadette Jane หัวหน้าฝ่ายบริหารบริษัท The Sun Explorer ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงจาการ์ตาได้เผยว่า“จากสิงคโปร์มีเที่ยวบินตรงไปยัง Batam ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง นอกจากนั้น Batam ยังใกล้มาลาเซีย ดังนั้น ใน
แพคเกจทัวร์ คุณสามารถเดินทางไปเที่ยว Batam มาเลเซียและสิงคโปร์ ที่ Batam มีวัดพุทธ สะพาน Barelang ที่เชื่อมเกาะ 3 แห่ง และชายหาดที่สวยงาม โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ “หมู่บ้านเวียดนาม” ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเวียดใน Batam ในอดีต”
“ดิฉันมีหน้าที่อธิบายให้หุ้นส่วนเวียดนามเข้าใจว่า ที่อินโดนีเซียยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เพราะเมื่อก่อนพวกเขามักจะถามเกี่ยวกับกรุงจาการ์ตาหรือเกาะบาหลีเท่านั้น ยังมีหลายคนที่รู้สึกแปลกใจเมื่อดิฉันแนะนำให้พวกเขาลองไปเที่ยวเกาะ Komodo สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่สวยงามและเป็นที่อาศัยของมังกรโคโมโด ต่อจากนั้นคือเมืองจอกจาการ์ตาและ Bromo ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงามของพระอาทิตย์ตกและยามรุ่งอรุณ ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกดีใจและแปลกใจ ดิฉันรู้สึกยินดีที่ได้แนะนำความงามของอินโดนีเซียให้พวกเขารับทราบ”
นาย Pupung Thariq Fadhillah รองอธิบดีกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอินโดนีเซียกล่าวปราศรัยในการสัมมนา
|
หลังการสัมมนาที่มีขึ้นเป็นเวลา 2 ชั่วโมง หุ้นส่วนด้านการท่องเที่ยวเวียดนามได้ให้คำมั่นที่จะร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวของอินโดนีเซีย และพวกเขาต่างรู้สึกดีใจ ส่วนนาง ฝ่าม มาย เฟือง รองหัวหน้าแผนก Outbound และ inbound ของบริษัทนำเที่ยวนานาชาติกิมเลียนได้เผยว่า“การสัมมนาวันนี้ดีมาก เพราะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะผ่านโครงการนี้ พวกเรายังได้รับทราบสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่นอกเหนือจากเกาะบาหลีและการให้บริการในสถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าว นี่คือมาตรฐานเพื่อให้พวกเราจัดทำทัวร์และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเวียดนามเดินทางไปเที่ยวอินโดนีเซียมากขึ้น”
แต่ปัจจุบัน ยังมีอุปสรรคบางอย่างในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ ดังนั้น จำนวนนักท่องเที่ยวอินโดนีเซียที่เดินทางมาเที่ยวเวียดนามและนักท่องเที่ยวเวียดนามที่เดินทางไปเที่ยวอินโดนีเซียในปี 2016 จึงอยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นคนเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อย คือคิดเป็นร้อยละ 0.05 ของจำนวนประชากรเวียดนามเท่านั้น ในการอธิบายเกี่ยวกับอุปสรรคในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเวียดนามไปเที่ยวอินโดนีเซีย นาย Pupung Thariq Fadhillah รองอธิบดีกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอินโดนีเซียได้เผยว่า “เวียดนามเป็นตลาดที่มีศักยภาพ อุปสรรคข้อหนึ่งคือเส้นทางบินตรงจากเวียดนามไปยังเมืองต่างๆของอินโดนีเซีย โดยปัจจุบันมีแค่เที่ยวบินตรงจากนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนามไปยังกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียของสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์เท่านั้น พวกเราหวังว่า ปีนี้สายการบิน Vietjet air จะเปิดให้บริการเส้นทางบินตรงระหว่างสองประเทศ”
ตามรายงานของสถานกงสุลใหญ่อินโดนีเซียประจำนครโฮจิมินห์ ในเดือนกันยายนนี้ Vietjet air มีแผนการเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างกรุงฮานอยไปยังกรุงจาการ์ตา ซึ่งเป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับบริษัทนำเที่ยวของอินโดนีเซียและเวียดนาม ในขณะที่รอเปิดเส้นทางบินนี้ ทั้งสองฝ่ายยังคงผลักดันกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ส่วนการสัมมนา “Indonesia Tourism Table Top” ในเวียดนามจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี.