สมาชิกสมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมใส่ชุดอ๊าวหย่ายในวันงานที่สำคัญต่างๆ(Photo:สมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนม)
|
ในพิธีรำลึกครบรอบ 60 ปีหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ที่ถูกจัดขึ้น ณ จังหวัดนครพนม บรรดาสมาชิกของสมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมในชุดอ๊าวหย่ายร่วมกันร้องเพลงเวียดนามและแสดงการระบำรำฟ้อนของเวียดนาม ทุกคนต่างรู้สึกภูมิใจและซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากเมื่อได้ร้องเพลงของเวียดนาม นี่เป็นวิธีการอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมของเวียดนามที่บรรดาสมาชิกสมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมปฏิบัติในโอกาสวันงานสำคัญต่างๆของเวียดนาม เช่น วันชาติ 2 กันยายน วันคล้ายวันเกิดของประธานโฮจิมินห์ 19 พฤษภาคม เป็นต้น นาย เวืองวันชิ้ง ที่ปรึกษาของสมาคมฯได้เผยว่า
“ ในวันงานสำคัญฯ บรรดาสมาชิกของสมาคมฯจะใส่ชุดประจำชาติอ๊าวหย่าย แสดงการระบำรำฟ้อนและร้องเพลงต่างๆของเวียดนาม ชาวไทยเชื้อสายเวียดนามหลายรุ่นจะพูดคุยกัน ส่งเสริมให้คนรุ่นหลังมุ่งใจสู่ปิตุภูมิ ในเทศกาลตรุษเต๊ตตามประเพณี ชาวไทยเชื้อสายเวียดนามก็ยังคงอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีของเวียดนาม เช่น การห่อขนมแบ๊งจึงหรือขนมข้าวต้มมัดใหญ่ การเตรียมถาดผลไม้ 5 อย่างเพื่อเซ่นไหว้บรรพบุรุษ บรรดาสมาชิกของสมาคมฯก็เดินทางไปเยือนและอวยพรตรุษเต๊ตผู้สูงอายุ”
ชั้นเรียนภาษาเวียดนามให้แก่ชาวไทยเชื้อสายเวียดนามรุ่นหลัง |
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมพื้นเมืองคือการสอนภาษาเวียดนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางสมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมให้ความสนใจเป็นพิเศษ ด้วยความประสงค์ว่า ชาวไทยเชื้อสายเวียดนามรุ่นหลังจะรู้ภาษาเวียดนาม ทางสมาคมฯได้เปิดชั้นเรียนภาษาเวียดนามให้แก่เด็กที่มีอายุ 10 -15 ปีและรณรงค์ให้ครอบครัวต่างๆพาลูกหลานเข้าร่วมชั้นเรียนที่จัดขึ้นสัปดาห์ละ 2 วันที่สอนโดยอาจารย์ที่เป็นชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม นาย เจิ่นวันเสา นายกสมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมได้เผยว่า
“ เด็กๆชอบไปเรียนเพราะจะมีโอกาสพบปะกับเพื่อนๆและได้เรียนภาษาเวียดนาม เมื่อเข้าร่วมชั้นเรียน เด็กๆไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน ได้รับหนังสือและปากกาฟรี พวกเรายังเตรียมของ เช่น ขนมและลูกอมเพื่อดึงดูดให้เด็กไปเรียนด้วย”
ตามคำเชิญของสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-ไทยสาขาจังหวัดเหงะอาน นาย เจิ่นวันเสา นายกสมาคมฯได้เข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 92 ปีวันชาติไทย 5 ธันวาคมในจังหวัดเหงะอาน (Photo: สมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนม) |
สมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมได้รับการจัดตั้งเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนปี 2008 ในช่วงแรก สมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมมีสมาชิก 10 คนเท่านั้น ซึ่งเป็นชาวเวียดนามที่ย้ายมาพำนักอาศัยในประเทศไทยเมื่อปี 1945 และปี 1946 ภายหลังดำเนินงานมาเป็นเวลา 11 ปี จนถึงขณะนี้ จำนวนสมาชิกของสมาคมฯได้เพิ่มขึ้นเป็น 1643 คน ซึ่งสมาชิกที่มีอายุสูงที่สุดคือ 102 ปี ส่วนสมาชิกที่มีอายุน้อยที่สุดคือ 18 ปี ทุกๆเดือน ทางสมาคมฯได้จัดการพบปะสังสรรค์เพื่อให้บรรดาสมาชิกพูดคุยกันด้วยภาษาเวียดนาม ส่งเสริมให้สมาชิกปฏิบัติตามกฎหมายของไทยและให้ความช่วยเหลือจุนเจือกัน ชาวไทยเชื้อสายเวียดนามรุ่นหลังในจังหวัดนครพนมมีความขยันหมั่นเพียรในการเรียนและการทำงาน โดยสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยและทำงานในบริษัทใหญ่ๆ ซึ่งสมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมไม่เพียงแต่เป็นที่พึ่งทางจิตใจเท่านั้นหากยังช่วยเชื่อมโยงชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศไทย สมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมยังจัดกิจกรรมต่างๆที่มุ่งสู่ปิตุภูมิ เช่นในช่วงที่เกิดเหตุน้ำท่วมเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทางสมาคมฯได้บริจาคเงินกว่า 1 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในภาคกลางเวียดนาม สมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมยังรณรงค์บริจาคเงิน 2 แสนบาทเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนภายในประเทศรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 โดยเฉพาะทางสมาคมฯได้ให้ความช่วยเหลือแรงงานเวียดนามเกือบ 100 คนที่ไม่สามารถกลับประเทศได้เพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 นาย เจิ่นวันเสา นายกสมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมได้เผยว่า
“ นอกจากการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายเวียดนามปฏิบัติมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ของทางการไทยแล้ว ทางสมาคมฯได้ให้ความช่วยเหลือแรงงานเกือบ 100 คนในการทำระเบียบการเข้าเมืองและขอความร่วมมือให้ชาวไทยเชื้อสายเวียดนามให้ความช่วยเหลือพวกเขาด้านที่อยู่อาศัย”
สมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมได้มอบแอลกฮอล์ 99.50% จำนวน 4,000 ลิตร รวมมูลค่า 152,000 บาทให้แก่ทางการจังหวัดนครพนม (Photo: สมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนม) |
|
คณะผู้แทนของสมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมมอบเงินจำนวน 50,000 บาทเพื่อสมทบทุนร่วมต้านภัยโควิด -19 แก่สำนักงานกาชาดจังหวัดนครพนม(Photo: สมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนม) |
|
เพื่อสนับสนุนจังหวัดนครพนมในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 สมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมได้มอบแอลกฮอล์ 99.50% จำนวน 4,000 ลิตร รวมมูลค่า 152,000 บาทให้แก่หน่วยงานราชการ ติดตั้งฉากกั้นและเครื่องวัดอุณหภูมิที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม นายนิวัต เจียวินิยะบุญญา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครพนมได้ประเมินเกี่ยวกับส่วนร่วมของสมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมว่า
“ผมก็ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่พี่น้องชาวไทยเชื้อสายเวียดนามและชาวนครพนมได้ร่วมกันพัฒนานครพนม จนกระทั่งนครพนมวันนี้บอกได้เลยว่า นครพนมวันนี้ไม่เหมือนเมื่อวานอีกแล้ว ผมในนามเทศบาลเมืองนครพนม ก็ขอเป็นกำลังส่วนหนึ่งที่อยู่เคียงข้างทุกท่าน”
กิจกรรมต่างๆของสมาคมไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนมได้มีส่วนร่วมไม่น้อยต่อการพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพระหว่างเวียดนามกับไทยและกลายเป็นที่พึ่งทางจิตใจของชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศไทยเพื่อให้พวกเขามีความมั่นใจในการปรับตัวเข้ากับสังคมของไทย.