นายกรัฐมนตรี ฝามมิงชิ้งเยือนโรงงาน CPV Food Binh Phuoc (Photo: binhphuoconline) |
เครือบริษัทซีพีได้เปิดโครงการคอมเพล็กซ์โรงงาน CPV Food Binh Phuoc รวมยอดเงินลงทุน 250ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นโครงการเลี้ยงไก่แปรรูปครบวงจรเพื่อการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอำเภอเจินแถ่ง จังหวัดบิ่งเฟือก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการใหญ่และสำคัญของเครือบริษัทซีพีนับตั้งแต่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม โครงการคอมเพล็กซ์โรงงาน CPV Food Binh Phuoc ประกอบด้วยโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ฟาร์มพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไก่ 5 แห่ง โรงงานฟักไข่ 1 แห่ง ฟาร์มเลี้ยงไก่ 24 แห่งและโรงฆ่าสัตว์ – การแปรรูปไก่ 1 แห่ง ซึ่งส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดอียู สาธารณรัฐเกาหลีและสหรัฐ ภายหลังการประชุมส่งเสริมการค้าและการลงทุนจังหวัดบิ่งเฟือกเมื่อปี 2018 ซีพีเวียดนามได้ปฏิบัติตามคำมั่นที่จะลงทุนโครงการเลี้ยงไก่แปรรูปครบวงจรเพื่อการส่งออกเนื้อไก่ สำหรับสาเหตุที่เครือบริษัทซีพีเลือกจังหวัดบิ่งเฟือกเพื่อปฏิบัติโครงการนี้ นาย ชิโนรส เบญจชวากุล รองกรรมการผู้จัดการด้านทรัพยากรบุคคล ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่นได้เผยว่า
“เรามองว่า จังหวัดบิ่งเฟือกเป็นจังหวัดที่น่าสนใจมากเพราะว่า จังหวัดบิ่งเฟือกเป็นจังหวัดทางตอนใต้ เราเห็นว่า จะมีการจัดการโครงสร้างการผลิต มันต้องมีลักษณะความแน่นอนของภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศ การคมนาคมขนส่งทั้งทางบก ทางเรือและทางอากาศ ฉะนั้น จังหวัดบิ่งเฟือกมีระยะทางที่ไม่ค่อยไกลจากนครโฮจิมินห์ ซึ่งแน่นอนตรงนั้นมีท่าเรือ มีท่าอากาศยาน รวมถึงสนามบินลองแถ่ง คาดว่า จะเปิดทำการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งตรงนี้เองถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพมาก รวมถึงจังหวัดที่มีชายแดนติดกับกัมพูชาด้วยแล้วก็มีการคมนาคมขนส่งที่ค่อนข้างจะสะดวก”
โครงการคอมเพล็กซ์โรงงาน CPV Food Binh Phuoc เป็นหนึ่งใน 21 โครงการของนักลงทุนไทยในเวียดนาม บรรดาสถานประกอบการไทยที่ลงทุนในจังหวัดฯ เช่น เครือบริษัทซีพี เครือบริษัท ThaiFoodและบริษัท Super energy ตามการประเมินของบรรดานักลงทุนไทย ความได้เปรียบของจังหวัดบิ่งเฟือกคือมีพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในเขตตะวันออกภาคใต้ โดยมีพื้นที่กว่า 6,800 ตารางกิโลเมตร ซึ่งถือเป็นความได้เปรียบที่สำคัญในการพัฒนา สำหรับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรม นอกจากเขตนิคมอุตสาหกรรม 13 แห่งที่มีอยู่แล้ว รวมพื้นที่เกือบ 4,700 เฮกตาร์ ทางจังหวัดฯกำลังปรับปรุงการวางผังเพื่อพัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรมและการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม อีกทั้งมีการวางที่วิสัยทัศน์จนถึงปี 2030 จังหวัดบิ่งเฟือกจะมีการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม 40 แห่ง โดยมีพื้นที่ 1,600 เฮกตาร์ นาง ปิยะกุล สุวรรณสัมฤทธิ์ ผู้แทนบริษัท Becamex ในประเทศไทยได้เผยว่า
“ที่ดินของจังหวัดในเมืองใหญ่ๆโดยเฉพาะภาคใต้เวียดนาม เช่น นครโฮจิมินห์ บิ่งเยือง ด่งนาย และหวุงเต่า ราคาก็พุ่งขึ้น แต่ว่าบิ่งเฟือกเป็นทำเลใหม่จึงทำให้ราคาไม่สูงมากนัก ทำให้ผู้ลงทุนไม่ว่าจะเป็นผู้ลงทุนภายในประเทศหรือผู้ลงทุนจากต่างประเทศต่างก็ต้องการหาทำเลใหม่ บิ่งเฟือกกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศทางด้านอุตสาหกรรมให้ความสนใจ พื้นที่ของจังหวัดบิ่งเฟือกอยู่เหนือระดับน้ำทะเลค่อนข้างสูง ไม่ต้องกลัวน้ำท่วมหรือภัยพายุ อันนี้ กี่ปีๆก็ไม่เกิดขึ้น”
การสัมมนาเกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุนของหุ้นส่วนไทยในจังหวัดบิ่งเฟือก (Photo: binhduongonline) |
จังหวัดบิ่งเฟือกกำลังอยู่ในยุคทองด้านประชากรโดยมีแรงงานคิดเป็นกว่าร้อยละ 60 ของประชากรจังหวัดฯ ซึ่งเป็นความได้เปรียบของจังหวัดฯในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเนื่องจากมีแหล่งแรงงานที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ จังหวัดบิ่งเฟือกก็มีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยฝึกสอนอาชีพ ที่จัดสรรแรงงานฝีมือดีให้แก่โรงงานต่างๆ อีกหนึ่งความได้เปรียบที่ดึงดูดนักลงทุนไทยคือนโยบายการดึงดูดการลงทุนและการช่วยเหลือจากทางการท้องถิ่นให้แก่สถานประกอบการต่างชาติ จากแนวทาง “ 2 รวดเร็ว 3 ดี”คือการเวนคืนที่ดินอย่างรวดเร็ว การปฏิบัติระเบียบราชการอย่างรวดเร็ว โอกาสที่ดี นโยบายที่ดีและโครงสร้างพื้นฐานที่ดี การขอใบอนุญาตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติได้รับการดำเนินการอย่างรวดเร็ว สำหรับการประเมินประสิทธิภาพการช่วยเหลือของทางการท้องถิ่น นาย ชิโนรส เบญจชวากุล รองกรรมการผู้จัดการด้านทรัพยากรบุคคล ซี.พี.เวียดนามคอร์ปอเรชั่นได้เผยว่า
“ จังหวัดบิ่งเฟือกได้มีนโยบายเชิญชวนนักลงทุน รวมถึงการรับฟังนักลงทุน สิ่งที่เราจะกล่าวถึงและขอบคุณจังหวัดฯว่า ผู้บริหารจังหวัดฯให้ความสนใจว่า ในช่วงโควิด โรงงานของเรายังสร้างไม่เสร็จ จังหวัดฯก็พยายามผลักดันมาตรการต่างๆ รวมถึงมาตรการการนำผู้เชี่ยวชาญเข้ามาในช่วงนั้นอีก ภายใต้สถานการณ์ล็อกดาวน์แต่เราก็สามารถจัดเที่ยวบินเข้ามาได้ ผู้เชี่ยวชาญจาก 9 ประเทศเข้ามาติดตั้งเครื่องจักร มา training ให้กับพนักงานของเรา ผู้นำจังหวัดให้ความสำคัญมาก ถ้าหากบริษัทเราติดขัดอะไร ซีพีเวียดนามได้รับความช่วยเหลือจากทางจังหวัดฯ อยู่เสมอ ถ้ามีปัญหาก็สามารถปรึกษาทางจังหวัดฯได้ ถือว่า โควิด -19 ไม่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการธุรกิจซีพีในจังหวัดบิ่งเฟือก”
จากจุดแข็งเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและพร้อมเพรียง บรรยากาศการลงทุนที่โปร่งใสและนโยบายให้สิทธิพิเศษด้านการลงทุนที่น่าสนใจ ควบคู่กับคำมั่นปฏิบัติระเบียบราชการในด้านการลงทุนอย่างรวดเร็ว เน้นงานด้านสวัสดิการสังคมให้แก่แรงงาน จังหวัดบิ่งเฟือกตั้งเป้าไว้ว่า จะดึงดูดนักลงทุนไทยให้เข้ามาลงทุนในจังหวัดฯมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ถูกระบุในคำกล่าวของนาง เจิ่นเตวเหี่ยน ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบิ่งเฟือก
“ผู้บริหารจังหวัดบิ่งเฟือกถือความสำเร็จของสถานประกอบการเป็นความสำเร็จของจังหวัด จากการที่มี 4 พื้นฐานที่ดี ได้แก่โครงสร้างที่ดี แหล่งบุคลากรที่ดี นโยบายที่ดี การบริการสาธารณะที่ดี จังหวัดบิ่งเฟือกยินดีต้อนรับนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนไทยที่มาศึกษาในจังหวัดฯ ทางจังหวัดฯให้คำมั่นที่จะเดินพร้อม รับฟังและแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการ เอื้อให้แก่สถานประกอบการไทยในการลงทุนและผลิตในจังหวัดบิ่งเฟือก”.