นายสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว

ประเทศลาวได้เลือกหัวข้อ “อาเซียนส่งเสริมความเชื่อมโยงและการพึ่งตนเอง” เพื่อสานต่อความสำเร็จที่ได้บรรลุจากปี 2023 คือ “อาเซียนที่มีความสำคัญในฐานะศูนย์กลางการเจริญเติบโต” โดยทางการลาวได้กำหนดว่า ในปี 2024 อาเซียนยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายและปัญหาสำคัญมากมายในระดับภูมิภาค ดังนั้น ต้องมีความสามัคคีและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดภายในกลุ่ม เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาต่างๆ พร้อมการมีเสียงพูดเดียวกัน เพื่อภูมิภาคอาเซียนที่สามารถพึ่งตนเองได้ โดยระบุถึงความท้าทายที่สำคัญต่างๆ ได้แก่ การแก้ไขผลกระทบจากการแข่งขันของกลุ่มประเทศมหาอำนาจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและสร้างอาเซียนที่เป็นเอกภาพเพื่อเป็นภูมิภาคแห่งความร่วมมือที่ปราศจากการแบ่งแยกหรือความขัดแย้ง ในการกล่าวปราศรัยในพิธีรับตำแหน่งประธานอาเซียนจากอินโดนีเซีย นายกรัฐมนตรีลาว สอนไซ สีพันดอน ได้ยืนยันว่า

“ประเทศลาวรู้สึกภูมิใจที่ได้ดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปี 2024 ซึ่งพวกเราได้สานต่อผลสำเร็จต่างๆ ในปีประธานาธิบดีอินโดนีเซีย 2023 และปีก่อนๆ อีกด้วย พวกเราจะให้ความสำคัญมากขึ้นต่อการเสริมสร้างประชาคมอาเซียน รวมถึงความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนต่างๆ ส่งเสริมความเชื่อมโยง เปิดรับโอกาสใหม่ๆ รับมือความท้าทายและความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ตามสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ”

นายกรัฐมนตรีลาวยังได้ระบุว่า ทางการลาวจะมีการประสานงานร่วมกับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อแสวงหาการสนับสนุนและความเห็นพ้องในแต่ละประเด็นและหัวข้อ  เพื่อสามารถเป็นผู้ประสานในการประชุมอาเซียนแต่ละรอบให้สำเร็จ อีกทั้งจัดการทาบทามความคิดเห็น ชี้นำ และแนะแนวกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานและจัดทำเนื้อหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในภูมิภาค จากประสบการณ์การดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนเมื่อปี 2004 และ 2016 ประเทศลาวได้สร้างความประทับใจด้วยผลสำเร็จต่างๆ อันงดงาม โดยปี 2004 เป็นการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนครั้งแรกของลาวหลังจากเข้าเป็นสมาชิกประชาคมอาเซียนเมื่อปี 1997

ในที่ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 10 ปี 2004 บรรดาผู้นำอาเซียนได้ลงนามแผนปฏิบัติการเวียงจันทน์และกรอบความตกลงว่าด้วยการบูรณาการในด้านที่ประชาคมอาเซียนให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เห็นชอบแผนปฏิบัติการประชาคมความมั่นคงอาเซียนและแผนปฏิบัติการประชาคมสังคมและวัฒนธรรม เพื่อปฏิบัติตามปฏิญญาว่าด้วยความร่วมมืออาเซียน 2 มุ่งสู่การจัดตั้งประชาคมอาเซียน เมื่อปี 2016 ในการดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนอาเซียนครั้งที่สอง ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นปีแรกของการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเท่านั้น แต่ยังมีความหมายที่สำคัญต่อการปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2025 ดังนั้น ทางการลาวได้เลือกหัวข้อหลักให้แก่ปีประธานดังกล่าวคือ “แปรวิสัยทัศน์ให้เป็นการปฏิบัติจริงเพื่อประชาคมอาเซียนที่คล่องตัว”

ส่วนนายสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว ได้ยืนยันว่า  ภายหลังการเป็นสมาชิกอาเซียนในตลอด 26 ปีที่ผ่านมา ประเทศลาวได้มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันต่อกิจกรรมต่างๆ พร้อมการเสริมสร้างบทบาทของตนในระดับภูมิภาคและโลก

“สปป.ลาว ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากต่อบทบาทของอาเซียนและพวกเรารู้สึกภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหญ่อาเซียน ในตลอด 26 ปีที่ผ่านมา พวกเราได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของอาเซียนอย่างแข็งขันและมีความรับผิดชอบ ผมอยากยืนยันอีกครั้งถึงคำมั่นของลาวเกี่ยวกับความพร้อมที่จะร่วมมือกับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียและพันธมิตรนอกกลุ่มอย่างใก้ลชิด เพื่อเสริมสร้างสถานะและบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในโครงสร้างภูมิภาคและโลก”

ทั้งนี้ จากประสบการณ์ที่ได้ดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนสองครั้ง ตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ทางการลาวได้มุ่งเน้นเรื่องการเตรียมงาน ได้แก่ การจัดตั้งคณะอนุกรรมการ 14 คณะที่รับผิดชอบเรื่องที่พัก สถานที่จัดการประชุม พาหนะรับส่งบรรดาผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงบรรดาผู้แทนและสื่อมวลชน งานด้านบุคคล งบประมาณ และการประชาสัมพันธ์ เป็นต้น การที่ ประเทศลาวจะดำรงตำแหน่งประธานหมุนเวียนอาเซียนวาระหนึ่งปีอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2024  ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ที่ดำรงตำแหน่งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ไม่เพียงแค่ช่วยเสริมสร้างบทบาทและสถานะของลาวในภูมิภาคและบนเวทีโลกเท่านั้น แต่ยังมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ภาพลักษณ์ของประเทศและประชาชนชาวลาวสู่สายตาเพื่อนมิตรต่างประเทศอีกด้วย.