ผลเอก ฟานวันยาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนามกล่าวปราศรัยในการพบปะ (qdnd)

“พรรค รัฐ ทหาร และประชาชนลาว มีความตระหนักอย่างลึกซึ้งว่า บนผืนแผ่นดินอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราตั้งแต่เหนือจรดใต้นั้นเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและเลือดเนื้อของทหารปฏิวัติของทั้งสองประเทศในภารกิจการต่อสู้เพื่อกอบกู้เอกราชของประเทศลาว ไม่สามารถนับได้ว่า ทหารปฏิวัติของทั้งสองประเทศต้องเดินผ่านลำธารและแม่น้ำกี่สาย ภูเขากี่ลูก เพื่อร่วมกันต่อสู้กับศัตรู”

นี่คือความรู้สึกของพลเอก Chansamone Chanyalath รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลาว ได้กล่าวไว้ในพิธีรำลึกครบรอบ 75 ปีวันก่อตั้งทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเวียดนามที่ช่วยเหลือการปฏิวัติลาว ซึ่งตรงกับวันที่ 30 ตุลาคม ณ กรุงฮานอย โดยบรรดาอดีตทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเวียดนามที่ช่วยเหลือการปฏิวัติลาวได้เล่าเรื่องราวความทรงจำในช่วงต่อต้านลัทธิล่าอาณานิคมของฝรั่งเศสที่ทหารอาสาเวียดนามได้ปรากฏอยู่ทั่วทุกสนามรบในประเทศลาว ตั้งแต่เมืองซำเหนือ แขวงเชียงขวาง ไปจนถึงแขวงพงสาลี ซึ่งพวกเขาได้ร่วมต่อสู้ แบ่งปันประสบการณ์ ฝึกฝนกองกำลังติดอาวุธของลาว และสร้างฐานทัพหลายแห่งให้มั่นคง หรือในสงครามต่อต้านสหรัฐ ทหารอาสาเวียดนามได้ให้การสนับสนุนกองกำลัง ประเทศลาว ในยุทธนาการครั้งใหญ่ เช่น ยุทธนาการปลดปล่อยทุ่งไหหิน – แขวงเชียงขวาง ที่เป็นส่วนสำคัญต่อชัยชนะปี 1975 พลเอก ฟานวันยาง สมาชิกกรมการเมือง รองประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนาม เผยว่า

“ทุกชัยชนะ ผลสำเร็จ และความเสียสละของทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเวียดนามได้ฝากความรู้สึกลึกซึ้งและความเคารพนับถือเป็นพิเศษไว้ในหัวใจของประชาชนทุกชนชาติของลาว ดั่งเหมือนคำชื่นชมของผู้นำพรรค รัฐ และประชาชนลาว ว่า บนผืนแผ่นดินลาว ไม่มีสถานที่ใดที่ไม่มีรอยเท้าของกองทัพทหารอาสาเวียดนาม ไม่มีชัยชนะไหนที่ไม่มีการเสียสละเลือดเนื้อของทหารอาสาเวียดนาม”

ยิ่งไปกว่านั้น ทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเวียดนามยังให้ความช่วยเหลือในกระบวนการสร้างสรรค์ประเทศ ด้วยโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล สถานีอนามัย ระบบชลประทาน และคมนาคมขนส่ง ซึ่งพวกเขาเป็นทั้งทหาร วิศวกร แพทย์ และอาจารย์ – ผู้เป็นเพื่อนสนิทที่ทุ่มเทช่วยเหลือประเทศลาวสุดหัวใจมาโดยตลอด นอกจากนี้ เวียดนามยังส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรไปยังไปประเทศลาว เข้าถึงพื้นที่ชนบททุรกันดารของลาว เพื่อช่วยชาวบ้านทำการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ สร้างความมั่นคงด้านอาหารและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ ในขณะที่บรรดาแพทย์และพยาบาลเวียดนามได้ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อนำความรู้และทักษะทางการแพทย์สมัยใหม่มาช่วยชาวลาวป้องกันและรักษาโรค ด้วยความช่วยเหลืออย่างจริงใจเหล่านั้น ทำให้ทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเวียดนามได้รับความรักใคร่อันล้นเหลือจากประชาชนลาว พลเอก Chansamone Chanyalath รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลาว เผยว่า

“ถึงแม้เวลาผ่านไปหลายสิบปีแล้ว และทั้งสองประเทศได้ร่วมกันสร้างระบอบสังคมนิยมมามากกว่า 40 ปี แต่พรรค รัฐบาล และประชาชนลาวยังคงจดจำและสำนึกในบุญคุณจากการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของกองทัพประชาชนเวียดนามต่อกระบวนการปฏิวัติของประเทศลาว ซึ่งจะไม่มีวันจางหายไปและตราตรึงอยู่ในหัวใจของชาวลาวตลอดกาล พวกเราสัญญาว่า ในทุกช่วงเวลาหรือสถานการณ์ใด พรรค รัฐบาล กองทัพ และประชาชนลาวจะร่วมกับพรรค รัฐบาล กองทัพ และประชาชนเวียดนาม ทำนุบำรุงและเสริมสร้างความสัมพันธ์พิเศษระหว่างทั้งสองประเทศให้คงอยู่ยั่งยืนต่อไป อันเป็นสิ่งคู่ควรแก่การเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเวียดนามที่ปฏิบัติภารกิจในสปป.ลาว”

พลเอก ฟานวันยาง พลเอก Chansamone Chanyalath และบรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการพบปะ (qdnd)

การปรากฏตัวและการมีส่วนร่วมของทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเวียดนามในประเทศลาวไม่เพียงแค่เป็นการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น แต่ยังเป็นภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์มิตรภาพและความสามัคคีพิเศษ ซึ่งนับวันแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น พร้อมเปิดโอกาสมากมายในการพัฒนาอย่างครอบคลุมให้แก่ทั้งสองฝ่ายเนื่องจากการสนับสนุนของรัฐบาลทั้งสองประเทศ ทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเวียดนามในประเทศลาวหลายต่อหลายรุ่นไม่ได้เพียงแค่เสร็จสิ้นภารกิจของชาติ แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ที่สวยงามเกี่ยวกับมิตรภาพและความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องอันใกล้ชิดกับประชาชนประเทศเพื่อนบ้าน พลโท เหงวียนดึ๊กเซิน รองหัวหน้าคณะกรรมการประสานงานแห่งชาติกลุ่มอดีตทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเวียดนามในสปป.ลาว ได้ยืนยันว่า

“ไม่มีกองทัพต่างชาติใดที่ได้รับความรักใคร่ ความเอาใจใส่ และการสนับสนุนจากประชาชนของประเทศเจ้าบ้านเท่ากับทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเวียดนาม สำหรับพรรค รัฐ ประชาชน และกองกำลังติดอาวุธของลาว พวกเราไม่เพียงแค่เป็นสหายที่ร่วมสู้รบในสนามรบ แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือการเป็นเหมือนลูกหลานพี่น้องในครอบครัว ซึ่งพวกเราช่วยเหลือเพื่อนบ้านด้วยจิตใจของการเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันอย่างยาวนาน เหมือนเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน มีรากฐานอยู่ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีน และมีศัตรูเดียวกัน ให้ความช่วยเหลือโดยไม่มีเงื่อนไข บริสุทธิ์ใจ ให้ความเคารพและรักใคร่ ไม่มีความเห็นแก่ตัวใดๆ”