(VOVWorld) – การประชุมรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอาเซียน ครั้งที่๗ หรือADMM-7 ในระหว่างวันที่๖ถึงวันที่๗เดือนนี้ ณ กรุงบันดาร์ เสรี เบกาวัน ประเทศบรูไนได้เสร็จสิ้นลงด้วยผลสำเร็จอย่างงดงาม โดยมีข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมและยืนยันอีกครั้งถึงความตั้งใจของอาเซียนที่จะรักษาบรรยากาศแห่งสันติภาพ และเสถียรภาพเพื่อการพัฒนาและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคและแต่ละประเทศสมาชิก
|
บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอาเซียน ครั้งที่๗ (Photo: baomoi.com) |
ที่ประชุมได้อนุมัติเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องถึงการวางโครงการพบปะแลกเปลี่ยนด้านการป้องกันประเทศระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน กรอบความช่วยเหลือโลจิสติกประเทศสมาชิกอาเซียน จัดตั้งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญของการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนขยายวงค์หรือADMM+เกี่ยวกับการเก็บกู้วัตถุระเบิดเพื่อมนุษยธรรมและอนุมัติแถลงการณ์ร่วม“ร่วมกันปกป้องประชาชนและอนาคตของพวกเรา” ต่อสถานการณ์ของภูมิภาคและโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการแข่งขันทางด้านยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศใหญ่ๆได้สร้างโอกาสและความท้าทายให้แก่ประเทศต่างๆในภูมิภาค รวมทั้งอาเซียน ดังนั้น การขยายความสามัคคีและความร่วมมือเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของอาเซียนโดยให้ความสำคัญต่อความร่วมมือกับประเทศใหญ่ๆ เช่น จีนและสหรัฐซึ่งเป็นสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกได้ส่งผลดีต่อสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคซึ่งเป็นจิตสำนึกของทุกประเทศสมาชิกอาเซียนในการประชุมADMM-7 นอกจากการผลักดันความร่วมมือด้านความมั่นคงแบบใหม่แล้ว ที่ประชุมครั้งนี้ยังวางมาตรการร่วมมือที่เป็นรูปธรรมต่างๆ เช่น ขยายความร่วมมือและจัดตั้งโทรศัพท์สายด่วนระหว่างกองทัพเรือประเทศสมาชิก อาเซียน จัดการลาดตระเวณร่วมทางทะเลและการพบปะสังสรรค์ระหว่างเหล่าทหารเรือประเทศสมาชิกอาเซียน ในฐานะประเทศที่ได้เสนอความคิดให้จัดการพบปะสังสรรค์ระหว่างกองทัพเรือประเทศสมาชิกอาเซียนครั้งแรกปี๒๐๑๒ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม พันเอกĐỗ Minh Thái รองเสนาธิการใหญ่กองทัพเรือเวียดนามกล่าวว่า“กิจกรรมนี้มีส่วนร่วมขยายสัมพันธไมตรี สันติภาพ ความเข้าใจกันระหว่างกองทัพเรือประเทศต่างๆและสร้างพื้นฐานเพื่อให้กองทัพเรือประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในการต่อต้านโจรสลัด การค้าของเถื่อน การลักลอบค้ามนุษย์ การค้นหาและกู้ภัย ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เกิดความเข้าใจผิดหรือปะทะกันในทะเล จะสามารถแสวงหามาตรการแก้ไขอย่างสมเหตุสมผล” ต่อสถานการณ์ในทะเลตะวันออกที่กำลังมีความซับซ้อน ที่ประชุมADMM-7 ได้เสนอให้ลงนามข้อตกลงไม่ใช้อาวุธก่อนในกรณีต่อการพิพาทอธิปไตยเหนือน่านน้ำ โดยเฉพาะ ประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีกองกำลังประจำการบนหมู่เกาะTrường Sa หรือเสปรตลีซึ่งจะเป็นพื้นฐานเพื่อมุ่งสู่การปฏิบัติข้อตกลงระดับสูงเพื่อขยายสันติภาพ เสถียรภาพ ลดความตึงเครียดและการเผชิญหน้าในภูมิภาค พลเอก Phùng Quang Thanh รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเวียดนามได้กล่าวว่า“พวกเราต้องร่วมกันพยายามปฏิบัติพันธกรณีเกี่ยวกับการผดุงรักษาสันติภาพและ เสถียรภาพในทะเลตะวันออก ประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีการพิพาทในทะเลตะวันออกควรทำการวิจัยเพื่อลงนามคำมั่นสัญญาเกี่ยวกับการไม่ใช้กำลังก่อนในกรณีเกิดการพิพาทอธิปไตยและในการแก้ไขกรณีต่างๆในทะเลตะวันออกโดยเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงความตึงเครียด การปะทะ รักษาสันติภาพ และเสถียรภาพซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง”
|
คณะผู้แทนเวียดนามที่เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอาเซียน ครั้งที่๗
(Photo: dientu.chinhphu) |
ทัศนะที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือยืนหยัดแก้ไขการพิพาทอย่างสันติ ให้ความเคารพกฏหมายสากล รวมทั้ง อนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับกฏหมายทางทะเลปี๑๙๘๒ ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพประเทศสมาชิกอาเซียน ที่ประชุมADMM-7 เห็นพ้องกันว่า ฝ่ายต่างๆควรพยายามปฏิบัติแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือDOC แถลงการณ์๖ข้อเกี่ยวกับทะเลตะวันออกของอาเซียน พยายามผลักดันการเจรจาเพื่อร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือCOCระหว่างอาเซียนกับจีนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า กระบวนการพัฒนาของADMMทั้งในและนอกองค์การอาเซียนมีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงด้านทรัพยากรมนุษย์และแก้ไขปัญหาความมั่นคงรูปแบบใหม่ ดังนั้น นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของความร่วมมืออาเซียน ที่จะมีการจัดการฝึกซ้อมรับมือกับภัยพิบัติ และการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างเสนารักษ์ประเทศอาเซียน ที่ ประเทศบรูไนในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมขนาดใหญ่โดยมีการเข้าร่วมของประเทศADMM+ ซึ่งเป็นนิมิตรหมายของการพัฒนาที่สำคัญ และเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมโยงกลุ่มอาเซียนกับบรรดาหู้ส่วนในภูมิภาค ความประสงค์ที่จะมีบรรยากาศแห่งสันติภาพไม่เพียงแต่เป็นความปรารถนาของประเทศหนึ่งประเทศใดในภูมิภาคเท่านั้นหากแต่เป็นของทุกประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่กำลังพยายามแสวงหาเสียงพูดเดียวกันในฐานะกลุ่มที่มีเอกภาพ มุ่งสู่เป้าหมายการสร้างสรรค์ประชาคมความมั่นคงอาเซียนในปี๒๐๑๕ องค์การอาเซียนที่พึ่งพาตนเอง มีเอภาพและสามัคคี./.