ครอบครัวชาวเวียดกับความรักประเทศลาวอันเหลือล้น

Nguyễn Xuyến
Chia sẻ
(VOVWORLD) - จากการตามคุณพ่อและพี่สาวเข้าร่วมการปฏิวัติตั้งแต่ตอนอายุเพียง 12 ปี พันเอก ฟานหยิง ได้มีความเข้าใจแนวคิดของประธานโฮจิมินห์อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความสามัคคีระหว่างประเทศ ที่ว่า “การช่วยเหลือเพื่อนๆ คือการช่วยเหลือตนเอง” ด้วยการใช้ชีวิตในประเทศลาวมานานนับสิบปี และได้ปฏิบัติภารกิจต่างๆมากมาย เช่น ทำหน้าที่เป็นคนส่งข่าวภาคสนาม ทหารข่าวกรอง ผู้ช่วยของประธาน ไกสอน พมวิหาน และผู้เชี่ยวชาญทางทหาร ก็ยิ่งทำให้เขาหลงรักดินแดนแห่งอาณาจักรล้านช้างอย่างลึกซึ้งโดยไม่มีวันเลือนหาย
ครอบครัวชาวเวียดกับความรักประเทศลาวอันเหลือล้น - ảnh 1นาง ฝ่ามถิหงอกเหยียบ ภรรยานาย ฟานหยิง หรือนาย คำสิง
 
 

สำหรับนาย หยิง ประเทศลาวถือเป็นบ้านเช่นเดียวกับประเทศเวียดนาม  หลังจากเกษียณอายุราชการ ก็พยายามไปเที่ยวลาวทุกปี จนถึงช่วงเวลาก่อนใกล้สิ้นลมหายใจ นาย หยิง ได้บอกกับฉันว่า อยากไปประเทศลาวเป็นครั้งสุดท้าย ตอนไปลาวเพื่อนๆ ชาวลาวดีใจและให้การต้อนรับในอ้อมกอดแห่งความอบอุ่นและผูกพัน ซึ่งฉันเห็นเขาดีใจมาก ฉันจึงเข้าใจการเสียสละเพื่อประเทศลาวและปิตุภูมิเวียดนามของนาย หยิง

นี่คือเรื่องราวที่นาง ฝ่ามถิหงอกเหยียบ ภรรยานาย ฟานหยิง หรือนาย คำสิง เล่าให้ฟัง โดยครอบครัวของเขาได้อพยพไปอยู่ประเทศลาวตั้งแต่ช่วงปี 1940 และเข้าร่วมกิจกรรมการปฏิวัติ ตอนที่นาย หยิง อายุ 12 ปี ถึงแม้ยังเป็นนักเรียนตัวเล็กๆ คนหนึ่งในนครหลวงเวียงจันทน์ แต่นาย ฟานหยิง สามารถช่วยคุณพ่อนำส่งจดหมายลับหลายฉบับและหลังจากนั้นไม่นาน เขาเองก็ทำหน้าที่เป็นทหารอาสา จากการเข้าใจเป้าหมายของการปฏิวัติตั้งแต่ยังเด็กบวกกับความคล่องแคล่วและความเฉลี่ยวฉลาด เขาได้รับเลือกเข้าหน่วยเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทางทหาร ซึ่งนาย หยิง และภรรยา ได้แต่งงานกันเมื่อปี 1960 แต่ก็ต้องรอจนนาย หยิง เกษียณอายุราชการ เมื่อปี 1993 เขาถึงได้อยู่ร่วมกับครอบครัวอย่างใกล้ชิด

ทั้งชีวิตก็คงได้พบกันไม่กี่ครั้งกี่คราว แต่ที่บ้านไม่มีผู้ชายเลยสักคน จนถึงตอนที่เขาเกษียณอายุราชการ พวกเขาถึงจะได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่สุขภาพของเขาอ่อนแอและป่วยบ่อยครั้ง”

“ตั้งแต่เกิดจนถึงตอนผมอายุ 8 ขวบ ภาพจำเกี่ยวกับคุณพ่อของผมไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ ก่อนหน้านั้น ผมรู้แค่ว่า คุณพ่อเป็นทหาร แต่ก็ไม่รู้ว่างานที่แกทำคืออะไร พี่น้องผมได้เจอคุณพ่อจริงๆ จังๆ ไม่กี่ครั้งเอง

ครอบครัวชาวเวียดกับความรักประเทศลาวอันเหลือล้น - ảnh 2นาย ฟานเจื่องเซิน 

นาย ฟานเจื่องเซิน และนางสาว ฟานถิแทงหาย เป็นลูกชายคนโตและลูกสาวคนที่สองของนาย ฟานหยิง เผยว่า คุณพ่อมักจะส่งจดหมายให้กำลังใจและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์มิตรภาพเวียดนาม-ลาว รวมถึงความยากลำบากและภัยอันตรายต่างๆ ให้ภรรยาและลูกๆ ฟัง ตอนที่ได้อยู่ด้วยกัน นาย ฟานหยิง ก็พาภรรยาและลูกๆ ไปพบปะและพูดคุยกับเพื่อนๆ ชาวลาว ซึ่งทำให้พวกเขาได้มีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับชีวิตของคุณพ่อและสัมพันธไมตรีเวียดนาม-ลาวอันใกล้ชิด

คุณพ่อเป็นคนที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและความรักของเขาต่อประเทศลาวให้แก่สมาชิกทุกคนในครอบครัวอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เดินทางกลับเวียดนาม ถ้าคุณพ่อไปไหนมาไหนกับเพื่อนๆ ชาวลาว ก็พาผมไปด้วยตลอด โดยหวังว่า สมาชิกทุกคนในครอบครัวจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศลาวเหมือนพี่น้องในครอบครัว เมื่อครอบครัวของพวกเราได้เจอเพื่อนๆ คนลาว ก็จะรู้สึกมีความใกล้ชิดกัน แม้ผมจะพูดภาษาลาวไม่เป็น ส่วนคุณแม่ผมก็รู้สึกดีใจเมื่อได้เดินทางไปประเทศลาว

พ่อแม่ยังอยู่ห่างไกลกับครอบครัว แต่ทุกครั้งที่กลับบ้าน เขาก็ใส่ใจให้กับครอบครัวอย่างมาก สอนลูกๆ เรียนหนังสือ และชอบเขียนจดหมายเพื่อให้กำลังใจและเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ภรรยาและลูกๆ ฟัง

ครอบครัวชาวเวียดกับความรักประเทศลาวอันเหลือล้น - ảnh 3ครอบครัวนาย ฟานหยิงและนาง ฝ่ามถิหงอกเหยียบ 

นาย ฟานเจื่องกวาง ลูกชายคนสุดท้องกำลังแนะนำบรรดาผู้นำระดับสูงที่ละคน รวมถึงเพื่อนๆ ชาวลาวที่คุณพ่อสนิทสนม ผ่านภาพถ่ายในอัลบั้มเล่มหนาราวร้อยรูป เขาเล่าให้ฟังว่า แม้คุณพ่อไม่ได้อยู่กับพวกเขาอีกต่อไป แต่ความรักของคุณพ่อและครอบครัวที่มีต่อประเทศลาวจะไม่มีวันเลือนหาย นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจเรียนภาษาลาวเพื่อใช้ชีวิตกับประเทศลาวได้มากขึ้น นาย กวาง ยังเล่าให้ฟังอีกว่า คุณตาของเขาก็เป็นทหารอาสาพลีชีพเวียดนามในพื้นที่ Nỏng Tòn Lào เมื่อปี 1953 ส่วนคุณแม่ เหยียบ ของเขาก็เกิดที่นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเขาเก่งภาษาลาวมากและทำอาหารลาวอร่อยด้วย

ในบ้านของผมจะมีปลาร้าและใบมะกรูดตลอด คุณแม่ทำอาหารลาวอร่อยมาก โดยเฉพาะส้มตำ ต้มยำ และแกงกะทิ

ปลาร้า ใบมะกรูด ครกสากและหวดนึ่งข้าวเหนียว เป็นอุปกรณ์และวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้ในห้องครัวของคนลาว ซึ่งที่บ้านของนาย ฟานหยิง และนาง เหยียบ ก็มีเช่นกัน โดยนอกเหนือจากอาหารพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของเวียดนามแล้ว ครอบครัวนายหยิง ก็มักจะทำอาหารลาวหนึ่งหรือสองอย่างเพื่อต้อนรับแขกหรือเพื่อนๆ หรือในโอกาสที่สมาชิกในครอบครัวมารวมตัวกัน  ลูกสะใภ้ของนาง เหยียบ ก็สามารถทำอาหารลาวได้อย่างคล่องแคลวไม่แพ้เขา นาง เลบิ๊กแห่ง ลูกสะใภ้ของนาง เหยียบ เผยว่า

คุณแม่ทำอาหารลาวอร่อยมากๆ และฉันก็อยากเรียนจากคุณแม่ ทุกครั้งที่เห็นคุณแม่ทำอาหาร ฉันก็ถามแล้วทำตาม ฉันสามารถทำเมนูส้มตำ ต้มยำ และลาบ เมื่อได้รู้จักนาย เซิน และกลายเป็นสมาชิกในครอบครัวเขา ก็ช่วยให้ฉันมีความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเทศลาวมากขึ้น

ทั้งนี้ สมาชิกทุกคนในครอบครัวนาย ฟานหยิง และนาง ฝ่ามถิหงอกเหยียบ รวมถึงลูกเขย ลูกสะใภ้และหลานๆ ได้ไปเที่ยวประเทศลาวอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ซึ่งพวกเขาต่างก็มีความรู้สึกที่ดีเกี่ยวกับประเทศที่สวยงาม ประชาชนชาวลาวที่เป็นมิตรและเป็นกันเอง มีความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้องที่พิเศษอย่างใกล้ชิดเวียดนาม-ลาว โดยทุกๆ วัน นาง เหยียบ ยังคงทำความสะอาดและดูแลของที่ระลึกหลายชิ้นจากประเทศลาวที่วางไว้ข้างโต๊ะน้ำชา ส่วนลูกหลานของเธอก็พยายามเก็บรักษาของที่ระลึกเหล่านี้ อีกทั้งแปลงชุดเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคุณพ่อและความสัมพันธ์เวียดนาม-ลาวให้เป็นดิจิทัลเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป./.

Feedback