นาย เวืองเถื่อฟองยังเน้นว่า สถานประกอบการเวียดนาม ซึ่งเป็นตัวหลักในกระบวนการร่วมมือและแข่งขัน ต้องผลักดันการปฏิรูป ยกระดับคุณภาพสินค้า มีความคล่องตัว เป็นฝ่ายรุกเพื่อโช้โอกาสและความสะดวกจากข้อตกลงเอฟทีเอเวียดนาม-อียู
หลังจากที่เสร็จสิ้นการเจรจา ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทั้งสองฝ่ายจะเสร็จสิ้นการร่างเอกสารต่างๆ ระเบียบราชการและแก้ไขปัญหาด้านเทคนิค คาดว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะได้รับการลงนามในปลายปีนี้ในโอกาสฉลองครบรอบ๒๐ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามกับอียู.