ผู้นำทั้งสองท่านออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน |
สำหรับความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องจัดทำแผนการที่เป็นรูปธรรมเพื่อปฏิบัติข้อตกลงที่ได้ลงนามเพื่อผลักดันการค้าทวิภาคี รวมทั้งมาตรการส่งเสริมการค้า เรียกร้องให้ลดกำแพงด้านการค้า เช่น กำแพงด้านเทคนิคและการปลอดภาษี ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องผลักดันการลงทุนทวิภาคี รวมทั้งโครงการร่วมมือระหว่างเครือบริษัทปิโตรเลี่ยมเวียดนามกับบริษัทปิโตรเลี่ยมแห่งชาติอินเดียในการสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลี่ยมบนแผ่นดินใหญ่ ไหล่ทวีปและเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนาม ส่งเสริมการเป็นฝ่ายรุกในการแสวงหารูปแบบความร่วมมือ รวมทั้งความร่วมมือกับประเทศที่สาม เวียดนามมีความยินดีและจะอำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการอินเดียเข้ามาลงทุนในโครงการพลังงานใหม่และพลังงานหมุนเวียนในเวียดนาม ส่วนอินเดียจะอำนวยความสะดวกให้แก่การลงทุนของสถานประกอบการเวียดนามเช่นกัน โดยเฉพาะในการเกษตร การแปรรูปสินค้าการเกษตร สัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ไม้ในอินเดีย ตลอดจนเห็นพ้องปฏิบัติควางร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น การเกษตร การศึกษาฝึกอบรม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วัฒนธรรม การท่องเที่ยวและการพบปะในระดับประชาชน
สำหรับความร่วมมือบนเวทีภูมิภาคและโลก ผู้นำทั้งสองท่านได้แสดงทัศนะที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับปัญหาระดับภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ โดยยืนยันถึงบทบาทสำคัญของการสร้างสรรค์ภูมิภาคเอเชียและมหาสมุทรอินเดีย – แปซิฟิกที่สันติภาพ เจริญรุ่งเรืองบนพื้นฐานคือให้ความเคารพอธิปไตยและกฎหมายสากล การเดินเรือและการบินอย่างเสรีและเศรษฐกิจไม่ถูกกีดขวาง ประธานาธิบดีอินเดียได้ชื่นชมเวียดนามที่ได้ประสานงานจัดการประชุมมหาสมุทรอินเดียครั้งที่ 3 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ และย้ำถึงบทบาทของอินเดียและเวียดนามในการธำรงและปรับปรุงโครงสร้างภูมิภาคที่เปิดกว้าง โปร่งใส ครอบคลุมและปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนประธานประเทศเวียดนาม เหงียนฟู้จ่อง ได้ยืนยันสนับสนุนนโยบาย “มุ่งสู่ทิศตะวันออก” ของอินเดียและชื่นชมการที่อินเดียได้สนับสนุนบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในโครงสร้างภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องจะประสานงานอย่างใกล้ชิด สนับสนุนกันในฟอรั่มพหุภาคี โดยเฉพาะในกรอบสหประชาชาติ ยืนยันอีกครั้งที่จะสนับสนุนกันลงสมัครเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 ของเวียดนามและวาระปี 2021-2022 ของอินเดีย.