(VOVWorld) – วันที่๑๐เดือนนี้ คณะผู้แทนระดับสูงของรัฐบาลเวียดนามนำโดยท่านVũ Văn Ninh รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เสร็จสิ้นการเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่๗ถึงวันที่๑๐เดือนนี้ตามคำเชิญของรัฐบาลอินเดีย ในการเจรจากับรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียSalman Khushid เมื่อวันที่๙เดือนนี้ ท่านVũ Văn Ninh ได้ยืนยันถึงนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือให้ความสำคัญต่อการขยายสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับอินเดีย ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันถึงความตั้งใจที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนายิ่งขึ้นซึ่งบนเจตนารมณ์นี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเกี่ยวกับการค้า ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ข้อตกลงเพิ่มเติมสำหรับข้อตกลงการบินปี๑๙๙๓  ข้อตกลงช่วยเหลือด้านตุลาการพลเรือน ข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างกระทรวงยุติธรรมเวียดนามกับกระทรวงยุติธรรมอินเดีย ขยายความร่วมมือในด้านการป้องกันประเทศ วัฒนธรรม การศึกษา การพบปะสังสรรค์ของประชาชน พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้อยู่ที่๗พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี๒๐๑๕ ทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันถึงความสำคัญของการผดุงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยในการเดินเรือทะเล และสิทธิการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรณ์ธรรมชาติในทะเลตะวันออก  ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องในทะเลตะวันออกควรมีความอดกลั้น เลี่ยงการใช้กำลังหรือขู่ใช้กำลัง แก้ไขการพิพาทผ่านการเจรจาอย่างสันติโดยอาศัยกฏหมายสากล โดยเฉพาะ อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี๑๙๘๒ แถลงการณ์๖ข้อของอาเซียนเกี่ยวกับทะเลตะวันออกและแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือDOCและมุ่งสู่การร่างระเบียบการปฏิบัติเกี่ยวกับทะเลตะวันออกหรือCOC 

ส่วนค่ำวันที่9มกราคม ณ กรุงนิวเดลลี ได้มีการจัดพิธีเสร็จสิ้นปีแห่งมิตรภาพเวียดนาม-อินเดีย2012 ในการกล่าวปราศรัย ณ พิธี ท่าน บุ่ยแทงเซินรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความปรารถนาในการกระชับความร่วมมือกับอินเดียในด้านที่อินเดียมีศักยภาพเช่นการศึกษา วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ ชีวภาพ นาโนและนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ ส่วนรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศอินเดีย Sanjay Singh ได้แสดงความพึงพอใจต่อความสำเร็จของปีมิตรภาพเวียดนาม-อินเดียปี2012และพัฒนาการที่เข้มแข็งของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในตลอด40ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะหลังจากที่มีการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ปี2007 ซึ่งจะเป็นพื้นฐานเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่ความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศในอนาคต./.