ท่าน เจิ่นด่ายกวางและแขกรับเชิญได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการร่วมมือระหว่างสถานประกอบการและท้องถิ่นของทั้ง 2 ประเทศ

ในการนี้ ท่าน เจิ่นด่ายกวาง ได้ชี้ชัดว่า นี่เป็นโอกาสเพื่อให้สถานประกอบกาของทั้ง 2 ประเทศได้ทบทวนผลความร่วมมือ แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ ศักยภาพและโอกาสความร่วมมือเพื่อการพัฒนาในระยะใหม่เพื่อมีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างลึกเพื่อสันติภาพและความรเจริญรุ่งเรืองในเอเชียในเวลาข้างหน้า พร้อมทั้งย้ำว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ เทคโนโลยีที่ทันสมัย การบริหารและวัฒนธรรมของสถานประกอบการและนักธุรกิจญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนและประกอบธุรกิจในเวียดนามและย้ำว่า จากเป้าหมายพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัย เวียดนามมีความต้องการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานและการศึกษา ซึ่งเป็นด้านที่ญี่ปุ่นมีจุดแข็งและเป็นโอกาสให้สถานประกอบการญี่ปุ่นขยายการลงทุนในเวียดนาม โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมการผลิต การเกษตร พลังงาน เทคโนโลยีสารสนเทศ การก่อสร้างเมืองอัจฉริยะ การบริการ โครงสร้างพื้นฐาน การคลัง ธนาคารและธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมถึงการเข้าร่วมกระบวนการแปรสถานประกอบการภาครัฐให้เป็นบริษัทหุ้นส่วน

โอกาสนี้ ท่าน เจิ่นด่ายกวางและแขกรับเชิญได้เป็นสักขีพยานในพิธีมอบใบอนุญาตลงทุนและบันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการร่วมมือระหว่างสถานประกอบการและท้องถิ่นของทั้ง 2 ประเทศ พิธีประกาศเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างกรุงฮานอยกับเมืองโอซาก้าของสายการบิน Vietjet Air ในวันที่ 8 พฤศจิกายน

ก่อนหน้านั้น ท่าน เจิ่นด่ายกวาง ได้พบปะกับประธานองค์การส่งเสริมการค้าญี่ปุ่น หรือ JETROโดยได้เสนอให้JETRO ส่งเสริมให้สถานประกอบการญี่ปุ่นลงทุนด้านการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมประกอบ อุตสาหกรรมการผลิตและสนับสนุนเวียดนามยกระดับระบบห่วงโซ่คุณค่าของผลิตภัณฑ์เกษตร ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้ผลิตภัณฑ์เกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำเวียดนามสามารถเจาะตลาดญี่ปุ่น.