เวียดนามและอินโดนีเซียเห็นพ้องสร้างก้าวกระโดดใหม่ในความสัมพันธ์ทวิภาคี

Chia sẻ
(VOVWORLD) -ตามคำเชิญของประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วิโดโด นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหงียนซวนฟุ๊กได้นำคณะผู้แทนเวียดนามเยือนประเทศอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ
เวียดนามและอินโดนีเซียเห็นพ้องสร้างก้าวกระโดดใหม่ในความสัมพันธ์ทวิภาคี - ảnh 1ผู้นำสองประเทศออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน (Photo chinhphu.vn)

เช้าวันที่ 12 ตุลาคม ณ เกาะบาหลี นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้เจรจากับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โดยในการการเจรจา ผู้นำทั้งสองท่านได้หารือเกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นำความร่วมมือขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่และเอื้อประโยชน์อย่างแท้จริงให้แก่ประชาชน ตลอดย้ำว่า ต้องสร้างก้าวกระโดดและกระชับให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจกลายเป็นเสาหลักของหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐและอำนวยความสะดวกมากขึ้นให้สินค้าที่เป็นจุดแข็งของเวียดนามและอินโดนีเซียสามารถเจาะตลาดระหว่างกัน ลดกำแพงต่างๆและขั้นตอนระเบียบในด้านภาษีศุลกากร มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการตรวจสอบแหล่งที่มาของสินค้าและโรคระบาด

ผู้นำทั้งสองท่านได้ย้ำถึงการขยายความร่วมมือในปัญหาทะเลและเห็นพ้องที่จะมอบหมายหน้าที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศพิจารณาการจัดทำกลไกความร่วมมือในด้านนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับเนื้อหาร่วมมือที่เกี่ยวข้อง ทั้งสองฝ่ายยังแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และให้คำมั่นขยายความร่วมมือและประสานงานในฟอรั่มระหว่างประเทศ

หลังการเจรจา ผู้นำทั้งสองท่านได้เข้าร่วมการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการเจรจา โดย ประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีเวียดนามที่ได้อำนวยความสะดวกให้นักลงทุนอินโดนีเซียประกอบธุรกิจในเวียดนาม ชื่นชมความร่วมมือและการแก้ไขอุปสรรคในปัญหานำเข้ารถยนต์จากอินโดนีเซีย พร้อมทั้งแสดงความประสงค์ว่า สถานประกอบการอินโดนีเซียจะศึกษาโอกาสประกอบธุรกิจในตลาดเวียดนามที่มีศักยภาพ

ส่วนนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงียนซวนฟุ๊กได้ย้ำว่า หลังการเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีอินโดนีเซียเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา การเยือนอินโดนีเซียครั้งนี้ของตนก็ได้สะท้อนความไว้วางใจกัน ความอบอุ่นและความตั้งใจของรัฐบาลทั้งสองประเทศที่จะนำความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์พัฒนาอย่างเข้มแข็งและลึกซึ้งมากขึ้น            “พวกเราเห็นพ้องกันว่า จะสร้างก้าวกระโดดใหม่และนำความร่วมมือเศรษฐกิจเป็นเสาหลักของหุ้นสวนยุทธศาสตร์ พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐตามแนวทางที่ยุติธรรม เอื้อประโยชน์มากขึ้นต่อกลไกการสนทนาระหว่างสถานประกอบการกับสถานประกอบการและสถานประกอบการกับรัฐบาล สนับสนุนสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมและแก้ไขอุปสรรคต่างๆ วันนี้พวกเราได้พูดคุยกับสถานประกอบการอินโดนีเซียบางแห่ง ซึ่งเวียดนามจะแก้ไขอุปสรรคต่อไปเพื่อส่งเสริมการประกอบธุรกิจของสถานประกอบการอินโดนีเซียในเวียดนามมากขึ้น”

นายกรัฐมนตรีเวียดนามยังเผยว่า ทั้งสองประเทศได้ยืนยันคำมั่นเกี่ยวกับความร่วมมืออย่างใกล้ชิดมากขึ้น ใช้โอกาสความร่วมมือพัฒนา ร่วมกันสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนที่สามัคคี เปลี่ยนแปลงใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ พึ่งพาตนเองและมีบทบาทเป็นศูนย์กลางของโครงสร้างภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายก็ย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง การเดินเรือและการบินอย่างปลอดภัยและเสรีในทะเลตะวันออก การแก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธีและการปฏิบัติตามอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982.

Feedback